ประชาธิปัตย์ กทม.คึกคัก ผนึกอดีต ส.ส.- ส.ก. ลุ้นกวาด 11 ที่นั่ง

หลังจากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดตัว นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แบบตลอดชีพและเสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม. เขต 26 บางขุนเทียน เฉพาะแขวงท่าข้าม และเขตจอมทอง ยกเว้นบางขุนเทียน เท่ากับเป็นการผนึกกำลังของบ้านใหญ่ตระกูลม่วงศิริ สู้ศึกเลือกตั้งสนามฝั่งธนบุรี

ก่อนหน้านี้ พรรคประชาธิปัตย์ มีคนในตระกูลม่วงศิริ เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.อยู่ก่อนแล้ว ประกอบด้วย นายสากล นายสาคร นายสามารถ และ น.ส.วณิชชา ม่วงศิริ แต่จากปัญหาพื้นที่ทับซ้อนคนในตระกูลม่วงศิริ จึงต้องการเห็นภาพคนใน “ตระกูลม่วงศิริ” ทั้งหมดมาอยู่รวมกัน และทำการเมืองร่วมกัน เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อพื้นที่ในเขตฝั่งธนบุรี  

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า การทำงานในพื้นที่อย่างเข้มแข็งของผู้สมัครในฐานะที่มาจาก “ตระกูลม่วงศิริ” ก็ถือว่ามีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น นายสากลซึ่งมีพื้นที่ทับซ้อนทั้งเขตบางขุนเทียน และเขตของ นายสากล ม่วงศิริ รวมทั้งพื้นที่บางส่วนก็อยู่ในเขตของนายสุวัฒน์ 

นอกจาก นายสุวัฒน์ จะดูแลพื้นที่บางขุนเทียน จอมทองแล้ว เขตของ นายสากล ยังมีเขตบางขุนเทียนในหลายแขวงที่ไปรวมกับเขตบางบอน ในขณะที่ เขตบางบอน เองก็ไปพันกับอีกเขต และเขตจอมทองเช่นเดียวกัน ส่วน นายสุวัฒน์ เองก็เคยเป็น ส.ส. ในพื้นที่เขตบางบอน จอมทอง และยังมีเขตหนองแขม ซึ่งมี น.ส.วณิชชา ม่วงศิริ ดูแลพื้นที่อีกด้วย 

ทั้งนี้ นายสุวัฒน์ จะได้ผนึกกับผู้สมัคร ส.ส. กทม. อีก 3 คน คือ นายสากล ม่วงศิริ ที่จะลงส.ส.เขตบางขุนเทียนนางสาววณิชชา ม่วงศิริ ที่จะลง ส.ส.เขตบางบอน-หนองแขม และ ดร.ฮารูน มูหมัดอาลี ที่จะลง ส.ส.เขตบางแค

สำหรับ นายสุวัฒน์ มีฐานคะแนนเสียงเข้มแข็งในพื้นที่ท่าข้าม จอมทอง หนองแขม ถ้าได้มาร่วมทีมกับ ปชป. ในจำนวน 3 คน ที่ลงส.ส.พื้นที่ฝั่งธนบุรี จะทำให้มั่นใจได้ว่าจะกวาด ส.ส.อย่างน้อย 2 เก้าอี้ จาก 3 เก้าอี้

นอกจากนี้ ยังมีความหวังส.ส.จาก นายชนินทร์ รุ่งแสง ที่ลงเขตบางพลัด - บางกอกน้อย , นายพงศกร ขวัญเมือง ที่ลงเขตคลองเตย – วัฒนา, นายกิตพล เชิดชูกิจกุล ที่ลงเขต ประเวศ - สะพานสูง
นายอภิมุข ฉันทวานิช ลงเขตบางคอแหลม – ยานนาวา, นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ลงเขตพระนคร – ป้อมปราม – สัมพันธวงศ์ – ดุสิต, อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ เขตปทุมวัน – สาทร – บางรัก

นอกจากนั้น ยังมีลุ้นที่จะได้ ส.ส.อีก 3 คน คือ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ลงเขต ธนบุรี – คลองสาน กับนายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ลงเขตบางนา – พระโขนง และ นพ.พลวิทย์ เจริญพงศ์ ลงเขตบางกอกน้อย ตลิ่งชัน

 

สาเหตุที่ทำให้ พรรค ปชป.มั่นใจว่าจะสามารถปักธง ส.ส.สนาม กทม. ได้หลายเก้าอี้ เพราะดูจากผลการเลือกตั้ง ส.ก.ที่ผ่านมา พรรคก็ได้เข้ามา 9 ที่นั่ง รวมคะแนนทั้งหมด 348,852 คะแนน 
    
โดยเฉพาะเขตบางขุนเทียน นายสารัช ม่วงศิริ ได้มาถึง 34,158 คะแนน,เขตบางพลัด พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิต ได้ 12,575 คะแนน, เขตประเวศ ธนวัฒน์ เชิดชูกิจกุล ได้ 22,971 คะแนน, เขตบางบอน ณรงค์ศักดิ์ ม่วงศิริ ได้ 11,610 คะแนน ขณะที่ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ ปชป. ส่ง ดร.เอ้ – สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ลงแข่งขัน ก็เข้าป้ายเป็นอันดับที่ 2 ได้ 254,723 คะแนน

นอกจากนี้มีข่าววงในว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ นายสุชัย พงษ์เพียรชอบ หรือ ส.ก.ต่าย ส.ก.เขตคลองเตย  มือปฏิบัติการพิเศษ ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และอดีตทีมงานของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. เข้ามาช่วยเสริมทีม ทั้งยังเจรจา กับนายนริสสร แสงแก้ว หรือ ส.ก.เช็ค ส.ก.เขตบางเขน ที่ชนะคะแนนท่วมท้นที่บางเขน มาช่วยเสริมความแกร่ง โดยเมื่อวันที่ 22 มี.ค.2566 นายเฉลิมชัย นายองอาจ นายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย และกลุ่มแกนนำชุมชน ก็ได้พบพูดคุยกันถึงแนวทางการที่ย่านตลิ่งชัน เพื่อสร้างความคึกคัก และความมั่นใจให้กับผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน

#เลือกตั้ง 2566 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์