ปชป.ประกาศสงครามกับฝุ่น PM2.5 หนุนบังคับใช้กฎหมาย อากาศสะอาดจริงจัง
ปชป.โชว์วัดค่า PM2.5 กลางแยกปทุมวัน ประกาศทำสงครามกับฝุ่นพิษ เริ่ม 16 พื้นที่นำร่องกรุงเทพฯ ชั้นใน โชว์จอแสดงปริมาณฝุ่น - งดรถควันดำวิ่ง หนุน กฎหมายอากาศสะอาดบังคับใช้จริงจัง
13 มีนาคม 2566 พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ , ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. อาทิ นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ เขตพระนคร-ป้อมปราบฯ สัมพันธวงศ์-ดุสิต , พล.ต.ต.ดร.วิชัย สังข์ประไพ เขตหลักสี่-จตุจักร , น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ เขตปทุมวัน-สาทร-บางรัก , นายอภิมุข ฉันทวานิช เขตบางคอแหลม-ยานนาวา , นายกิตพล เชิดชูกิจกุล เขตสะพานสูง-ประเวศ , นพ.พลวิทย์ เจริญพงศ์ เขตบางกอกน้อย-ตลิ่งชัน , น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร (แนน) เขตพญาไท-ราชเทวี
นายองอาจ กล่าวว่า PM2.5 เป็นปัญหาที่อยู่คู่กับ กทม.มาอย่างยาวนาน หลายปีที่ผ่านมา มีการพูดคุยกันหลายครั้ง แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะการดำเนินการแก้ไขของผู้นำประเทศมีทัศนคติที่ไม่ถูกต้อง ตั้งแต่เริ่ม PM2.5 ใหม่ๆ ผู้บริหารบอกว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามเทศกาล และจะหายไปเอง นั่นเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง อีกทั้งคิดว่าประเทศเรามีมาตรการระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้เอาจริงเอาจัง การจะแก้ปัญหาจึงต้องมีวิธีการที่ถูกต้อง และจริงจัง โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้มองเห็นถึงปัญหา และรับฟังภาคประชาสังคมต่างๆ จนนำมากลั่นกรองเป็นวิธีการแก้ปัญหา และนโยบาย
ด้าน นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า วันนี้ถึงเป็นการร่วมประกาศเจตนารมณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ในการ ประกาศสงครามกับฝุ่นพิษ PM 2.5 พร้อมพิสูจน์ให้เห็นว่าฝนไม่สามารถแก้ PM 2.5 ได้ ซึ่งได้มีการนำเรื่องมาวัดล่าสุดยังเกินมาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แม้เมื่อคืนจะมีฝนตก ดังนั้นจึงเป็นข้อพิสูจน์ว่าคนที่รับผิดชอบต้องให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับประชาชน และวันนี้ประชาธิปัตย์ประกาศชัดเจนว่าจะเป็นตัวแทนกับประชาชนในการทำสงครามกับ PM 2.5
นายสุชัชวีร์ กล่าวอีกว่า สิทธิการสูดอากาศบริสุทธิ์ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และเป็นสิ่งที่ทุกคนควรได้รับ ซึ่งที่ผ่านมาขนาดพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ที่มีประชากรหนาแน่น แต่ไม่มีจอแสดงข้อมูลเรื่องฝุ่นพิษให้ประชาชนได้รับทราบจากนั้นประชาธิปัตย์จะสนับสนุนให้ประชาชนได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานโดยทำจอแสดงฝุ่นพิษในพื้นที่ต่างๆ รวมถึง เร่งผลักดันกฎหมายอากาศ สะอาด ซึ่งต้องเป็นกฎหมายที่ประชาชน ภาควิชาการ และทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายและเป็นสากล คนที่รับผิดชอบ และโรงงานอุตสาหกรรม ที่มี เป้าหมายในการลดฝุ่นพิษจะมีโบนัสให้ ส่วนคนไร้ความรับผิดชอบ จะกำหนดค่าปรับตามระดับฝุ่นพิษที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาดูแลสุขภาพของผู้ที่ได้รับผลกระทบ
กฎหมายสะอาดยังจะสนับสนุนการวิจัย และเทคโนโลยี ด้านการวัดฝุ่น ป้องกัน และแก้ไขปัญหาฝุ่น รวมทั้งสร้างคนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด
โดย พรรคประชาธิปัตย์จะให้พื้นที่ 16 เขตชั้นในเป็นพื้นที่นำร่อง ได้แก่ เขตพระนคร , สาทร , บางคอแหลม , ธนบุรี ยานนาวา , สัมพันธวงศ์ , ดุสิต , ปทุมวัน , ราชเทวี , พญาไท , บางพลัด , บางกอกน้อย , บางกอกใหญ่ , คลองสาน , บางรัก , ป้อมปราบศัตรูพ่าย เพราะในพื้นที่เหล่านี้มีสถานพยาบาลโรงเรียนจำนวนมาก
โดยกฎหมายฉบับนี้จะสนับสนุนการกระจายอำนาจเริ่มต้นจากการควบคุมรถควันดำ รถบรรทุกห้ามเข้าพื้นที่ อาคารที่มีการก่อสร้างในพื้นที่ชั้นในจะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมและประชาชน หากทำผิดกฎต้องเสียค่าปรับค่าธรรมเนียม และหากสามารถลดฝุ่นพิษได้ นำค่าใช้จ่ายเหล่านั้นมาลดหย่อนภาษีได้
นอกจากนี้ นายสุชัชวีร์ ยังนำเครื่องวัดปริมาณฝุ่น PM2.5 มาวัดค่า ที่ ริมถนนแยกปทุมวัน เพื่อพิสูจน์ว่าขณะนี้กรุงเทพมหานคร ชั้นไหนมีปริมาณฝุ่นเกินมาตรฐาน และละอองฝนไม่สามารถแก้ปัญหาฝุ่นพิษได้ โดยวัดค่าล่าสุดเวลา 09:30 น. พบว่ามีปริมาณ 68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์