“เศรษฐา” เมิน “ประยุทธ์” เหน็บ พท. ระวังสไลด์นอกเลน เผย ไม่เข้าใจคืออะไร
“เศรษฐา” นำทีม พท. หาเสียง ย่านหนองแขม นั่งวินมอเตอร์ไซด์ เข้าตลาด พ่อค้าแม่ค้า โอด ช่วยแก้ปัญหาค้าขาย รับปาก ถ้าได้เป็นรัฐบาล ขายดีกว่านี้หลายเท่าแน่ เผย ไม่เหนือความคาดหมาย ไร้ชื่อในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ เมิน ประยุทธ์ จ้อ ระวัง สไลด์นอกเลน จะพูดอะไรเรื่องของท่าน
ที่ตลาดเช้าวัดหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนสมาชิกพรรคเพื่อไทย และนายวัน อยู่บำรุง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตหนองแขม (เฉพาะแขวงหนองแขม) เขตบางบอน (ยกเว้นแขวงบางบอนใต้ และแขวงคลองบางบอน) เขตจอมทอง (เฉพาะแขวงบางขุนเทียน) พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่พบปะพ่อค้าแม่ค้า และพี่น้องประชาชนที่มาเดินจับจ่ายซื้อของบริเวณตลาดวัดหนองแขม โดยนายเศรษฐา และแกนนำพรรคเพื่อไทยได้พากันนั่งวินมอเตอร์ไซด์เข้ามายังตลาดเนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่ให้รถใหญ่เข้า อนุญาตให้เข้าได้เฉพาะมอเตอร์ไซต์เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายเศรษฐา และคณะพรรคเพื่อไทยเดินตลาดอยู่นั้น มีประชาชนเข้ามาขอถ่ายภาพ และให้กำลังใจนายเศรษฐาจำนวนมาก ช่วงหนึ่งมีคุณลุงเดินเข้ามาพูดกับนายเศรษฐาว่า พรรคเพื่อไทยมาแน่นอนอยู่แล้ว นายเศรษฐาจึงขอให้ประชาชนสนับสนุนพรรคเพื่อไทยโดยการเลือกทั้งคน และพรรค ขณะที่แม่ค้าที่ขายของอยู่ในตลาดวัดหนองแขมได้ฝากนายเศรษฐาให้ช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าที่ปัจจุบันประสบกับปัญหาขายของไม่ดี ซึ่งนายเศรษฐาได้ตอบว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล พ่อค้าแม่ค้าไม่ต้องห่วง เพราะจะขายของดีกว่านี้หลายเท่าแน่นอน
จากนั้นเวลา แกนนำพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา ว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย เขตบางแค (ยกเว้นแขวงบางแคเหนือ และแขวงบางไผ่) เขตภาษีเจริญ(เฉพาะแขวงบางหว้า,แขวงบางด้วน และแขวงคลองขวาง) และนายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม. เขตบางแค (เฉพาะแขวงบางแคเหนือและแขวงบางไผ่), เขตหนองแขม (ยกเว้นแขวงหนองแขม) เดินตลาดบางแค เพื่อพบปะและทักทายพ่อค้าแม่ค้า และประชาชน โดยแม่ค้าขายผักได้หอบช่อผักมามอบให้นายเศรษฐาแทนช่อดอกไม้ พร้อมกับสะท้อนปัญหาว่าร่มผ้าใบที่ใช้กางบังแดดฝนมีปัญหาหลุด และผุพังเมื่อมีพายุเข้า ซึ่งส่วนนี้รองผู้ว่าฯกทม. ได้รับปากไปแล้วว่าจะแก้ไขให้ แต่ยังไม่คืบหน้า จึงขอฝากเรื่องไปกับพรรคเพื่อไทยให้พรรคเพื่อไทยช่วยติดตามและประสานต่อด้วย
ต่อมาเวลา แกนนำพรรคเพื่อไทยพร้อมนายจิรวัฒน์ อรัญยกานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตตลิ่งชัน(ยกเว้นแขวงบางเชือกหนัง) และเขตทวีวัฒนา พรรคเพื่อไทย ออกเดินทางไปตลาดธนบุรี เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนย่านตลาดธนบุรี (ถนนบรมราชชนนี)
โดยนายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีติดโพล 1 ใน 10 ที่คนกรุงเทพฯเชียร์ให้เป็นนายกฯ ว่าตนยังไม่เห็นโพล อย่างไรก็ตามหน้าที่ของตนคือเป็นประธานที่ปรึกษาของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็ต้องเดินหน้าหาเสียง และปราศรัย พบปะพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
เมื่อถามว่า เปิดตัวมาเพียงหนึ่งเดือนก็ติดหนึ่งใน 10 แล้ว นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอบคณที่ประชาชนอยากให้มามีส่วนร่วม ซึ่งวันนี้ตนก็ทำหน้าที่เต็มที่ ทั้งนี้สำหรับโพลของพรรคเพื่อไทยที่ขึ้นนำนั้น ตนเชื่อว่า ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย และพลังประชาชนมา เราใช้นโยบายนำมาตลอดขณะที่บุคคลคุณภาพในพรรคของเราก็มีอยู่เยอะมาก ตนจึงไม่แปลกใจที่โพลออกมาแบบนี้ เราก็จะเดินหน้าเผยแพร่นโยบายที่ดี และทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในส่วนที่ยังมีข้อกังขาอยู่ต่อไปอย่างเต็มที่
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการรายงาน 100 ชื่อ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อไทย แต่ไม่มีชื่อของ นายเศรษฐา และน.ส.แพทองธาร นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนเคยบอกว่า ฝ่ายบริหารก็คือฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติก็คือฝ่ายนิติบัญญัติ ขณะที่ชื่อตนไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายอะไร แต่ตนเข้าใจว่ามีหลายฝ่ายที่อยากให้แคนดิเดตนายกฯอยู่ในบัญชีรายชื่อด้วย แต่ก็ต้องทำความเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญปี 60 ไม่ได้บังคับไว้ และหากใครก็ตามที่ได้รับเลือกให้เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือต้องทำหน้าที่บริหารประเทศให้พี่น้องประชาชนพอใจ และปฏิบัติตามกฎหมายที่ทางรัฐสภาเป็นผู้ออกมา และมีหน้าที่ที่จะต้องไปปรากฏตัวเพื่อตอบกระทู้เมื่อทางสภาถามมา ส่วนในสภาก็เป็นหน้าที่ส.ส.ที่ต้องออกกฎหมายส่วนตัวตนมองว่า แยกกันดีกว่า
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุเรื่องการแลนด์สไลด์ ระวังจะสไลด์ออกนอกเลนจนเจ็บตัวอีกครั้ง นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคงคอมเมนท์ประเด็นนี้ไม่ได้ เพราะตนไม่เข้าใจว่าสไลด์ออกนอกเลนคืออะไร ตนไม่อยากถูกลากเข้าไปในเรื่องของการตอบโต้กันท่านก็เป็นนายกฯ และเป็นผู้ใหญ่ ท่านอยากจะพูดอะไรก็เรื่องของท่าน เราก็รับฟัง ซึ่งหน้าที่ของตนคือการพบปะ และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน