ตามคาด! รทสช.เคาะ “ประยุทธ์-พีระพันธุ์” แคนดิเดตนายกฯ 3 นิ้วบุกป่วนงาน

ตามคาด! รทสช.เคาะ “ประยุทธ์-พีระพันธุ์” แคนดิเดตนายกฯ 3 นิ้วบุกป่วนงาน

รทสช.เคาะ “ประยุทธ์-พีระพันธุ์” แคนดิเดตนายกฯ ลั่นเป็นลูกผู้ชายพอ ทำการเมืองสร้างสรรค์ไม่โจมตีใคร ย้ำมี “หัวใจสีม่วง” พูดโกหกไม่เป็นเพราะใกล้ตาย ลั่นพรรคจะเป็นสถาบันการเมือง ไม่ใช่ทางผ่านใคร ลั่นอยู่ครบ 4 ปีสมัยหน้า มีวัยรุ่นบุกเดี่ยวชู 3 นิ้วป่วนงาน

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2566 ที่เมืองทองธานี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี พร้อมเปิดตัวว่าที่ ผู้สมัครส.ส. 400 เขตทั่วประเทศ และเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรค โดยเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ เดินทางมาถึงสถานที่จัดงาน ในเวลา 14.11 น มีบรรดาแกนนำให้การต้อนรับรวมไปถึงแฟนคลับมารอให้กำลังใจ 
    
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอให้ทุกคนทำเพื่อประเทศชาตินะ ขณะที่แกนนำพรรคกล่าวแซว พล.อ.ประยุทธ์ ถึงการลงพื้นที่หัวลำโพงเมื่อวานนี้ว่า ทำไมถึงไปลงพื้นที่กันแค่ 3 คน หลังจากที่ พล.อ ประยุทธ์ เข้าห้องรับรองได้มีแฟนคลับมารอให้นายกรัฐมนตรีเซ็นหนังสือ "มาเหนือเมฆ" ก่อนที่จะรอทักทายบรรดาสมาชิกที่มารออยู่ภายในห้องประชุม

โดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า วันนี้ตนภูมิใจและมีความสุข ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ มีวันนี้ เพราะมีปณิธานที่จะสร้างสถาบันทางการเมืองให้เป็นที่พึ่งของประชาชนและประเทศชาติบ้านเมือง รวมถึงคนไทยทั้งประเทศ ภายใต้แนวคิด ยึดหลัก 3 สถาบันหลักของชาติ และยังมีความสุข ที่จะได้ผู้นำ ที่มีความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ ประคับประคองประเทศฝ่าวิกฤต

ก่อนที่จะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 400 เขตทีละภาค พื้นที่ภาคอีสาน เช่นนายวิทยา แก้วภารดัย นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท  

พื้นที่ภาคเหนือนำโดยนายจุติ ไกรฤกษ์ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู นายแพทย์ปรีชา มุสิกุล  อดีตส.สพรรคประชาธิปัตย์ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีตส.ส. พรรคเพื่อชาติ นายนิโรธ สุนทรเลขา อดีตส.ส.พรรคพลังประชารัฐ

ภาคกลางนำโดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายอัคเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ อดีต สส ประชาธิปัตย์ นางสาว กุลวดี นพอมรวดี อดีตส.ส.พลังประชารัฐ นางสาวฐิติพัฒน์  โชติเชดาชัยอนันต์ อดีตส.ส.พรรคพลังประชารัฐ  นางรังสิมา รอดรัศมี อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์

ภาคพื้นที่ภาคใต้ นำโดย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร เจ้าของพื้นที่จังหวัดพัทลุง

ว่าที่ผู้สมัคร สส. 33 เขตของกรุงเทพมหานคร นำโดย พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายพีระพันธุ์  กล่าวว่า พรรคตั้งเมื่อ 7 เดือนที่ผ่านมา ต้องใช้ความอดทนมานะ เพราะเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ แต่เพียง 7 เดือน มีความพร้อม สามารถชนะทุกพรรคในการเตรียมตัวเลือกตั้ง บอกอยู่การเมืองมา  30 ปี ตลอดเส้นทางการเมืองของตนอยากเห็นพรรคการเมือง ที่เป็นที่พึ่งให้กับประชาชนอย่างแท้จริง แล้วต้องเป็นพรรคที่ทำงานเพื่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ด้วยหัวใจซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่โกง ไม่กิน และเป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวที่ทำเพื่อชาติและประชาชน ไม่โกง ไม่กิน มีคติประจำใจว่า ดีกว่าพูดแล้วไม่ทำ 
    
นายพีระพันธุ์  กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่เลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่เป็นการเลือกคนที่จะมานำพาประเทศให้เดินหน้าไปแบบใหม่ แต่พรรครวมไทย สร้างชาติ ขอประกาศนำพาประเทศไทยของพวกเราให้เป็นประเทศที่มีความสุข มีความมั่นคง มีความสามัคคีปรองดองพูดแล้วเราทำแล้ว ภายใต้ 3 สีแ ดง ขาวน้ำเงิน คือ ประเทศไทย  พล.อ.ประยุทธ์เคยพูดว่า หาก 2 ปีต่อไป กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี คนไทยต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน  8 ปี ที่ผ่านมาประชาชนทุกคนเห็นการเปลี่ยนแปลง ทั้งโครงสร้างระบบคมนาคม ความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดิอาระเบีย และการแก้ปัญหาโควิด

ต่อมาในเวลา 15.15 น. นายพีระพันธุ์ ประกาศเสนอชื่อ พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นำทัพสู่สนามการเลือกตั้ง โดยระบุว่า เราไม่ได้เดินเข้าสู่สนามเลือกตั้งอย่างโดดเดี่ยว ไม่ได้มีเพียงแค่ตนในฐานะหัวหน้าพรรค ที่จะอยู่เบื้องหลังในการทำงาน แต่เราจะมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้นำของพรรค ขอให้เชื่อว่ากำลังใจของท่านเพียบ เพื่อให้นำพรรคไปสู่การเลือกตั้งอย่างสมบูรณ์แบบ 

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นกล่าวขอบคุณทุกคนที่ตัดสินใจมาอยู่ร่วมกับเรา รวมไทยสร้างชาติทั้ง 400 เขต บอก รู้สึกตื่นเต้นพอสมควร ที่ได้พบสมาชิกครบทั้งพรรค ส่วนใหญ่ก็จำหน้ากันได้ทั้งหมดแล้ว ตนมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งคือจำชื่อไม่ค่อยได้ วันนี้ตนไม่ได้มาในนามนายกรัฐมนตรี คนที่มาบางคนก็เป็นส.ส.มาก่อน เป็นทั้งคนรุ่นกลาง รุ่นเก่า รุ่นใหม่ หากเปรียบเทียบกับรถก็เป็นรถที่ใช้น้ำมัน และรถยนต์ไฮบริด และรถที่ใช้ไฟฟ้า คนเหล่านี้ที่รับทราบว่าคนแต่ละยุค แต่ละวัยเขาคิดอะไร แล้วเราจะทำอย่างไร ทำได้มากน้อยแค่ไหนพวกเรายืนยันว่าเราจะขับเคลื่อนไปด้วยกันให้คนทุกวัยของประเทศ เดินหน้าไปตามวิสัยทัศน์ของเรา เดินหน้าไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เพราะ คือยุทธศาสตร์ ยืนยันว่าทุกคนไม่มีแสวงหาผลประโยชน์ ทุกนโยบายถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ  และสัญญาว่าจะทำสิ่งที่ว่าโดยใช้ความรู้ประสบการณ์ที่มีอยู่ปรับบ้าง อะไรบ้าง ตามสถานการณ์ตามยุคสมัย 

พล.อ.ประยุทธ์ ถามว่าใครบริหารมาถึงทุกวันนี้ เศรษฐกิจจึงเดินหน้ามาได้ ประชาชนก็ตะโกนตอบว่า “ลุงตู่” พร้อมพูดติดตลกกับหัวหน้าพรรคว่า หากมี สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ 400 คน เข้าอยู่ในสภา แล้วจะทำอย่างไร เราต้องร่วมกันคิดร่วมกันทำ รวมกันเราอยู่ แยกกันเราตาย ผมเป็นคนพูดจา ขวานผ่าซาก ไม่เพราะ แต่ผมเป็นคนจริงใจ ผมเคยบอกแล้วว่าพวกเรา แต่ละคนมีหัวใจคนละดวง แต่พวกเราต้องมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่พอที่จะรักคน 70 ล้านคนทั้งประเทศไม่ใช่รักใครคนใดคนหนึ่ง ต้องรักทุกคนเท่าๆกัน เพราะฉะนั้นเราจะต้องมีหัวใจอันยิ่งใหญ่ ตัวผมหัวใจสีม่วง วันนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาโกหกพูดให้ตัวเองดูดี ไม่ใช่ผมเคยเป็นทหารมาก่อน กรมทหารกรมนั้นคือมีสัญลักษณ์หัวใจสีม่วง ต้องถามหมอเหรียญทองอีกที คำว่าหัวใจสีม่วงคืออะไร หัวใจของคนใกล้ตาย  ดังนั้นจึงเป็นหัวใจที่ไม่พูดความเท็จ พูดโกหกไม่ได้เพราะอย่างไรก็ใกล้ตาย แต่ไม่ใช่ว่าตนจะตาย แต่เปรียบเทียบให้ฟัง ก่อนที่จะกล่าวว่าระหว่างที่พูดต้องติ๊กเอาไว้ เพราะพูดด้วยความจริงใจ เราทั้ง  400 คน รับจะดูแลคนทั้งประเทศ ในเมื่อทุกคนมีความรู้ มีประสบการณ์ที่หลากหลายแต่เป้าหมายเดียวกัน พร้อมชูกำปั้นตะโกน คำว่ารวมไทยสร้างชาติ 3 ครั้ง 

พล.อ ประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่า จะทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็ง เป็นทางเลือกหลักของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ทางผ่าน เราต้องเป็นสายตรง สายหลักมอเตอร์เวย์ ไม่ใช่ทางผ่านของใคร หากใครจะมาก็คงต้องขออนุมัติขึ้นทางผ่านขอให้ร่วมมือกัน  และได้ สส. มากที่สุดก็แล้วกัน เพราะคนของเราไม่ใช่พรรคการเมืองใหม่ คนของเราเป็นคนใหม่ แต่ผมหน้าเก่า

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สโลแกน ของพรรคคือ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ แต่หลังจากนี้จะเป็นทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อพลัส ประเทศไทยต้องไปต่อ ต้องดีกว่ารุ่นของเรายิ่งๆขึ้นไป ด้วยการพัฒนาร่วมมือกัน หากไม่ร่วมมือกัน คงไปไม่ได้ทั้งหมด รวมไปถึงยังระบุว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคการเมืองน้ำดี รวมไปถึงเป็นพรรคที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง  เราขัดแย้งกันไม่ได้อีกแล้ว หลายสิบปีที่ผ่านมาปัญหามีอยู่แล้ว อย่าลืม อย่าความจำสั้น จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก วันนี้ต้องทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ ตนเป็นลูกผู้ชายพอ เราจะไม่โจมตี ไม่ให้ร้าย เราจะทำของเรา ไม่มีการแบ่งเขาแบ่งเราเพราะทุกคนคือคนไทย และเราจะเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับพวกเรา ปกติตนเป็นคนพูดน้อย แต่พูดเยอะก็โดนด่าทุกที  พร้อมอาสาจะทำให้ประชาชนมีความสุขให้ได้มากที่สุด

ช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แต่ก่อนบางจังหวัดไปไม่ได้  เขาไม่ให้ไปหรือเปล่า แต่เดี๋ยวนี้ไปทั้งหมด  ทำงานมา 8 ปี ไปทุกจังหวัดต้องทำงานให้คนทั้งประเทศ พร้อมกับกล่าวว่า ตนยอมรับความเห็นต่าง แต่ไม่แตกแยก ยึดถือแนวทางนี้มาตลอด ความสุขของคนไทยเป็นกำไรของทุกคนในประเทศชาติ เพราะทุกคนเป็นหุ้นส่วนของประเทศ จะต้องได้กำไรส่วนนี้  ตนและพวกเราไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ที่ผ่านมารัฐบาลมีเสถียรภาพ ครบวาระขาดอีกไม่กี่วันถึงยุบสภาฯ แต่รัฐบาลหน้าอยู่ให้ครบ 4 ปีเต็ม

ในตอนหนึ่งนายกรัฐมนตรีจะอวยพรพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่มีการพูดชื่อผิดเป็นพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวว่าขอเสนอ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 2 ของพรรครวมไทยสร้างชาติคือนายพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย ขณะเดียวกันภายในงานยังมีการเปิดตัวเพลงใหม่ชื่อว่า ลุงตู่อยู่ไหน เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์หาเสียงเลือกตั้งซึ่งเป็นเพลงที่กลุ่มนักศึกษาแต่งขึ้น

อย่างไรก็ตามหลัง การเปิดตัวผู้สมัครสอสอ 400 เขตแรกเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแล้วเสร็จ โดย พล.อ.ประยุทธ์และแกนนำอยู่ภายในห้องรับรอง ได้มีชายวัยรุ่น เดินชู 3 นิ้ว เข้ามาภายในงาน โดยบอกว่า ไม่ได้ตั้งใจมาแสดงออกแต่รู้สึกไม่พอใจ ขณะที่กองเชียร์ลุงตู่เดินตามไปขอให้ออกไปจากพื้นที่ ชายวัยรุ่นคน ดังกล่าวก็เดินออกจากพื้นที่โดยดีโดยไม่มีการปะทะกันแต่อย่างใด