“อนุทิน” หาเสียงสาทร เมินโพลภท.ไม่ติดคะแนนนิยม มั่นใจปักธงกทม.
“อนุทิน” หาเสียง "สาทร" ขอคะแนน "พัชรินทร์ " เมินเสียงวิจารณ์ภท. ไม่ติดโผความนิยมใน กทม. เชื่อผู้สมัครทำคะแนนให้พรรคได้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงเลือกตั้งให้กับ น.ส. พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขต 2 (ปทุมวัน สาทร ราชเทวี) ที่สวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋ว เขตสาทร
โดยนายอนุทิน พบปะทักทายกับประชาชนที่มาออกกำลังกายอยู่บริเวณสวนสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งมีประชาชนเข้ามาขอถ่ายรูปจำนวนมาก หลายคนเข้ามาอวยพรสนับสนุนให้นายอนุทินได้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วย จากนั้นได้ขึ้นรถแห่หาเสียง บริเวณตลาดเซ็นต์หลุยส์และตลาดกิตติ ถนนจันทน์ เพื่อขอคะแนนเสียงจากประชาชนในพื้นที่ และแวะพักรับประทานอาหารเช้า ร่วมกับผู้สมัครของพรรค
สำหรับ กระแสนิยมของพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ กทม. หลังลงพื้นถี่ขึ้น มีความหวังมากน้อยเพียงใด นายอนุทิน กล่าวว่า เราทำงานและมั่นใจในนโยบายต่างๆ ของพรรค และความขยันของผู้สมัคร ที่จะทำคะแนนให้กับพื้นที่และทำคะแนนให้กับพรรคภูมิใจไทยได้
ส่วนกระแสในพื้นที่ กทม. ขณะนี้ หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่ามีแค่ 3 พรรคการเมืองที่แข่งกันอยู่ในขณะนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ยิ่งลงพื้นที่ และหาเสียงให้กับตัวเองมากขึ้น เราต้องต่อสู้เต็มที่ลงพื้นที่ใกล้ชิดประชาชนให้มากขึ้นอธิบายนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ให้เข้าถึง ประชาชนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การแข่งขันถือเป็นเรื่องปกติ ยิ่งแข่งขันประชาชนยิ่งได้ประโยชน์
ทั้งนี้ เมื่อดูจากโพลตัวเองในพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้วก็มีความมั่นใจในส่วนของผู้สมัครที่มีความแข็งแรงอยู่แล้ว และมั่นใจว่าประชาชนจะพิจารณานโยบายของพรรคภูมิใจไทยในส่วนที่เป็นบัตรบัญชีรายชื่อด้วย
สำหรับการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมีความมั่นใจ และมีเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ในการผลักดันนโยบายมารับใช้บ้านเมือง จึงคิดว่าไม่ต้องมีไม้เด็ดอะไร ขอแค่ทำอย่างสม่ำเสมอ และมีความจริงใจต่อภารกิจที่เราได้รับมอบหมายจากประชาชน ไม่ใช่มาขอคะแนนแล้ว4ปีหายไป ถ้าเป็นแบบนี้ก็คงเป็น ส.ส.ได้เพียงครั้งเดียว และจะไม่มีวันได้เกิดในทางการเมืองอีกเลย
ส่วนที่หลายพรรคการเมืองมีนโยบายจูงใจในเรื่องของการแจกเงิน นายอนุทิน กล่าวว่า แต่ละพรรคใครพูดอะไรก็ต้องรับผิดชอบในนโยบายของตัวเอง ถ้าพูดไปแล้วถึงเวลาจริงทำไม่ได้ประชาชนก็จะไม่เชื่อถืออีกต่อไป ทำการเมืองจะทำครั้งเดียวไม่ได้ สภาหลังเลือกตั้งเข้ามาจะอยู่นานหรือไม่นานก็ไม่รู้ ไปพูดอะไรแล้วทำไม่ได้ ความเชื่อถือของประชาชนก็จะลดน้อยลงไป เราเห็นตัวอย่างมามากมายแล้ว แต่พรรคภูมิใจไทยจะไม่ไปก้าวล่วงหรือพูดถึงพรรคอื่นว่า นโยบายทำไม่ได้ ทั้งนี้ คนที่เป็นระดับหัวหน้าพรรค เสนอตัวเป็นผู้แทน เป็นผู้นำของประเทศ คำพูจะต้องมีน้ำหนัก จะต้องทำให้ได้ไม่ใช่พูดไปเรื่อยๆเพื่อหวังคะแนน พรรคภูมิใจไทยไม่ทำแน่นอน