“โทนี่” รีรันคลิป “คิดถึงบ้าน” นโยบายจุดติด แต้มต่อเพื่อไทย

จังหวะหลบฉากทางการเมืองของ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร ผู้มีบารมีเหนือพรรคเพื่อไทย ประกาศงดจัดผ่านรายการ “CareTalk กับพี่โทนี่” ชั่วคราว และนัดหมายออกหน้าสื่ออีกครั้ง 16 พ.ค. หลังเสร็จศึกเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. ไปแล้ว ถูกมองว่าเป็นผลบวกกับพรรคเพื่อไทย

เนื่องจากยี่ห้อ “ทักษิณ” อยู่ในเงื่อนไขของความขัดแย้ง การพูดต่างกรรมต่างวาระ แม้จะโดนใจกองเชียร์ แต่ถูกตีความขยายผลด้านลบ เข้าทางกองแช่งได้เช่นกัน

ตั้งแต่เข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง “โทนี่” จึงมูฟออนจากหน้าฉาก นั่งบัญชาการหลังฉากเต็มตัว เพื่อส่งกำลังเสริมให้กับ “ลูกพรรค” สแกนพื้นที่ช่องโหว่ หากสุ่มเสี่ยงจะกำชับให้ “แกนนำเพื่อไทย” ระดับแม่เหล็กลงพื้นที่ไปช่วย

เช่น เขต 1 เชียงใหม่ โพลลับ-โพลพรรค สะท้อนไปในทิศทางเดียวกันว่า “ท็อป” จักรพล ตั้งสุทธิธรรม เบอร์ 1 จากพรรคเพื่อไทย คะแนนตามหลัง “เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู” เบอร์ 2 จากพรรคก้าวไกล เพราะฐานเสียงคนรุ่นใหม่ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เทให้ “เพชรรัตน์-ก้าวไกล”

จึงไม่แปลกที่ช่วงสุดสัปดาห์ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ยกทัพใหญ่พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ หวังกระตุ้นแต้มการเมืองให้ “สุทธิพล” ที่สำคัญเขต 1 เชียงใหม่ เดิมพันใหญ่ของ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ที่จะแพ้ไม่ได้

แม้ “ทักษิณ” จะซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ แต่ไม่เคยหยุดคิดกลเกมการเมือง ทยอยผุดกลยุทธ์ที่จะเรียกคะแนนนิยม เพื่อเพิ่มแต้มการเมืองให้พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะการแย่งชิงคะแนนกับพรรคก้าวไกล

ล่าสุด มีการเผยแพร่คลิปมิวสิควีดิโอเพลงคิดถึงบ้าน ที่ “ทักษิณ” ร้องด้วยตัวเอง เนื้อหาเป็นการย้อนภาพวันวานที่เคยใกล้ชิดกับคนเสื้อแดง และวันนี้ที่ต้องห่างไกลบ้าน แม้จะเป็นการรีรันของเก่า แต่เล่าใหม่ โดยในช่วงท้ายคลิปเพิ่มเติมคลิปเล่นกับหลาน เพื่อสะท้อนให้ความอบอุ่น เมื่อได้อยู่ร่วมกันกับครอบครัว ที่สำคัญเนื้อหาเพลงยังบ่งบอกถึงความคิดถึงของอดีตนายกฯ ที่มีต่อแฟนคลับคนไทย

คลิปมิวสิควิดีโอดังกล่าว ถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียว แพลตฟอร์มต่างๆ โดยมีการส่งต่อกันในบรรดาแฟนคลับ รวมถึงบรรดาผู้สมัคร ส.ส. ได้แชร์ต่อกันเป็นทอดๆ ทำให้กระแสคิดถึง “ทักษิณ” ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งกลับมาคึกคักอีกครั้ง

น่าจับตา การสื่อสารของ “ทักษิณ” ที่หายเงียบไปไม่ได้ แม้จะงดรายการสดพบแฟนคลับ แต่เขาจะเคลื่อนไหวในมุมต่างๆ เพื่อเลี้ยงกระแสไม่ให้ตก

ดังนั้นเพื่อแก้เกมการพูดผ่านรายการสดที่ไม่สามารถคอนโทรลทุกคำพูดได้ จึงจำเป็นต้องมียุทธวิธีนำเสนอรูปแบบใหม่ที่มุ่งไปยังผลด้านบวกเพียงอย่างเดียว  โดยอาจเน้นการส่งคลิปที่ทีมงานแฟนคลับทำให้ โดยต้องผ่านการตรวจทาน เพื่อป้องกันแง่มุมด้านลบ

“ทักษิณ-เพื่อไทย” ช่ำชองยุทธศาสตร์การอยู่บนหน้าสื่อ จะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมามีการวางแผนสร้างกระแสทุกย่างก้าว ตัวอย่างการเปิดชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 3 ภายหลังชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร กับ เศรษฐา ทวีสิน มีการปิดตัวละครลับให้สื่อวิเคราะห์กันอยู่นาน เพื่อทำให้พรรคเพื่อไทยถูกพูดถึงตามหน้าสื่อ มีการวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ คาดเดาอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเปิดชื่อ “ชัยเกษม นิติสิริ” ก็ไม่มีเซอร์ไพรส์

แม้แต่เรื่องที่สังคมการเมืองบางส่วนจะมองว่า วิกฤติเพื่อไทย ถูกโจมตีนโยบายสำคัญที่เปิดฉากหาเสียงล็อตแรก ด้วยการเสนอขึ้นค่าแรง 600 บาท ภายในปี 2570 และล่าสุด ที่กำลังเป็นประเด็นถูกวิพากษ์วิจารณ์นโยบาย “กระเป๋าเงินดิจิทัล” แจกวอลล็อตให้กับบุคคลผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป เติมเงินให้ขั้นต่ำ 10,000 บาท ที่ถูกหลายฝ่ายมองว่าเป็น “ประชานิยม” จนเกินเหตุ ที่สำคัญจะ “หาเงิน” จากไหนมาเป็นค่าใช้จ่ายนโยบายนี้ ที่อาจต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท 

ทว่า ประเด็นเหล่านี้ ถือว่า “จุดติด” ในแง่กระแสการเมือง เป็นที่รับรู้ของประชาชนที่สนับสนุนพรรค และสังคม โดยเฉพาะคนแดนไกลไม่ได้มองเป็นเรื่อง"เสีย" แต่เป็นเรื่อง"ได้ที่คุ้มค่า โดยเฉพาะเมื่อถูกฝ่ายไม่เป็นด้วยวิพากษ์วิจารณ์ ก็ยิ่่งขยายผลการรับรู้ 

จะเห็นได้ว่าทุกย่างก้าวของคนแดนไกล นายใหญ่เพื่อไทย ผ่านการคิดการวางแผนทั้งหมด ดังนั้นการออกคลิปมิวสิควิดีโอ “คิดถึงบ้าน” แม้จะแชร์กันอยู่ใต้ดิน แต่ในอีกไม่นานวิธีการพรีเซ็นต์ตัวเองของ “ทักษิณ” เพื่อเก็บแต้ม-ตรึงกระแสจาก “แฟนคลับ-คนเสื้อแดง” จะมีออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่องแน่นอน

เพราะหากต้องการชนะแบบแลนด์สไลด์ ทำเท่าที่ทำอยู่ในทุกวัน ยังไม่พอที่จะพา “เพื่อไทย” โกย ส.ส. เข้าสภาได้เกินครึ่ง คนแดนไกลจึงจำเป็นต้องมีไม้เด็ดออกมาเรียกคะแนนให้ได้มากที่สุด