ปชป.โหมโรงปราศรัยใหญ่ "ดร.เอ้" ชู 3นโยบาย ขอ14พ.ค.กาปชป.ทั้งคน-พรรค

ปชป.โหมโรงปราศรัยใหญ่ "ดร.เอ้" ชู 3นโยบาย ขอ14พ.ค.กาปชป.ทั้งคน-พรรค

พรรคประชาธิปัตย์ โหมโรงปราศรัยใหญ่ "ดร.เอ้" ชู 3นโยบายเพื่อคนกรุงเทพ พร้อมขอโอกาสคนกรุง14พ.ค.กาปชป.ทั้งคน-พรรค

ในการปราศรัยใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ ปักธงกทม. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) แกนนำพรรคประชาธิปัตย์พร้อมว่าที่ผู้สมัครสลับกันขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกภายหลังรับสมัคร

โดยบรรยากาศมีประชาชนร่วมรับฟังการปราศรัยอย่างคึกคัก

โดยแกนนำอาทิ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบายกทม. กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า การศึกษาไทยคือลมหายใจการศึกษาไทยคือ ดีเอ็นเอของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อญี่ปุ่น เกาหลีทำได้วันนี้ถึงเวลาที่ไทยแลนด์ จะต้องเป็นไทยแลนด์เวฟได้แล้ว

ขณะที่ผู้สูงอายุวันนี้เรามีผู้สูงอายุในประเทศมี 13 ล้านคน ขณะที่ในอนาคตมีแนวโน้มจะเพิ่มเป็น 20 ล้านคน ไม่ต่างจากเด็กแรกเกิดที่ในอนาคตจะมีประชากรที่เกิดใหม่เพิ่มมากขึ้นพรรคประชาธิปัตย์จึงอาสาในการดูแลบุคคลเหล่านั้น โดยนโยบายที่เราจะทำคือ

1.ลูกคนไทยไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนจะได้ดื่มนมโรงเรียนฟรี 365 วันซึ่งนโยบายนี้ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย

2.ขณะเดียวกันเยาวชนเหล่านั้นจะได้เรียนภาษาต่างประเทศรวมถึงหลักสูตรต่างๆที่เท่าเทียมกันเช่นเดียวกันทุกโรงเรียนทั่วประเทศ ขณะเดียวกันเราจะทำให้เด็กไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ต 1 ล้านจุดทั่วประเทศโดยจะไม่มีเด็กไทยคนไหนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

3.เด็กไทยจะได้เรียนปริญญาตรีฟรีโดยไม่มีค่าหน่วยกิต ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ในปีแรกในสาขาที่ตลาดแรงงานต้องการเด็กไทยจะได้เรียนฟรีเพื่อเป็นหลักประกันว่าเรียนจบไปแล้วจะไม่ตกงานและดูแลตัวเองและครอบครัวต่อไป

"พรรคมั่นใจว่านโยบายเรียนฟรีจะเป็นหลักประกันขั้นพื้นฐานให้กับประชาชนทุกคนในอนาคต"
 

นายสุชัชวีร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในปี 2562 พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีส.ส.กทม.แม้แต่คนเดีย วขณะที่ตนมีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อคนกทม.แต่ไม่มีโอกาส

จึงหวังว่าวันที่ 14 พ.ค.นี้ตนจะได้มีโอกาสได้ทำหน้าที่เพื่อคนกรุงเทพฯในฐานะสส. บัญชีรายชื่อ ฉะนั้นวันที่14 พ.ค.นี้ขอให้พี่น้องประชาชนเข้าคูหากาทั้งคนและพรรค