“ก้าวไกล”รุกกินแดน 100+ “เพื่อไทย”เสี่ยงแลนด์ไถล
โจทย์ของเพื่อไทย คือการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว หรือหากแลนด์ไถล ก็ยังมีทางเลือก ดึงพรรคพันธมิตรที่ไม่มีเงื่อนไขกระทบกระทั่งกับ “หัวขบวนอนุรักษ์นิยม” มาเป็นตัวช่วย
เมื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ตั้งเป้าชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เพื่อความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล ตัวเลข 253 ที่นั่ง คือเป้าหลัก ส่วนตัวเลข 310 ที่นั่ง คือเป้าปั่น-เป้าหลอก เพื่อสร้างกระแสให้ติดลมบน
แต่มีกระแสข่าวว่าโพลของพรรคเพื่อไทย การันตีเก้าอี้ ส.ส. 190 - 200 ที่นั่ง ส่วนตัวเลข 200 - 220 ที่นั่ง เป็นตัวเลขที่อาจใกล้เคียงกับจำนวน ส.ส. ที่เป็นจริงมากที่สุด
ระยะหลังผลโพลหลายสำนัก ทั้งโพลมหาวิทยาลัย โพลสื่อ และโพลพรรคการเมือง เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือกระแสของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มาแรงแซงพรรคเพื่อไทย ขึ้นไปยึดหัวหาด “ขั้วเสรีนิยม” ในหลายพื้นที่ ทำให้ “บิ๊กเพื่อไทย”ต้องรีบออกมาแก้เกม
เมื่อวันที่ 16 เม.ย. กองอำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ส่งข้อความผ่านไลน์ไปยังผู้สมัคร ส.ส. ระบุบางตอนว่า “โพลเรานำโด่งในช่วงแรกและเริ่มนิ่ง ในขณะที่ “ก้าวไกล” วิ่งตามมาติดๆ ในช่วง 2-3 สัปดาห์หลัง คะแนนก้าวไกลพุ่งขึ้นมาเรื่อยๆ หลายเขตจำนวนไม่น้อยจ่อเข้าที่สองเกือบทุกเขต”
“ถ้าพวกท่านยังขยันไม่พอและไม่เข้าหาประชาชน…เราคงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการแลนด์สไลด์ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยวดยิ่ง ต้องขอแรงและขอความพยายามทุกท่านให้ช่วยกันอย่างสุดความสามารถอีกครั้งครับ”
ต่อมาวันที่ 18 เม.ย. “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) อุ้มท้องใกล้คลอดมานั่งแถลงข่าวส่งสัญญาณทางการเมือง โดยระบุว่า
“ขอให้ดูหน้าดิฉันไว้ การรัฐประหารที่เกิดขึ้น 2 ครั้ง ดิฉันก็ไม่ได้ชอบ แต่การไม่ตอบตรงๆ เพราะให้เกียรติประชาชน ผลเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้น แต่คนที่ทำรัฐประหารมา ถ้าถามว่าอยากจับมือด้วยหรือไม่ เชื่อว่าประชาชนย่อมทราบดี แต่ถ้าจะให้ตอบแบบใช้อารมณ์ คงไม่ใช่แนว แต่คำตอบน่าจะชัดเจนอยู่แล้ว”
“บิ๊กเพื่อไทย” ออกอาการหวั่นไหวกับผลโพล เพราะคู่แข่งเวลานี้ไม่ใช่ “ขั้วพรรคร่วมรัฐบาล” แต่เป็นพรรคก้าวไกลที่มีฐานเสียงอยู่ใน “ขั้วเสรีนิยม” เหมือนกัน หากพรรคก้าวไกลรุกกินแดนพรรคเพื่อไทยได้มากเท่าไร ปรากฎการณ์แลนด์สไลด์ย่อมมีโอกาสน้อยลงทันที
มาถึงจุดนี้ ก้าวไกลขยับตัวเลขเป้าหมาย ส.ส.เขต และ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ขึ้นเป็น 100+ อย่างมีนัย
โดยเฉพาะพื้นที่ กทม. ซึ่งจะมี ส.ส. 33 ที่นั่ง คู่ชิงหลักคือ “เพื่อไทย-ก้าวไกล” และก้าวไกลมีโอกาสแลนด์สไลด์ได้ สำหรับพื้นที่โซนในเมืองพรรคก้าวไกล ก็มีฐานที่ค่อนข้างเหนียวแน่น ขณะที่โซนรอบนอกพรรคเพื่อไทยยังอุ่นใจจากฐานแฟนคลับ-แฟนพันธุ์แท้ ที่สนับสนุน
เช่นเดียวกับเขตเมืองในต่างจังหวัด อาทิ เขต 1 เชียงใหม่ เขต 1 ขอนแก่น เขต 1 เชียงราย เขต 1 อุดรธานี เป็นต้น พรรคเพื่อไทยกระแสเบาบางลง แม้ความนิยมไม่ได้ลดลงมากนัก แต่ความนิยมของพรรคก้าวไกลพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ “บิ๊กเพื่อไทย” ไม่อาจจะมองข้ามได้
ขณะเดียวกัน ในหลายพื้นที่ ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย เริ่มรณรงค์หาเสียงเพื่อเอาตัวรอด ด้วยการหาเสียงกับประชาชนให้เลือกตัว “ผู้สมัคร ส.ส.” ส่วนพรรคการเมือง หากรักชอบพรรคอื่น ก็ให้เลือกพรรค โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลที่กระแสพุ่งต่อเนื่อง
เมื่อแนวทางหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย หวังเอาตัวรอด ย่อมส่งผลให้ “นักรบห้องแอร์” ออกอาการหัวร้อน เพราะแนวทางนี้ย่อมส่งผลต่อแต้มปาร์ตี้ลิสต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจาก “บิ๊กเพื่อไทย” คาดคะเนเก้าอี้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เอาไว้ เซฟโซนจะอยู่ที่ 30 ที่นั่ง แต่เป้าหมายคือ 40 ที่นั่งขึ้นไป ซึ่งจะมีผลต่อชัยชนะแลนด์สไลด์เช่นกัน
แม้พรรคก้าวไกลจะอยู่ใน “ขั้วเสรีนิยม” เหมือนกับพรรคเพื่อไทย แต่การจับมือ-จับขั้ว เพื่อจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง “คนแดนไกล-เพื่อไทย” ไม่เลือกพรรคก้าวไกลให้อยู่ในสมการด้วย เพราะหากจับมือก้าวไกลตั้งรัฐบาล จะถือเป็นศัตรูกับ “หัวขบวนอนุรักษ์นิยม” ทันที และอาจส่งผลกระทบต่อแผนกลับบ้านของ “ทักษิณ” อย่างแน่นอน
ดังนั้น โจทย์ของเพื่อไทย คือการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว หรือหากแลนด์ไถล ก็ยังมีทางเลือก ดึงพรรคพันธมิตรที่ไม่มีเงื่อนไขกระทบกระทั่งกับ “หัวขบวนอนุรักษ์นิยม” มาเป็นตัวช่วย