“เศรษฐา” สวน “ประยุทธ์” ศึกษานโยบายก่อนวิจารณ์ มั่นใจแจงแหล่งที่มาเงินได้

“เศรษฐา” สวน “ประยุทธ์” ศึกษานโยบายก่อนวิจารณ์ มั่นใจแจงแหล่งที่มาเงินได้

“เศรษฐา” นำทีม “เพื่อไทย” ไหว้พระธาตุแช่แห้ง ก่อนเปิดขบวนรถแห่หาเสียงภาคเหนือแห่รอบเมืองน่าน สวน “ประยุทธ์” กลับไปศึกษานโยบาย “เพื่อไทย” ก่อนออกมาวิจารณ์ทำประเทศพัง มั่นใจแจงได้แหล่งที่มาของเงิน ช่วยนำเงินกลับคืนสู่สังคม

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 เมษายน ที่ จ.น่าน แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายสุทิน คลังแสง คณะกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายทรงยศ รามสูต และนายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ ผู้สมัคร ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดพระธาตุแช่แห้ง ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดน่าน เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนทำกิจกรรมในจังหวัดน่าน

จากนั้นเวลา 15.30 น. นายชลน่าน นายเศรษฐา นายชัยเกษม และนายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นำคณะพรรคเพื่อไทย เปิดกิจกรรมขบวนรถแห่ “กี๊ดใหญ่ทำเป็น” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งเริ่มจุดแรกที่ประตูสู่ล้านนาจ.แพร่ เป็นที่แรกเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา วันนี้ขบวนได้เคลื่อนมายังจุดใหญ่ คือ จ.น่าน ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปเข้าร่วมเวทีปราศัยใหญ่จังหวัดลำปางในวันที่ 9 เมษายน และเคลื่อนตัวต่อไปยังอำเภอพาน จังหวัดเชียงรายตอนล่างในวันที่ 10 เมษายน และเชียงรายตอนบนในวันที่ 11 เมษายน โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอนจะมีเวทีคู่ขนานในวันเดียวกันด้วย จากนั้นจะปิดท้ายขบวนแห่ที่จังหวัด เชียงใหม่ในวันที่ 12 เมษายนโดยจะมีขบวนจากจังหวัดลำพูนเข้าร่วมขบวนด้วย ซึ่งขบวนรถแห่ได้เคลื่อนไปรอบตัวเมืองน่าน 

“เศรษฐา” สวน “ประยุทธ์” ศึกษานโยบายก่อนวิจารณ์ มั่นใจแจงแหล่งที่มาเงินได้

  • สวน “ประยุทธ์” กลับไปศึกษานโยบายก่อนวิจารณ์ มั่นใจแจงแหล่งที่มาเงิน

วันที่ 7 เม.ย. 2566 ที่วัดพระธาตุแช่แห้ง อ.เมือง จ.น่าน นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย  ในฐานะ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ระบุถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม วิจารณ์นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ให้กับประชาชนได้ใช้จ่าย 10,000 บาท เสี่ยงจะทำให้ประเทศพัง ว่า อย่างที่ตนเคยเรียนไปแล้ว 8 ปีที่ผ่านมาประเทศบอบช้ำไปเยอะ จึงต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ พี่น้องประชาชนต้องการความช่วยเหลือจำนวนมาก ยืนยันการให้เงิน 10,000 บาทนั้นไม่ใช่ไม่มีที่มาของแหล่งเงิน แต่การผลักดันนโยบายนี้ออกไป ทำให้มั่นใจว่าจะมีเงินกลับคืนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีนิติบุคคล ทั้งนี้ หากพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจให้เป็นรัฐบาลแล้วจะสามารถรีดงบประมาณประมาณ 2 แสนล้านบาทจากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ได้  
    
ถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าในต่างประเทศที่การใช้เงินสกุลดิจิทัลทำให้หลายประเทศนำมาใช้ต้องล่มสลาย  นายเศรษฐา ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ กำลังไม่เข้าใจที่พรรคเพื่อไทยกำลังทำคืออะไร  ตนจึงขอให้ท่านไปอ่านนโยบายและทำความเข้าใจให้ดีก่อน

“เศรษฐา” สวน “ประยุทธ์” ศึกษานโยบายก่อนวิจารณ์ มั่นใจแจงแหล่งที่มาเงินได้

  • “ชัยเกษม” ฟาด “ประยุทธ์” สร้างหนี้กองโต ทำให้ต้องคลอดกระเป๋าเงินดิจิทัลฟื้นเศรษฐกิจ

ขณะที่ นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ตนคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ มาวิจารณ์นโยบายของพรรคเพื่อไทยเพราะว่าคนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ได้สร้างหนี้ไว้มากมายให้กับประเทศ ก็เลยห่วงว่าจะไม่สามารถกู้เงินได้ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สร้างหนี้ไว้ พรรคเพื่อไทยก็คงไม่ต้องคิดนโยบายนี้ออกมา

“ทุกอย่างที่พรรคเพื่อไทยทำนั้นคิดมาอย่างดีแล้ว เราทำเพื่อแก้ปัญหาที่รัฐบาลนี้ได้สร้างปัญหาให้กับประเทศ” นายชัยเกษมกล่าวและว่า ส่วนการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียกชี้แจงนั้นไม่มีปัญหาแน่นอน

ส่วนกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้พรรคเพื่อไทยชี้แจงการจัดทำนโยบายดังกล่าวนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ทางกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยและคณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคยินดีที่จะชี้แจงและเปิดเผยนโยบายจะทำให้ประชาชนจะได้รับทราบอย่างเท่าเทียมกันและยืนยันว่านโยบายนี้เป็นของดีและของใหม่และจะเป็นนโยบายหลักเพื่อฟื้นฟูจากสภาพที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนมา 8-9 ปี

“เศรษฐา” สวน “ประยุทธ์” ศึกษานโยบายก่อนวิจารณ์ มั่นใจแจงแหล่งที่มาเงินได้

ส่วน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้พรรคเพื่อไทย ระบุว่าประเด็นนี้พรรคเพื่อไทยได้เสนอไปตามนโยบายตามมาตรา 57 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. การประกาศนโยบายได้ผ่านกรรมการบริหารพรรคและได้แจ้งต่อ กกต. ส่วนการเรียกให้ชี้แจงเรื่องที่มาแหล่งเงินมาจากตรงไหน ก็เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ได้ปฏิบัติตามนั้นอยู่ ตอนนี้ในรายละเอียดการชี้แจงกับ กกต.อยู่ระหว่างการดำเนินการ พร้อมย้ำว่า ผู้สมัคร ส.ส.400 เขตของพรรคจะช่วยชี้แจงเรื่องนี้ด้วย

เมื่อถามว่า หนี้สาธารณะที่รัฐบาลชุดนี้ได้สร้างไว้จะไม่สร้างปัญหาให้กับนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า แม้จะเป็นปัญหาแต่เราแก้ไขได้ พรรคเพื่อไทยอาสามาแก้ไขปัญหา 

นอกจากนี้ นพ.ชลน่าน ยังขอบคุณแคนดิเดตนายกฯ 3 คนของพรรคเพื่อไทยที่ลงพื้นที่ปราศรัยใหญ่ที่ จ.น่านเป็นเวทีแรกในต่างจังหวัดและเป็นจังหวัดแรกหลังพรรคเพื่อไทยเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ได้พบปะกับประชาชน