3 พรรคลั่นไม่ร่วมรัฐบาล รทสช.-พปชร. "ชัยวุฒิ"ย้อนใครอยากจับกับก้าวไกลบ้าง
"ก้าวไกล- เพื่อไทย -ไทยสร้างไทย" ย้ำชัด ไม่จับขั้ว "รทสช.-พปชร." ด้านชัยวุฒิย้อนขั้วประชาธิปไตย ใครอยากจับมือ"ก้าวไกล"บ้าง
เครือเนชั่นจัด “เวทีดีเบตอนาคตประเทศไทย” เวทีนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองระดับภูมิภาค ภายใต้โครงการ “Road to The Future : เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย” ซึ่งเป็นเวทีดีเบตภาคเหนือกับนโยบายที่กินได้
โดยเป็นช่วงการตอบคำถามจากกองบรรณาธิการเครือเนชั่น และคำถามจากประชาชนถึงจุดยืนไม่ตั้งรัฐบาลกับพรรคใด
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ความแตกแยกต้องหมดไป เราไม่จำเป็นเลือกอยู่ข้างไหน อยู่ที่ว่านโยบายใครดี ตอนนี้ประเทศมีปัญหามากมาย ไม่มีเวลามาทะเลาะกัน ควรฟังให้ความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ นโยบายดีก็สนับสนุน การจะร่วมกับใคร ฟังเสียงประชาชน หากประชาชนเลือกใครเป็นเสียงข้างมากก็ร่วมกับพรรคนั้น แม้เป็นพรรคไม่ใหญ่แต่มีจุดยืนชัดเจน ที่ผ่านมาทำงานเต็มที่ มีผลงานเป็นรูปธรรม เราไม่ทะเลาะกับใคร แต่คิดว่าจะทำอะไรเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
ด้าน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ไม่ร่วมรัฐบาลทหารจำแลง รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐแน่นอน ปัญหาประเทศที่แก้ไขไม่ได้ ล้วนมาจากการสืบทอดอำนาจจากคณะรัฐประหาร เราจะสร้างประชาธิปไตยเต็มใบได้ ต้องเลือกพรรคการเมืองที่มีเจตจำนงในการเลือกตั้ง ส.ส.ร.มาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้น
ความเป็นจริงตอนนี้ 8 ปีที่ผ่านมา รัฐประหาร สืบทอดอำนาจ ทำให้ประเทศถอยหลัง ความเป็นจริง นายกฯที่ประชาชนให้การยอมรับจะแก้ปัญหา ไม่ซุกปัญหาไว้ใต้พรม
น.ต.ศิธา ทิวารี พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ที่ลาออกควรลาออกจากทหาร แล้วมาลงการเมือง ขอให้เข้ามาตามระบบ
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า เหตุของความขัดแย้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่เหตุของการปฏิวัติ สหรัฐฯ ก็มี 2 ฝ่ายไม่เห็นเขาจะปฏิวัติ ทหารเขาเคลียร์เสร็จก็กลับ ไม่ใช่มาปฏิวัติ
ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่มีทหารที่รับราชการมายุ่งเกี่ยวการเมือง ทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ไม่เอาเปรียบใคร อยากให้อยู่กับความเป็นจริง ไม่ใช่ไปพูดอะไรก็ด่าๆ ถ้าคุณเป็นรัฐบาล บางทีก็ทำไม่ได้หรอก ทั้งนี้ เราจะคุยกันที่อุดมการณ์ อยากถามกลับทุกคน ใครจะจับมือพรรคก้าวไกล พรรคฟ้าเดียวกันจำแลง และยังมีกลุ่มทุนของนายธนาธร
ขณะที่ นายหิมาลัย ผิวพรรณ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ชื่นชมพรรคคนรุ่นใหม่ ประกาศเจตนารมณ์ชัดเจน พรรคทหารจำแลง ไม่รู้คือพรรคไหน ตอนนี้หัวหน้าคือ นายพีระพันธุ์ อยู่ในระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด
วันที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาแก้ปัญหา ถ้าไม่เข้ามาวันนั้น ประเทศเราอาจนองเลือด เพราะตอนนั้นมีข่าวจะใช้อาวุธสงครามกับประชาชน
ส่วนเรื่องตั้งรัฐบาลกับใคร ก็เป็นสิทธิของท่าน ส่วนปัญหาความขัดแย้งวันนี้ นำไปสู่การใช้ความรุนแรง อำนาจรัฐบริหารประเทศไม่ได้ ไม่มีหลักนิติรัฐ ที่สำคัญที่สุดเปิดให้มีการเจรจาแล้วหลายรอบ ตกลงไม่ได้ ประเทศถึงทางตัน เลยใช้วิธีการสุดท้าย การตั้งรัฐบาลก็เป็นเรื่องสภาฯ ปฏิวัติแล้ว ก็เดินหน้าไปสู่ความสงบ รัฐบาลก็อยู่ตามระบอบประชาธิปไตย
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยโดนกระทำ โดนรัฐประหาร ไม่มีเหตุผลใดที่จะปฏิวัติ เป็นสิ่งรับไม่ได้ น่ารังเกียจ ส่วนใครยกเหตุผลอะไร ไม่ต้องมาอ้าง แต่ชาวบ้านเขารู้ ทำประเทศเสียหายเท่าไหร่ เขารอตัดสินวันเลือกตั้ง ทั้งนี้ จะจับมือกับใคร คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ มีส่วนร่วมรัฐประหาร ไม่สามารถเดินไปด้วยกันได้
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า เคยเป่านกหวีดเพราะไม่เห็นด้วยพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย แต่ไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ
ผู้สื่อข่าวรายงาน ตลอดช่วงเวลาของการชี้แจงที่ให้แต่ละพรรคเน้นย้ำจุดยืน จะจับมือหรือไม่จับมือกับใครตั้งรัฐบาล เต็มไปด้วยการพาดพิง มีการใช้วาทกรรมของแต่ละฝ่ายอย่างดุเดือด และทำให้ต้องมีการชี้แจงกันไปมาหลายครั้ง เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหา จากตัวแทนบางพรรคที่ตั้งคำถามเข้ามา