“ก้าวไกล” แจงนโยบาย “ปฏิรูปกองทัพ” ลั่นถ้าเป็นรัฐบาลไม่กลัวรัฐประหาร
“พิจารณ์” อธิบายละเอียดนโยบาย “ปฏิรูปกองทัพ” ปลุก “พลทหาร” กา “ก้าวไกล” ลั่นไม่กลัว “นายพล” รัฐประหารดับฝันนโยบาย หากได้เป็นรัฐบาล
เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2566 นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงรายละเอียด กรณี ก.ก. ได้ทำเอกสารชี้แจง กกต.เรื่อง เสนอ 52 นโยบายหลัก โดยเฉพาะในส่วนของนโยบายการปฏิรูปกองทัพที่จะใช้วงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท จากงบรายจ่ายประจำปี ว่า การปลุกความกล้าให้พี่น้องทหาร หันมาเลือกพรรค ก.ก. ต้องอาศัยการสื่อสาร ผ่านเวทีต่าง ๆ เพื่อส่งสาร ถึงพลทหารประจำการทุกที่ ทุกกองร้อย ว่าเราก้าวไกล คือพรรคเดียวที่ มีนโยบายยกระดับสวัสดิการของทหารชั้นผู้น้อย ไม่เหมือนกับฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับเราคอยโจมตี
นายพิจารณ์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงคือการ กาก้าวไกลทหารไทยไม่เหมือนเดิม มีรายละเอียด อาทิ รับใช้ประเทศไม่รับใช้นายพล ชีวิตมั่นคง รายได้ สวัสดิการเหมาะสม ภูมิใจได้เป็นทหารของประชาชน เงินเดือนโอนครบไม่มีหักไม่มีทอน ไม่ถูกธำรงค์วินัยป่าเถื่อน เรื่องยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนมาเป็นระบบสมัครใจนั้น ไม่ใช่เลิกการมีอยู่ของทหาร แต่เป็นการปฏิรูปเพิ่มค่าตอบเเทน สวัสดิการที่ดีให้คนที่สมัครใจมาเป็นพลทหารกองประจำการช่วง 2 ปีต้น เช่น เส้นทางอาชีพที่ดีสามารถไต่เต้าขึ้นไปจนถึงในพลได้ ยกตัวอย่าง โมเดลสมัครใจของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นกองทัพที่เเข็งแกร่งเเทบจะที่สุดในโลก แต่เขาไม่ต้องเกณฑ์ทหาร พอปลดประจำการมาแล้ว ก็ได้รับเกียรติติภูมิจากสังคม ในการรับใช้ชาติ เราเพิ่มเกียรติให้ทหารให้ทุกชั้นยศ นโยบาย ก.ก.นี่แหละจะทำให้เกียรติยศเกียรติภูมิของกองทัพไทยกลับมา ถ้าปล่อยให้บริหารจัดการเเบบเดิม ต่อให้มีงบมหาศาลกว่านี้ แต่มีช่องโหว่เรื่องงบที่ไม่โปร่งใส่ และมีเส้นสายแบบทุกวันนี้ เราก็จะไม่มีทางได้กองทัพที่เข้มแข็ง
เมื่อถามว่า ช่วงที่คิดนโยบาย ได้ประเมินมุมที่ว่า หากได้เป็นรัฐบาลจนเกิดการรื้อโครงสร้างกองทัพครั้งใหญ่จริง ๆ อาจทำให้นายพลผู้เสียประโยชน์ เล่นนอกกติกาโดยล้มกระดาน เพื่อไม่ให้เกิดการปฏิรูปกองทัพ นายพิจารณ์ กล่าวว่า ที่ถามว่า ไม่กลัวถูกรัฐประหารหรือ ต้องตอบว่า ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ชนะถล่มทลาย มีแต่เพิ่มงบกลาโหมสุดท้ายเป็นไง ก็ถูกรัฐประหารอยู่ดี ยืนยันว่า หนทางที่จะยุติรัฐประหารได้ คือ การปฏิรูปกองทัพ เอาทหารออกจากการเมือง ให้รัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ ทำให้กองทัพโปร่งใส เสริมสวัสดิการที่ดีให้กับทหารชั้นผู้น้อย ปลายทางจะเป็นการคืนศักดิ์ศรี คืนเกียรติยศให้กับกองทัพในสายตาประชาชน
“ถามว่าเราไม่กลัวรัฐประหารเหรอ ถ้าได้ทำจริง ๆ ถ้าเรากลัวเราก็คงไม่คิดแล้วก็เสนอเรื่องนี้และ เราก็คงไม่มาทำพรรคการเมือง สำคัญที่สุดคือการรณรงค์สร้างความเข้าใจกับพี่น้องทหารและประชาชนมากกว่าที่เรามาทำตรงนี้เราไม่ได้เอาคืนใคร หรือทำด้วยความเกลียดชัง หรือไม่พอใจพี่น้องทหาร มันไม่ใช่นี่ คือหนึ่งในโยบายที่ควรจะเป็นนี่คือเรื่องปกติที่กองทัพควรจะเป็น ถ้าเราทำงานการเมืองแล้วไม่คิดไม่เสนอไม่ทำเรื่องพวกนี้ไม่เริ่มนับหนึ่งแล้วเมื่อไหร่ เราจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้” นายพิจารณ์ กล่าว