“จิรัฏฐ์” แฉแปดริ้วซื้อเสียงหนัก ปชช.รู้หมด หวั่น “ก้าวไกล” พ่ายเลือกตั้ง 66
“จิรัฏฐ์” ออกโรงแฉถิ่นแปดริ้ว มีซื้อเสียงหนักมาก ประชาชนรู้หมด ไม่มั่นใจ “ก้าวไกล” จะชนะเลือกตั้ง 66 หรือไม่ แถมผู้สมัคร ส.ส.รทสช.มี “กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน” ตามประกบช่วยหาเสียง ซัด “ประยุทธ์” แค่ทหารแก่สายตายาว เพ้อเจ้อหลงตัวเองเป็นกัปตัน
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2566 นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่หาเสียงและการตอบรับของประชาชนที่มีต่อพรรค ก.ก. ว่า ประชาชนให้การตอบรับพรรค ก.ก. ดีมากจนน่าตกใจ เดินไปไหนก็จะมีคนเข้ามาบอกว่า จะเลือกอยู่แล้ว ไม่ต้องแจกโบชัวร์แล้ว แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้งหรือไม่ เพราะในพื้นที่เขตตนมีการซื้อเสียงหนักมาก ทำให้ประชาชนรู้หมดแล้วว่าจะได้เงินเท่าไหร่
เมื่อถามว่า คิดว่าเหตุใดคะแนนนิยมของพรรค ก.ก.จึงเพิ่มขึ้น นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่ามาจากยุทธศาสตร์ที่ทำอยู่คือความตรงไปตรงมา และประชาชนตั้งใจที่อยากจะเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ปี 2562 แล้ว เมื่อตน ได้เป็นส.ส.และเข้าไปทำงานในสภาฯ ก็เห็นว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ยิ่งทำให้ประชาชนมั่นใจที่จะเลือกพรรค ก.ก. โดยคิดว่าการอยากเปลี่ยนแปลงน่าจะมาจากความอัดอั้นจากปัญหาหลายอย่างที่สะสมมา 20-30 ปี โดยหลังการเลือกตั้งปี 2562 เป็นต้นมา พรรคอนาคตใหม่ และพรรค ก.ก. ได้นำปัญหาที่ถูกกดทับมาพูดในสภาฯ ขมวดปมให้ประชาชนได้เห็นภาพและเข้าใจมากขึ้น จึงยิ่งทำให้ประชาชนอยากจะเปลี่ยนให้เร็วที่สุด
นายจิรัฏฐ์ ยังกล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ประกาศพร้อมอาสาเป็นนักบินแก่ขับเครื่องบินที่มีคนไทยทั้ง 70 ล้านคน ลงสู่พื้นอย่างปลอดภัยไม่โหม่งโลก เพราะดีกว่าจะเอาวัยรุ่นที่ไม่มีประสบการณ์มาขับเครื่องบิน ว่า ตอนที่พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีอาวุธครบมือ มีรถถัง และมีกองกำลังเป็นแสนนาย จึงคิดว่าตัวเองใหญ่ จะทำอะไรก็ได้ พอมีคนอวยก็คิดว่าตัวเองขับเครื่องบินเป็น สุดท้ายก็ไปไฮแจ็คเขากลางอากาศ ปลดกัปตันและลูกเรือเก่าออกหมด ทั้งที่เป็นชุดที่ผู้โดยสารไว้วางใจให้พาขึ้นสู่ท้องฟ้าตั้งแต่แรก จากนั้นส่งลูกน้องตัวเองมาใส่กระโปรงแต่งหน้า แต่เหน็บปืนไว้ที่เอว มาทำหน้าที่แทนแอร์โฮสเตส โดยไม่ได้มาดูแลและคอยบริการ แต่ให้มาทำหน้าที่คุกคามข่มขู่ผู้โดยสารไม่ให้ส่งเสียง และนั่งตัวตรงอยู่กับที่ ส่วนกัปตันคนใหม่ก็จะเอาน้ำไปฉีดหน้าเขา ฟาดด้วยถาดเสิร์ฟอาหาร พอบินแบบนี้อยู่หลายปีก็มั่นใจขับเก่งและมีประสบการณ์
“ประเด็นคือพล.อ.ประยุทธ์ไม่มีใบอนุญาตขึ้นบินตั้งแต่แรก และไม่มีใครจะออกใบอนุญาตให้ด้วย เพราะเป็นเรื่องที่เพ้อเจ้อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นทหาร ไม่ใช่นักบิน ทั้งยังเป็นทหารแก่ สายตายาว และมีประวัติปล้นเครื่องบินมาก่อน ไม่ต่างกับโจรเลย ตอนนี้ผู้โดยสารก็ทนสภาพนี้ไม่ไหว พร้อมจะลุกฮือแล้ว ก็ต้องเลือกเอาว่าจะกลับบ้านไปปลอกไข่ต้มให้หมาที่บ้านกิน หรือว่าจะไปโกนหัวเข้าวัดก็ได้ ถ้าอยากบิณฑ (บาต) ทุกเช้า ความจริงคือจะเอาใครมาขับก็ได้ แต่ต้องเป็นคนที่มีใบอนุญาต เพราะยังดีกว่าทหารที่สายตายาว และไม่มีใบอนุญาตจากการเลือกตั้งของประชาชน” นายจิรัฏฐ์ กล่าว
เมื่อถามว่า จากคะแนนนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ คิดว่า พรรค รทสช. จะได้ส.ส.เท่าใด นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าได้มากกว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพราะพรรค รทสช. มีเครื่องไม้เครื่องมือมากกว่าคนอื่น คือมีทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน และมีการขีดเส้นแบ่งเขตเลือกตั้งให้ผู้สมัคร ส.ส.เขต ของพรรค รทสช. ได้เปรียบ กระทบไปถึงพื้นที่ของพรรค พปชร. ด้วย นอกจากนี้ ยังมีทรัพยากรการหาเสียงมากกว่าคนอื่น ทั้งรถหาเสียง และป้ายหาเสียง ส่วนผู้สมัครส.ส.เขต ของพรรค รทสช. ก็ทำตัวไม่ต่างจากพล.อ.ประยุทธ์ ไปลงพื้นที่ทีก็ไปกัน 30 คน ตัวเองเดินใหญ่อยู่ตรงกลางคนเดียว โดยมีหัวคะแนนที่เป็นกำนันผู้ใหญ่บ้านลงพื้นที่ด้วย
เมื่อถามว่า หากพรรค รทสช. ได้ส.ส.มากกว่าพรรค พปชร. จริงจะส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า เมื่อดูจากโพลต่างๆ ตนคิดว่าพรรคที่จะได้จัดตั้งรัฐบาลน่าจะมาจากฝั่งประชาธิปไตยมากกว่า เช่น พรรค ก.ก. และพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่รวมกันได้คะแนนนิยมมากกว่าพล.อ.ประยุทธ์ มาก จึงงงว่าตลอด 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ใช้งบประมาณไป 28.5 ล้านล้านบาท แต่ได้คะแนนความนิยมมาแค่ 13-14% เองหรือ แล้วแบบนี้จะมาขับเครื่องบินได้อย่างไร