"ก้าวไกล" ยันส่ง "โตโต้" ชิง ส.ส.บางนา แม้ถูกศาลสั่งคุกแต่รอลงอาญาคดีม็อบ
ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 20 วัน ปรับ 6,000 บาท “โตโต้ ปิยรัฐ” อดีตหัวหน้า “การ์ดวีโว่” กับพวก คดีก่อม็อบแยกอุรุพงษ์ปี 63 แต่ให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี รอลงอาญา 2 ปี สั่งคุมประพฤติ-บริการสังคม 24 ชั่วโมง “ก้าวไกล” ยันยังส่งชิง ส.ส.เขตบางนาต่อ
เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2566 ที่ห้องพิจารณา 709 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีร่วมกันมั่วสุมชุมนุม หมายเลขดำ อ.2092/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ "โตโต้" อดีตหัวหน้ากลุ่มการ์ดวีโว่ ปัจจุบันเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล กับพวกรวม 19 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานมั่วสุมชุมนุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่
อัยการโจทก์ฟ้องระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2563 เวลากลางคืน จำเลยกับพวกอีกหลายคนร่วมกันจัดการชุมนุมมั่วสุม บริเวณแยกอุรุพงษ์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แล้วร่วมกันรื้อลวดหีบเพลง และแผงกั้นเหล็ก ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท ได้ประกาศให้พวกจำเลยเลิกชุมนุมมั่วสุม แต่พวกจำเลยไม่ยอม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุม แต่พวกจำเลยร่วมกันต่อสู้ขัดขวางโดยใช้แผงเหล็กดันกระแทกใส่ ใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายจึงขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 138, 140, 215, 216 โดยจำเลยให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว
ในวันนี้นายปิยรัฐ หรือโตโต้ กับพวกทั้ง 19 คนเดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมทนายความ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่าโจทก์มีพยานหลักฐานให้รับฟังมั่นคงว่า จำเลยทั้ง 19 คน กระทำผิดฐานร่วมกันชุมนุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามป.อาญา มาตรา 215 วรรคแรกประกอบ มาตรา 83 พิพากษาจำคุกคนละ 1 เดือน ปรับคนละ 9,000 บาท คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 20 วัน ปรับเงินคนละ 6,000 บาท แต่ไม่ปรากฏว่าเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนเห็นควรให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี จึงรอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ให้คุมประพฤติคนละ 1 ปี และรายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ให้ทำงานเพื่อประโยชน์สาธารณะบริการสังคมเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ส่วนข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง
- “ก้าวไกล”ยันส่ง “โตโต้”ชิง ส.ส.เขตบางนา แม้โดนศาลสั่งคุก
วันเดียวกัน นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ดูแลการเลือกตั้ง กทม. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลอาญาสั่งจำคุกนายปิยรัฐ อดีตหัวหน้ากลุ่มการ์ดวีโว่ ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.เขตบางนา พรรคก้าวไกล คดีการชุมนุมแยกอุรุพงษ์ แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี ว่า เรื่องนี้ไม่มีผลต่อการเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของนายปิยรัฐ โดยเป็นกรณีการรื้อรั้วลวดหนาม ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรร้ายแรง ศาลให้รอลงอาญา 2 ปี และมีค่าปรับ ไม่มีผลทางกฎหมายที่จะปิดกั้นไม่ให้นายปิยรัฐ เป็นผู้สมัครของพรรคก้าวไกล เพราะไม่ได้ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร พรรคก้าวไกลยืนยันว่านายปิยรัฐยังเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางนา พรรคก้าวไกล และเราหมายมั่นว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในการส่งนายปิยรัฐเข้าไปทำหน้าที่ ส.ส. ในสภาต่อไป
- "โตโต้" ยันพร้อมลง ส.ส.ต่อ ลุยสู้อีก 3 คดี ม.112
วันเดียวกัน นายปิยรัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลมีคำพิพากษาว่า ในคดีนี้จำเลยทั้ง 19 คนได้เตรียมใจมาในระดับหนึ่ง เพราะท่าทีของศาลมีความรัดกุมและคาดว่าจะมีการลงโทษ เมื่อศาลอ่านคำพิพากษาก็ไม่เกินกว่าการคาดการณ์เอาไว้ ส่วนจะส่งผลต่อการลงสมัคร ส.ส.ของนายปิยรัฐหรือไม่ นายปิยรัฐกล่าวว่า ตนได้ปรึกษากับทนายความของพรรคแล้ว พยายามศึกษาระเบียบรูปแบบการคุมประพฤติ เนื่องจากมีในส่วนของรูปแบบงานบริการสังคมระหว่างคุมประพฤติ ซึ่งอาจตีความได้ว่าเป็นการสัญญาว่าจะให้ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้ง หรือเป็นการเสนอประโยชน์อื่นใดให้กับประชาชน เป็นกฎหมายที่ขัดแย้งกันเองหรือไม่กับคำสั่งศาล ซึ่งต้องตีความอีกครั้ง เนื่องจากผู้ถูกคุมประพฤติอาจต้องไปทำกิจกรรมทาสีบ้าน ทาสีถนน คนได้ประโยชน์คือประชาชน จะตีความว่าตนหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่ ส่วนเรื่องคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส. นั้น ทนายความของพรรคยืนยันว่าไม่มีผล เนื่องจากไม่ได้จำคุกจริง
เมื่อถามว่าต้องแจ้งต่อ กกต. หรือไม่ นายปิยรัฐ กล่าวว่า เบื้องต้นไม่ได้แจ้ง เนื่องจากคำพิพากษาไม่ได้จำคุกจริง เป็นเพียงการสั่งให้รอลงอาญาเท่านั้น ยกเว้นคดีถึงที่สุดแล้วและมีการจำคุกจริง จึงต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมให้ กกต. ในวันสมัคร ซึ่งหากจำคุกจริงเพียง 1 วันก็ต้องแจ้งเอกสารคำพิพากษาแก่ กกต. เพราะต้องพิสูจน์ว่าหากเป็นโทษที่ได้รับถึงที่สุด แล้วถูกจำคุกจริงเพียง 1 วันก็ต้องถูกตัดสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งถึง 5 ปี
ส่วนเรื่องนี้ได้มีการคุยกับพรรคก้าวไกลอย่างไรบ้าง นายปิยรัฐ กล่าวว่า พรรคไม่มีความกังวลในกรณีนี้เพราะเหตุไม่รุนแรงหรือเกี่ยวกับการประท้วง เป็นเพียงการเข้าไปเก็บลวดหนาม ไม่มีการบุกรุกสถานที่หรือโจมตีสถาบัน เมื่อถามย้ำว่าพรรคก้าวไกลยืนยันหรือไม่ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนตัวว่าที่ผู้สมัครมาแทนที่ นายปิยรัฐยืนยันว่า ไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้สมัครใดๆทั้งสิ้น ตราบใดที่ยังไม่มีการจำคุกจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยรัฐยังคงต่อสู้คดีที่ถูกกล่าวหาจากการทำกิจกรรมชุมนุมทางการเมือง ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อีก 3 คดี โดยคดีที่จังหวัดกาฬสินธุ์จะสืบพยานแล้วเสร็จในช่วง 3 เดือนหลังจากนี้ อาจมีคำพิพากษาช่วงหลังการเลือกตั้ง ส่วนคดีที่เหลือจะสืบพยานเสร็จในช่วงปลายปี
นายปิยรัฐ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องนี้จะไม่ส่งผลต่อความนิยมของตัวเองในพื้นที่เขตพระโขนงบางนา เวลาที่ตนลงพื้นที่ในช่วง 7-8 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนเริ่มรู้จักพอสมควรแล้ว เชื่อว่าประชาชนเป็นห่วงไม่อยากให้ดเนดำเนินคดีมากกว่า และหากตนถูกพิพากษาลงโทษขณะเป็น ส.ส. แล้ว เชื่อว่าเขตนั้นจะได้รับคะแนนความสงสารอย่างท่วมท้น ไม่ว่าจะเป็นใครมาลงแทนที่ก็ตาม แทบไม่ต้องลงแรงเลย พื้นที่พระโขนง-บางนา เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของพรรคก้าวไกลอยู่แล้ว