"วราวุธ" จ่อยกทัพ ชทพ.หาเสียงอุบลฯ ช่วยผู้สมัคร ส.ส.เด็กปั้น "ประภัตร"
"วราวุธ-บิ๊กเนม" จ่อ ยกทัพ "ชาติไทยพัฒนา" หาเสียง วารินชำราบ จ.อุบลฯ ช่วยผู้สมัคร ส.ส. "ฟักทอง" เด็กปั้น "ประภัตร"
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566 น.ส.ใจยา วาจาดี ผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เบอร์ 1 จ.อุบลราชธานี เขต 4 (อ. วารินชำราบ,อ. สำโรง เฉพาะ ต. สำโรง ต.โคกก่อง ต.บอน) กล่าวว่า การหาเสียงของตนช่วงนี้เน้นการเคาะประตูบ้าน ลุยหาประชาชนให้ถึงหน้าบ้าน นำเสนอนโยบายว้าวไทยแลนด์ของพรรคชาติไทยพัฒนา โดยเฉพาะเรื่อง ที่โดนใจพี่น้องเกษตรกรชาววารินชำราบ อุบลราชธานี คือเรื่อง เจาะบ่อบาดาล พันธุ์ข้าวดี และบอกถึงภาพลักษณ์ของพรรคชาติไทยพัฒนา คือเราไม่ขัดแย้ง ไม่เน้นโจมตีใคร ก้าวข้ามความขัดแย้ง อย่างไรก็ตามพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเป็นพื้นที่ซ้ายสุดและขวาสุด ในเมื่อพรรคชาติไทยพัฒนาเราอยู่ตรงกลาง เดินสายกลางไม่ขัดแย้งกับใคร เน้นทำงานอย่างเดียว
น.ส.ใจยา กล่าวว่า ตนพยายามบอกกล่าวประชาชนให้ชัดเจนว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องกาบัตร2ใบ ซึ่งสามารถบอกประชาชนได้ง่ายเรื่องบัตร2ใบ ครั้งนี้แปลก เพราะการเมืองครั้งนี้ชาวบ้านให้ความสนใจมาก เราเองก็แปลกใจว่าชาวบ้านรู้มาก่อนอยู่แล้วว่ามีเลือกตั้งบัตร2ใบ เราจึงอธิบายให้ฟังว่าแยกอย่างไร เช่น ของผู้สมัครจะมีแค่เบอร์ ส่วนของพรรคจะมีชื่อพรรคการเมือง ชอบพรรคไหนกาพรรคนั้น รักคนไหนกล้าคนนั้น แต่เรานั่ใหม่เราก็ขอโอกาสให้เลือกทั้งพรรคทั้งคน และเลขไม่เหมือนกันก็ต้องอาศัยเทคนิคในการทำให้ชาวบ้านจำเลขได้ง่าย ของตน เบอร์ 1 หาเสียงง่าย แล้วก็ย้ำพรรคชาติไทยพัฒนาให้ชื่อคุ้นหูชาวบ้าน
น.ส.ใจยา กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา เรียกตนเองว่า สส.ฟักทอง นั้น ก็รู้สึกมีกำลังใจ ที่ผู้ใหญ่อวยพรล่วงหน้า คำว่าฟักทองมาจากเดิมตนทำ โครงการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชหลังนา และอำเภอวารินชำราบมีความสามารถในการปลูกฟักทอง เราก็เข้าไปช่วยส่งเสริม เพราะเขาเลิกปลูกไปนานมากแล้วเนื่องจากราคาตกมาก เมื่อเรานำภาคีเครือข่ายเข้ามาช่วยฟื้น สามารถรับซื้อหน้าสวนและหาตลาดให้ได้ ช่วยประกันราคา
น.ส.ใจยา กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในวันเสาร์ที่ 22 เมษายนนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชทพ. พร้อม นายประภัตร เลขาฯพรรคและ แกนนำพรรค จะเดินทางมาช่วยรณรงค์หาเสียง ในพื้นที่ตน ซึ่งได้เตรียมกิจกรรมเดินตลาด และเปิดเวทีปราศรัยไว้ "ในพื้นที่นี้เริ่มมีกระแสพรรคชาติไทยพัฒนาขึ้นแล้ว เพราะเรายอมรับว่าเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ เป็นครั้งแรกในการลงสส. ก็พยายามเน้นย้ำให้ประชาชนจดจำคุ้นหูชื่อพรรค กำลังพยายามให้มีกระแสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ" น.ส.ใจยา กล่าว