“เพื่อชาติ” หาเสียงสยามสแควร์ ย้ำจุดยืน กำจัดนายทุน-ขุนศึก เอาเปรียบ ปชช.

ที่สยามสแควร์ น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ พร้อมด้วย นพ.เรวัต วิศรุตเวช แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อชาติ และ น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 2 ปทุมวัน สาทร ราชเทวี พรรคเพื่อชาติ ลงพื้นที่ย่านสยามสแควร์ ที่มีคนรุ่นใหม่และวัยรุ่นรวมตัวกันจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักเป็นกันเอง 

โดย น.ส.ปวิศรัฐฐ์ กล่าวถึงนโยบายด้านการศึกษาว่า พรรคเพื่อชาติเห็นว่าเรื่องการศึกษาถือเป็นรากฐานของเด็กและเยาวชนที่ควรได้รับการวางรากฐานตั้งแต่แรกเกิด เพื่อให้ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและเท่าเทียมกัน ทั้งในเรื่องคุณภาพของการศึกษา การใช้ชีวิตในสถานศึกษาอาหารกลางวัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เด็กไทยควรจะต้องได้รับการดูแลเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนในเมือง หรือต่างจังหวัด โดยเฉพาะเรื่องของพื้นฐานด้านภาษาที่เด็กๆทุกคนควรจะต้องได้รับความรู้ด้านภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก เพราะถือเป็นภาษาที่สำคัญที่จะใช้ต่อยอดในการเรียนรู้การศึกษาต่อ และการทำงานในอนาคต เพื่อให้เด็กไทยทุกคนมีความรู้ด้านภาษาที่เท่าเทียมกับเด็กจากนานาประเทศ

ด้าน น.ส.เกศปรียา กล่าวว่า นโยบายทลายกำแพงใจของพรรคเพื่อชาติเกิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองจุดประสงค์ของพรรคเพื่อชาติที่ต้องการเป็นจุดกึ่งกลางให้สังคมที่จะช่วยคลี่คลายความขัดแย้งด้วยการเดินหน้าเจรจาพูดคุยกับทุกกลุ่มความขัดแย้ง เพื่อหวังให้ประเทศชาติได้พร้อมก้าวไปข้างหน้าต่อไปอย่างสามัคคีและมั่นคง

นพ.เรวัต กล่าวว่า จากการติดตามข่าวสารช่วงนี้ มีความรู้สึกว่าพรรคเพื่อชาติอาจถูกมองว่าเป็นไก่รองบ่อน แต่เราไม่รู้สึกเช่นนั้น เพราะพรรคขนาดเล็กก็ทำประโยชน์ให้ประเทศได้เหมือนตนที่เป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชนช่วงโควิตตอนที่อยู่พรรคเสรีรวมไทย วันนี้พรรคเพื่อชาติ ได้รับการปฏิบัติจากสื่ออย่างไม่เท่าเทียม เวลาเสนอนโยบายอะไรดีๆ กลับไม่ได้รับความสนใจนำเสนอ แต่โชคดีที่มีสื่อบางส่วนให้ความเป็นธรรมนำเสนอนโยบายของพรรคเพื่อชาติอยู่บ้างต้องขอชื่นชมและขอบคุณ เรื่องนี้สอดคล้องกับจุดยืนของพรรคเพื่อชาติที่ต้องการกำจัดนายทุนขุนศึกที่เอาเปรียบประชาชน และหาทางเพิ่มโอกาสให้คนตัวเล็กได้ลืมตาอ้าปาก ปัญหาทั้งหมดเกิดมาจากความเหลื่อมล้ำ วิธีการแก้ปัญหาของพรรคเพื่อชาติชัดเจน หากเราได้เข้าไปทำหน้าที่รับใช้ประชาชน จะหาวิธีการต่างๆเพื่อลดสิทธิพิเศษ และความได้เปรียบต่างๆของนายทุน ในเวลาเดียวกันต้องเพิ่มโอกาสให้กับประชาชนคนทั่วไปได้เข้าถึงโอกาส เพื่อให้ช่องว่างระหว่างคนจนคนรวยแคบลงให้ได้