เช็กเขตหัวเมือง ‘ก้าวไกล’ ยึดฐานกำลัง ‘เพื่อไทย’

พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ลงสนามการเมืองเที่ยวนี้ต่อยอดความสำเร็จจากอดีตพรรคอนาคตใหม่ แม้กติกาการเลือกตั้งจะเปลี่ยนจากบัตรใบเดียว มาเป็นบัตรสองใบ หวังคุมกำเนิด ส.ส. ก้าวไกล ไม่ให้ผลิดอกออกผลมากไปกว่าเดิม

 

แต่ “ขุนพลสีส้ม” ไม่เคยออกมาโวยวายกติกา “บัตรสองใบ” พร้อมสู้ในทุกติกา เพราะมั่นใจฐานเสียง-ฐานแฟนคลับที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มนิวโหวตเตอร์

 

เมื่อ “ก้าวไกล” เติบโตขึ้น ส่งผลกระทบโดยตรงกับ “เพื่อไทย” ที่มีฐานเสียงอยู่ใน “ขั้วเสรีนิยม” เหมือนกัน แตกต่างกันที่เสรีนิยมของ “เพื่อไทย” โฟกัสอยู่ที่ความเป็นไปของ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เสรีนิยมของ “ก้าวไกล” ไม่ได้โฟกัสที่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” แต่มุ่งไปที่ “จุดยืนทางการเมือง”

“ก้าวไกล” ปลูกฝังแนวคิดอุดมการณ์ทางการเมือง ทิศทางนโยบายของประเทศ ที่สำคัญพิสูจน์การทำงานใน “สภา” มาแล้ว แม้จะเป็น “ฝ่ายค้าน” แต่สามารถผลักดันกฎหมายจนเห็นเป็นรูปธรรม จึงกอบโกยแต้มการเมืองมาต่อยอดช่วงการเลือกตั้งได้เป็นกอบเป็นกำ

 

ฐานเสียง-ฐานแฟนคลับ ทำให้ “ก้าวไกล” มีแต้มในเขตเมือง ไม่ใช่เฉพาะ “คนเมืองหลวง” แต่ในทุกจังหวัดพื้นที่หัวเมือง “ก้าวไกล” ขยายฐานออกไปมาก จนทำให้ “เพื่อไทย” ออกอาการหวั่นไหว

เขต 1 จังหวัดเชียงใหม่ “เพื่อไทย” ส่ง “ส.ส.ท็อป” จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ข้ามแดนจากเขต 3 มาลงเขต 1 ตามบัญชาของ “เจ๊แดง” เยาวภา วงสวัสดิ์ ที่ต้องการเขี่ย “ส.ส.กุ้ง” น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ พ้นจากเขตเมือง โยกไปลงเขต 3 แทน หวังใช้ภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ของ “จักรพล” ครองใจวัยรุ่นเมืองเชียงใหม่

 

แต่โพลล่าสุด “น้องพลอย” น.ส.เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู ลูกสาว “ไพรัช ใหม่ชมภู” อดีตรองนายก อบจ.เชียงใหม่ กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ทีมงานของ “นายก โต๊ะ” บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ตัวแทนจากพรรคก้าวไกล มีคะแนนนำ “ส.ส.ท็อป” หลายช่วงตัว

การเลือกตั้งครั้งนี้แม้กระแส “เพื่อไทย” จะมาแรง แต่เขต 1 ซึ่งเป็นพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ และเป็นเมืองมหาวิทยาลัย ทำให้กระแส “เพื่อไทย” อาจมีผลไม่มากนักในเขตนี้ แถมมีกระแสข่าว “บุญเลิศ” แอบเอาใจช่วง “เพชรรัตน์” ส่งผลให้แต้มการเมืองของ “เพชรรัตน์-ก้าวไกล” ในเขตเมืองเชียงใหม่พุ่งทะลุปรอท จนมีโอกาสล้มตระกูลชินวัตร แย่ง เมืองหลวงตระกูลชิน ไปได้

 

เขต 1 จังหวัดเชียงราย “เพื่อไทย” ส่ง “ร.ต.อ.ธนรัช จงสุทธนามณี” ลงชิง แม้จะเป็นน้องใหม่ถอดด้าม แต่ก็ถือว่ามีฐานเสียงแน่น เพราะเป็นลูกชายของ “วันชัย จงสุทธานามณี” นายกเทศมนตรีนครเชียงราย และ “รัตนา จงสุทธนามณี” อดีต ส.ส.เชียงราย หลายสมัย มีฐานเสียงในเขตเทศบาลนครเชียงราย ต.เวียง ต.รอบเวียง ต.ริมกก 

แต่รอบนี้ตระกูล “จงสุทธนามณี” เจอศึกหนักจาก “ก้าวไกล” เจ้าของพื้นที่เขตนี้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เมื่อส่ง “เดอะปั๋น” ชิตวัน ชินอนุวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอลเชียงราย ยูไนเต็ด ลงชิงเก้าอี้ 

 

นอกจากฐานเสียง “ก้าวไกล” ในเขตนี้ที่มาจากคนรุ่นใหม่ในพื้นที่แล้ว “ชิตวัน” ยังได้รับการสนับสนุนจาก “เสี่ยฮั่น” มิตติ ติยะไพรัช เจ้าของสโมสรเชียงราย ยูไนเต็ด เนื่องจากตระกูล “ติยะไพรัช” ไม่สบายใจกับการที่ “เพื่อไทย” ตัดสินใจเลือกตัวแทนจากตัวตระกูล “จงสุทธนามณี” มาลงสนามเขตนี้ 

 

เขตนี้อาจมีผลให้ “เพื่อไทย” ไม่แลนด์สไลด์ในเชียงราย เพราะจากฐานเสียง “ก้าวไกล” และฐานเสียงของตระกูล “ติยะไพรัช” ทำให้ “ชิตวัน” เหนือกว่า “ธนรัช” ในระดับหนึ่ง และน่าจะเป็นเขตที่แข่งกันดุเดือด

เขต 1 พิษณุโลก “ก้าวไกล” ส่ง “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา ลงป้องกันแชมป์ โดยมี “สจ.อั้ม” อดุลวิทย์ วิวัฒธนาฒย์ จากพรรคพลังประชารัฐ และ “น.ส.ณัฐทรัชต์ ชามพูนท” จากพรรคเพื่อไทย ลูกสาว “เปรมฤดี ชามพูนท” นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ลงแข่ง
 
เขตนี้ “หมออ๋อง” ทำงานหนักทั้งในพื้นที่และในสภา ยังน่าจะครองความได้เปรียบ 2 ผู้สมัครจากพลังประชารัฐและเพื่อไทย จากฐานเสียงเดิมของ “ก้าวไกล” บวกกับความนิยมเพิ่มเติมในตัว “หมออ๋อง” จึงเบียดกับคู่แข่งได้อย่างสนุก

เขต 1 ขอนแก่น ปี 2562 “เพื่อไทย” เสียแชมป์ให้กับ “ฐิตินันท์ แสงนาค” โดยเอาชนะ “จักริน พัฒน์ดำรงจิตร” ลูกชายเสี่ยเล้ง จากพรรคเพื่อไทยไปแบบทิ้งห่างเกือบหมื่นคะแนน 

 

แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ “จักริน” ตัดสินใจไม่ลงสมัครในระบบเขต ส่วน “ฐิตินันท์” ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบพรรค 

 

เลือกตั้งรอบนี้ เพื่อไทยส่ง ชัชวาล พรอมรธรรม อดีตรองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ที่เพิ่งแพ้การเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีนครขอนแก่นการเลือกตั้งปี 64 ลงสมัคร โดยมีคู่แข่งจากพรรคก้าวไกล “ทนายป๊อก” วีรนันท์ ฮวดศรี ที่ได้รับการสนับสนุนจาก “รังสิมันต์ โรม”    

“ชัชวาล” แม้จะแพ้ในสนามเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่น แต่คะแนนที่ได้ก็ไม่น้อย เพราะมีฐานเสียงแน่นหนาในเขตเทศบาลนครขอนแก่น แต่สำหรับการลงสนามการเมืองใหญ่ครั้งแรก ต้องเจอคู่แข่งทางการเมืองหน้าใหม่อย่าง “วีรนันท์” จัดเป็นศึกหนักพอสมควร

 

ส่วน “ทนายป๊อก” เคยว่าความให้สมัย “อานนท์ นำภา” โดนจับเมื่อครั้งประท้วงการรัฐประหาร ก็ถือว่าเป็นคู่แข่งที่สูสี โดยเฉพาะเมื่อต้องต่อสู้กันในเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งมีสถาบันการศึกษาทั้งมหาวิทยาลัย และโรงเรียน ที่มีแกนนำนักศึกษาและนักเรียนร่วมการเคลื่อนไหวแสดงออกทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง และเป็นฐานคะแนนสำคัญของพรรคก้าวไกลที่พร้อมเลือกพรรคแบบไม่ต้องดูหน้าผู้สมัคร ทำให้เชื่อว่าจะได้คะแนนจากพลังคนรุ่นใหม่ไปไม่น้อย

 

กระแส “อุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทย” บวกฐานเสียงของ “ชัชวาล” ยังไม่พอที่จะทำให้ “ชัชวาล” ขึ้นนำ “ทนายป๊อก-ก้าวไกล” จึงต้องไปลุ้นในช่วงโค้งสุดท้ายว่ากระแส “เพื่อไทย-ก้าวไกล” พรรคไหนจะแรงกว่ากัน

เขต 2 ขอนแก่น ปี 62 แชมเก่า “วัฒนา ช่างเหลา” ลูกชาย “เอกราช ช่างเหลา” ภายใต้ร่มเงาพรรคพลังประชารัฐ เอาชนะ “อรอนงค์ สาระผล” จากเพื่อไทยไปแบบขาดลอยกว่าหมื่นคะแนน การเลือกตั้งครั้งนี้ “เพื่อไทย” จึงหวังชิงพื้นที่คืนเช่นกัน จึงส่ง “รัมภามาศ ทีฆธนานนท์” ลูกสาวของ “นายกอุ้ย” นายกเทศมนตรีตำบลเมืองเก่า มาท้าชิง

 

ส่วนแชมป์ “วัฒนา” ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้เปรียบตรงที่มีฐานเดิม เป็นขั้วการเมืองใหญ่ มีฐานเสียงที่เทศบาลเมืองศิลาหนุน มีกลุ่ม สจ.หนุน เพราะน้องชายก็เป็น สจ. และยังมีนักการเมืองท้องถิ่นอีกหลายพื้นที่ ซึ่งอยู่ในเครือข่ายของ “เอกราช” คอยสนับสนุน  

 

ทว่าคู่แข่งที่น่ากลัวคือ “แบงค์” อิทธิพล ชลธราศิริ จากพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นคนหนุ่มโปรไฟล์ดี และยังเป็นนักบริหารที่เป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหารสถาบันกวดวิชา TUTOR KING และยังเป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหารธุรกิจแฟรนไชส์ชานมไข่มุก CHINCHA 

รวมถึงเป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหารร้านจ้วดคาเฟ่ ขอนแก่น ทำให้ฐานคะแนนเสียงของ แบงค์ อิทธิพลค่อนข้างหนาแน่นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งนักศึกษาและคนทำงาน โดยเฉพาะฐานของกลุ่ม สตาร์ทอัพ และกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี โพลช่วงแรกแต้มของ “อิทธิพล” จึงออกมานำ “วัฒนา” อยู่เล็กน้อย

เขต 2 อุดรธานี “ก้าวไกล” ส่ง “ภูษณิศา มหาวรากร” อาจารย์สาวจาก คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชธานี ลงแข่ง เขตนี้ยังยึดโยงกับเขตอำเภอเมือง ซึ่งเป็นฐานเสียงใหญ่ของพรรคก้าวไกล ทำให้ “ภูษณิศา” มีโอกาสล้มยักษ์ 

 

แม้ “เพื่อไทย” จะส่ง “หทัยรัตน์ เพชรพนมพร” อดีตรองนายทน.อุดรฯ ลาออกมาลงสนามใหญ่ เช่นเดียวกับ “ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น” จากพรรคไทยสร้างไทย ลงสนามส.ส.ครั้งแรกเหมือนกัน เขตนี้หน้าใหม่ชนกันโอกาสพลิกจึงมีสูง

ทั้งหมดคือพื้นที่เขตหัวเมืองที่ “ก้าวไกล” เริ่มรุกกินแดน ล้ำเขต “เพื่อไทย” เข้าไปในหลายพื้นที่ แถมเขตชนบทหลายพื้นที่แต้มของ “ก้าวไกล” มีกระแสในทิศทางบวก แตกต่างจาก “เพื่อไทย” ที่แต้มการเมืองเริ่มนิ่ง

 

หากหาแต้มมาเติมไม่ได้ “ก้าวไกล” ย่อมมีโอกาสพลิกชนะในบางพื้นที่ได้เหมือนกัน.