"อนุทิน" ลั่น ภท. ร้อนทะลุ 100 องศา สู้เลือกตั้ง โว 14 พ.ค. เลขสามหลักมาแน่
"อนุทิน" พร้อมนั่งนายกฯ หากได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โว 4 ทุ่ม 14 พ.ค.มาแน่เลขสามหลัก ย้ำ ผู้สมัครต้องตอกเสาเข็มเดินเครื่องเต็มสูบลงพื้นที่หาเสียง ชี้ หากได้รับเลือกตั้งถือเกียรติประวัติอันสูงสุด เป็นผู้รับใช้ประชาชน - บ้านเมือง
วันที่ 6 เม.ย. ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ขึ้นเวทีเพื่อเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ พร้อมมอบธงชัยพรรคภูมิใจไทย ถือเป็นธงแห่งความรับผิดชอบต่อพรรคภูมิใจไทย และรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน เพื่อหาเสียงตอกเสาเข็มในพื้นที่ของตัวเอง จากนั้นนายอนุทิน กล่าวกับสมาชิกตอนหนึ่งว่า
วันนี้ถือเป็นวันสถาปนาพรรคภูมิใจไทย ซึ่งตรงกับวันมหามงคลของคนไทยทุกคน ซึ่งเป็นวันที่พรรคภูมิใจไทยได้ก่อตั้งขึ้น เมื่อ 16 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่ามีความหมายต่อพรรคภูมิใจไทยและมวลหมู่สมาชิกทุกคน พรรคภูมิใจไทย ยึดมั่นในอุดมการณ์ในการที่เป็นพรรคที่จะทำการเทิดทูนปกป้องสถาบันอันเป็นที่เคารพบูชาของพวกเราไว้ชั่วชีวิต ตั้งแต่วันแรกที่ได้สถาปนาพรรคนี้ขึ้นมา เราอยู่ในแนวทางนี้มาโดยตลอด เราจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปตราบใดที่เรายังเป็นพรรคภูมิใจไทย เราจะดำรงอยู่เพื่อทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนคนไทย และประเทศไทย สมดั่งสโลแกนของพรรคว่าพูดแล้วทำ
ขณะเดียวกันพรรคภูมิใจไทยได้เลือกสีน้ำเงินเป็นสีประจำพรรค ซึ่งหมายความว่าเรามีความเทิดทูนในสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างแนบแน่นอยู่ในหัวใจของพวกเรา สีน้ำเงิน คือสีที่หมายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ปรากฏอยู่บนธงไตรรงค์ชาติไทยของเรา วันนี้คือวันที่ 6 เมษายนพุทธศักราช 2566 ถือว่าเป็นวันที่มีความสำคัญมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นปีที่พรรคภูมิใจไทยจะต้องเข้าสู่สนามการเลือกตั้งด้วยกันทุกคนที่อยู่ณที่นี้ วันนี้เป็นวันที่เรามาพบปะกันมอบธงกัน ขอให้ทุกคนตั้งใจที่จะลงพื้นที่พบปะประชาชน ขอให้ทุกคนหลังจากวันนี้เป็นต้นไป เมื่อกลับภูมิลำเนาแล้ว จะต้องไปพบปะกับประชาชนทั่วประเทศ ไปนำเสนอนโยบายของพรรคภูมิใจไทยและสร้างความเข้าใจในนโยบายของพรรคภูมิใจไทยต่อประชาชน ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนให้ได้เห็นประโยชน์ที่จะได้รับจากการลงคะแนนให้กับพรรคภูมิใจไทย และผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคภูมิใจไทย ขอให้ทุกคนได้ตั้งใจลงพื้นที่ทุ่มเทหัวใจ เคารพรอบให้เกียรติประชาชนผู้ที่จะเป็นคนตัดสินใจอนาคตของพวกท่านและอนาคตของพรรคภูมิใจไทย เราต้องปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมายอย่างเคร่งครัด พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่มีเอกลักษณ์พิเศษ มีความเป็นระเบียบวินัยสูง มีความเป็นพวกพ้องเป็นหมู่คณะ เป็นครอบครัว เราปฏิบัติตัวเช่นนี้ตลอด ระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ของสภาฯที่พึ่งหมดวาระ สิ่งที่เป็นที่ประจักษ์จากประชาชน เมื่อพูดถึงบทบาทของภูมิใจไทยต่อสภาผู้แทนราษฎรคือความสมัครสมานสามัคคีเป็นปึกแผ่น เป็นทิศทางเดียวกันทุกคน
โดยนายอนุทินยังกล่าวต่อว่า อาจจะเห็นว่าอยู่ด้วยกันอาจจะเป็นปึกแผ่น ควรจะต้องไปในทิศทางเดียวกันอยู่แล้ว ตนยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะทุกคนเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่สิ่งที่ทำให้พรรคภูมิใจไทยมีความเป็นเอกลักษณ์สูงสุดคือความเป็นปึกแผ่นความเป็นหนึ่งเดียว เพราะทุกคนถึงแม้ว่าจะมีเอกสิทธิ์ของความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่มีความตั้งใจทำงาน พรรคภูมิใจไทยตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ไม่มีแต่แถว รวมไปถึง4 ปีที่ผ่านมา เราได้มีเวทีต่างๆในการอภิปรายต่างๆ รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยหลายท่านรวมถึงผม ก็เคยถูกอภิปราย ไม่ไหววางใจ ถือเป็นเกมการเมืองเพราะพรรคภูมิใจไทยได้คุมกระทรวงสำคัญ ซึ่งเป็นเหตุจำเป็นในทางการเมืองที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ทุกครั้งรัฐมนตรีในสังกัดพรรคภูมิใจไทย สามารถที่จะชี้แจงข้อกล่าวหา ข้อเคลือบแข็งสงสัย ข้อกังวลของบรรดาฝ่ายค้านที่อภิปรายไม่ไว้วางใจได้ผ่านมาทุกครั้ง ไม่ที่ 1 ก็ที่ 2 ตลอด ได้รับคะแนนสูงสุด ที่สำคัญที่สุดก็คือพรรคภูมิใจไทยยกให้สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจครบทุกครั้ง แต่พรรคภูมิใจไทยได้รับการไว้วางใจจากพรรคร่วมรัฐบาลไม่ครบทุกครั้ง แต่ไม่มีปัญหา เพราะพรรคภูมิใจไทยเชื่อในความเป็นพรรรคภูมิใจไทย ตราบใดที่พรรคภูมิใจไทยยังยกให้พวกเราอย่างเป็นเอกภาพแสดงว่าความเชื่อมั่นของสมาชิกพรรคภูมิใจไทยอย่างมีต่อหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรครัฐมนตรีของพรรคแค่นี้สำคัญที่สุดแล้ว
นายอนุทิน ยังกล่าวอีกว่า 10 กว่าปีที่แล้วสองแถวหน้านี้สมาชิกพรรคก็หมดแล้ว ต้องไปเกณฑ์คนติดตามเจ้าหน้าที่พักมานั่งฟัง แต่วันนี้คนติดตามเจ้าหน้าที่พักไม่มีที่นั่งต้องนั่งอยู่ข้างนอก เก้าอี้ทั้งหลายที่อยู่ตรงนี้ยกเว้นตรงที่โดนแดดจัดๆเป็นที่นั่งของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคภูมิใจไทย พร้อมกับกล่าวว่า "ตนขอเรียกทุกท่านว่าว่าที่ส.ส.ภูมิใจไทย"
ซึ่งจากการที่ตนไปลงพื้นที่หลายพื้นที่และจะใช้เวลาอีก 5 สัปดาห์ที่เหลือ ร่วมกับผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค เลขาธิการพรรค เราจะลงพื้นที่ใช้เวลาที่เหลือ 7 วันต่อสัปดาห์ หยุดอยู่ช่วงเวลาเดียวหยุดอยู่ช่วงเวลาเดียวเพียงช่วงเวลานอน ที่เหลือจะต้องมีการลงพื้นที่ไปพบปะกับผู้สมัคร พบปะกับประชาชนให้แสดงถึงความมั่นใจ ว่าผู้บริหารของภาคภูมิใจไทยพร้อมที่จะให้การสนับสนุนผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทยทุกคน เพื่อที่หวังว่าท่านทั้งหลายจะได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้แทนของพวกเขาให้มากที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้
โดยนายอนุทิน ดังกล่าวติดตลกว่า จริงๆเขาเขียนมาให้ผมอ่าน แต่พอเจอว่าที่ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เยอะขนาดนี้ ตอนนี้ตาลายอ่านโพยไม่ออก ขอพูดจากใจก็แล้วกัน ก่อนพูดติดตลกว่า ใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง
"วันนี้เป็นอากาศจะร้อนถึง 50 องศาแต่ผมไม่เชื่อเพราะพรรคภูมิใจไทยตอนนี้เราร้อนมากกว่า 50 องศา เราร้อยองศาไปแล้ว เดือดปุดๆ พร้อมที่จะลงสนามพวกเราเป็นนักรบใช่หรือไม่ เป็น นักรบเราจะแสดงความเป็นนักรบเต็มที่เมื่อออกรบแม่นบ่ เพราะฉะนั้นวันที่ 14 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ ขุนพลทั้งหลายของพรรคภูมิใจไทย จงไปเอาชัยชนะกลับมาให้ตัวท่านและพรรคภูมิใจไทยและประชาชนไทยและประเทศไทยทุกคน " นายอนุทิน กล่าวและว่า
การที่ทุกคนมีความพร้อมเช่นนี้ตนมั่นใจว่าปีนี้ภาคภูมิใจไทยจะเติบโต 4 ปีที่ผ่านมาในพื้นที่ข่าวพรรคภูมิใจไทยครองเกือบ 100% แล้วไม่ใช่เป็นข่าวไม่ดี ล้วนแล้วแต่เป็นข่าวที่ดีเป็นผลงานของพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ทำให้กับบ้านเมือง ให้กับประชาชน รัฐมนตรีทั้ง 7 คนของพรรคภูมิใจไทยรวมไปถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และแกนนำของพรรคภูมิใจไทย ทุกคนล้วนแล้วแต่มุ่งมั่นทำงาน ให้พรรคนั้นมีชื่อเสียง ทำให้ผลงานของพรรคการเป็นที่ประจักษ์ สมัครพรรคพวกหลายท่านทำตัดสินใจเข้ามาร่วมงานการเมืองกับพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผมจะทำให้ท่านทั้งหลายที่เพิ่งเดินเข้ามาร่วมกับพรรคภูมิใจไทยได้เห็นว่าที่นี่คือที่สุดท้ายของท่าน ท่านไม่ต้องไปไหนอยู่ตรงนี้อยู่ไปตลอด
นายอนุทิน กล่าวกับผู้สมัครต่อว่า พรรคภูมิใจไทยเราปลูกฝังให้สมาชิกของพรรคภูมิใจไทยทุกคน เคารพประชาชน ศรัทธาประชาชน และให้เกียรติประชาชน เป็นคนรับใช้ประชาชนคนไทยทุกคนซึ่งเป็นเกียรติที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรับใช้ของประชาชนคนไทย เป็นเกียรติประวัติอันสูงสุด แล้วประชาชนจะให้ความเชื่อมั่น ให้ความศรัทธาเลือกตั้งกี่ครั้ง ท่านก็จะเดินกลับเข้าสภาอย่างสง่าผ่าเผย
พร้อมระบุ ว่าสัญญาณต่างๆก็ดูดีไปหมดแล้ว แม้การจับได้เบอร์ 7 ก็ตรงกับสิ่งที่พูดไว้ตลอดเวลาเหมือนกับหยั่งรู้ จากนี้เบอร์ 7 จะเป็นการตอกเสาเข็มดัง ตุ้มๆๆ ไม่ต้องแลนสไลด์ ไม่ต้องถล่มทลาย อย่ามีคำว่าทลาย อย่ามีคำว่าถล่ม มีแต่คำว่าตอกเสาเข็ม ทำให้มั่นคง ส่วนเลขของผู้สมัครจะเป็นเบอร์อะไรก็ตาม ซึ่งเท่าที่ตนทราบมาไม่เกินเบอร์ 20 โดยทุกเบอร์ถือว่าดีหมด ดังนั้นเวลาไปหาเสียง ก็ขอให้ย้ำว่าต้องเลือกทั้งคนทั้งพรรค
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ในวันที่ไปจับเบอร์ ตนไปหาอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งยอมรับว่าตน มีความเครียดไม่อยากได้เบอร์ 2 หลัก ขอให้จับได้เบอร์หลักเดียว เบอร์อะไรก็ได้ อาจารย์คนนั้นบอกกับตนว่าอยากได้เบอร์อะไร ตนก็ตอบไปอยากได้เบอร์ 1 หากเบอร์ 1 ไม่ได้เบอร์อะไรก็ได้ขอให้เป็นเลขหลักเดียว อาจารย์จึงตอบกลับว่า "มึงต้องได้เบอร์ 7 เท่านั้น" อาจารย์คนดังกล่าวตนไม่ขอบอกว่าเป็นใคร เดี๋ยวจะมีคนอื่นให้ไปช่วยพรรคอื่นอีก
ซึ่งอาจารย์ยังบอกอีกว่า วันที่ 14 พฤษภาคม หลัง 4-5 ทุ่มท่านบอกว่าเห็นเป็นเลข 3 หลัก แต่ตนไม่ขอบอกว่าเลข 3 หลักนั้นเป็นเลขเท่าไหร่เดี๋ยวพอพวกเรารู้ว่าก็ได้เป็นส.ส.แล้ว จะไม่ยอมลงพื้นที่ ตนเชื่อว่าเลข 3 หลักนั้นจะออกมาเป๊ะทุกประการ เพราะเลข 3 หลักที่อาจารย์บอกตน ตรงกับ3 หลักที่ตนคำนวณเอาไว้
นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้มีคนบอกว่า วัคซีนโควิดไม่สำคัญเท่าโรคตากับโรคปอด พวกผมฉีดวัคซีนให้พวกท่านแล้ว กันโรคตาแหก กัยโรคปอดแหก สมาชิกพรรคภูมิใจไทยต้องไม่ปอดแหกและตาแหก ต้องเป็นพรรคที่ตาโตตาใส และมีหัวใจที่มั่นคงแข็งแกร่ง ต่อสู้จนได้รับชัยชนะทุกคน เบอร์ 7 เขาบอกว่าสู้ตรงนี้สู้ที่นี่สู้จนคนไทยชนะไปด้วยกัน เราต้องสู้ให้ประชาชนได้รับชัยชนะทุกสิ่ง นี่คือภารกิจของสมาชิกพรรคทุกคน
" 4 ปีที่ผ่านมาท่านคิดว่ามีพรรคใดเติบโตเท่าพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ เราเข้ามา 50 เราคิดว่าเราจะเติบโตครั้งนี้ในเลข 3 หลักเท่ากับว่าเราเติบโตเป็นเท่าตัว ผู้ที่จะทำให้สิ่งเหล่านั้นให้เกิดขึ้นได้นอกจากพวกเราแล้วก็คือประชาชน เราต้องไปหาประชาชนให้ประชาชนมั่นใจในตัวเรา และพรรค"
นายอนุทิน ย้ำว่า พรรคภูมิใจไทย ประกาศเลยว่าจะไม่มียกตำแหน่งผู้นำให้ใครหากพรรคของเราได้มากที่สุด และพรรคเราคือพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และผู้ที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยคนนั้นจะเป็นนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้น จอแอลอีดีด้านหลังได้ขึ้นข้อความระบุว่าพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี
นายอนุทินจึงกล่าวต่อว่า คนนี้แหละครับ พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าเชื่อมั่นกัน นายกรัฐมนตรีที่เป็นทั้งส.ส. เป็นทั้งแคนดิเดตนายกฯ เป็นทั้งผู้แทนฯ ไม่มีอะไรเพอร์เฟคเท่าพรรคภูมิใจไทยอีกแล้ว ถ้าพรรคภูมิใจไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สภาฯจะเข้มแข็ง ผลงานต่างๆจะออกมา กฎหมายต่างๆจะออกมา คุณภาพชีวิตของประชาชนจะดีขึ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยจะดีขึ้น สุขภาพของคนไทยจะดีขึ้น พรรคภูมิใจไทยจะแข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งพรรคมา
นายอนุทิน ยังย้ำกับผู้สมัครของพรรคอีกว่า ที่นี่เป็นที่อบอุ่น ท่านตัดสินใจไม่ผิดพลาด ท่านตัดสินใจถูกที่สุด ให้กับตัวท่านเองและประชาชนและประเทศไทย