วัดบารมี“เจ๊แดง-ส.ว.ก๊อง”ยึดเชียงใหม่ กำราบ ก้าวไกล สกัดรุ่นใหม่แจ้งเกิด

เลือกตั้งรอบนี้ “ตระกูลชินวัตร-เพื่อไทย” ต้องสู้หนักในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะเป็นถิ่นฐานทางการเมือง และบ้านเกิดของ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะปล่อยให้ใครมาเทียบจมูกไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมา แต้มการเมืองของชินวัตร-เพื่อไทย มีสูงลิบเกือบทุกครั้ง

แต่คราวนี้ต้องเผชิญศึกหนักมากขึ้น เนื่องจากความนิยมของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่ต่อยอดจากอดีตพรรคอนาคตใหม่ แรงดีไม่มีตก กระแสพุ่งทะยานขึ้นมาในช่วงการเลือกตั้งโค้งสุดท้าย ต่างจากกระแส “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงแรก ก่อนจะนิ่ง และตกลงจากเดิม

ทำให้ “ขุนพลเพื่อไทย” ต้องรีบออกมาแก้เกมด้วยการประกาศจุดยืนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าจะไม่จับมือกับ “3 ป.” โดยเฉพาะ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล หวังลบข้อครหา แอบหมั้นหมายกับ “พรรคทหารจำแลง” ตามข้อหาที่ “ขุนพลก้าวไกล” พยายามผูกโยง เพื่อชิงแต้มการเมืองในขั้วเดียวกัน

ปรากฎการณ์ “ก้าวไกล” ฟีเวอร์ลามมายัง “เชียงใหม่” พื้นที่เมืองหลวงของตระกูล “ชินวัตร” โดยโพลหลายสำนัก ผลสำรวจตรงกันว่า “ก้าวไกล” มีคะแนนบวก จ่อคอหอย “เพื่อไทย” ในบางพื้นที่
 

เขต 1 “ส.ส.ท็อป” จักรพล ตั้งสุทธิธรรม จากพรรคเพื่อไทย ข้ามแดนจากเขต 3 มาลง ตามบัญชาของ “เจ๊แดง” เยาวภา วงสวัสดิ์ ที่ต้องการเขี่ย “ส.ส.กุ้ง” ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ พ้นจากเขตเมือง โยกไปลงเขต 3 แทน โดยหวังใช้ภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ของ“จักรพล”ครองใจวัยรุ่นเมืองเชียงใหม่

แต่ผลสำรวจจากสำนักโพล รวมถึงโพลเพื่อไทย-โพลก้าวไกล เป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า “น้องพลอย” เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู ลูกสาว “ไพรัช ใหม่ชมภู” อดีตรองนายก อบจ.เชียงใหม่ กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ทีมงานของ “นายกโต๊ะ” บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ตัวแทนจากพรรคก้าวไกล มีคะแนนนำ “ส.ส.ท็อป” หลายช่วงตัว

“เพชรรัตน์” ได้แรงหนุนจาก “คนรุ่นใหม่-วัยกลางคน” ในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ และมีฐานคะแนนจากบุคลากรทางการศึกษา ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำให้กระแสการเมืองของ “เพชรรัตน์” ค่อนข้างมาแรง แถม “นายกโต๊ะ” ยังแอบเอาใจช่วย
 
ขณะที่ “ส.ว.ก๊อง” พิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่ แม้จะเป็นสายตรง “เจ๊แดง” เหมือนกัน แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง “ส.ว.ก๊อง” กับ “ส.ส.ท็อป” ไม่กินเส้นกันสักเท่าไร

เขต 2 “ส.จ.เก่ง” โกวิทย์ พิริยะอานันต์ อดีตสมาชิกสภา อบจ.เชียงใหม่ ลงในนามพรรคเพื่อไทย ถือเป็นการลงสนามใหญ่ครั้งแรก “สจ.เก่ง” เป็นเด็กในคาถาของ “ส.ว.ก๊อง” ผลักดันผ่าน “เจ๊แดง” ให้ลงชิงเก้าอี้ ส.ส.

แต่ “สจ.เก่ง” ต้องเจอด่านโหด เมื่อต้องวัดกับ “หมอครีม” การณิก จันทดา จากพรรคก้าวไกล ดีกรีเภสัชกรสาว และอดีตแอร์โฮสเตส แม้จะยังใหม่สำหรับการเมือง แต่กระแสนิยมในตัว “หมอครีม” บวกกับกระแสพรรคก้าวไกล จึงไม่ง่ายที่ “สจ.เก่ง-เพื่อไทย” จะครองพื้นที่เขต 2 
 

เขต 3 “ส.ส.กุ้ง” ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ โยกมาจาก เขต 1 เที่ยวนี้อาจจะไม่ต้องออกแรงมากนัก เพราะเป็นพื้นที่บ้านเกิด “ตระกูลชินวัตร” โอกาสเข้าป้ายมีสูง แต่ “ส.ส.กุ้ง” จำเป็นต้องมีฐานเสียงของตัวเอง เพราะหากอาศัยฐานของชินวัตรมากเกินไป เลือกตั้งรอบหน้าอาจโดนเขี่ยทิ้ง เพราะรู้กันทั้งเชียงใหม่ว่า “ตระกูลบูรณุปกรณ์” เดินคนละทางกับ “ตระกูลชินวัตร”

สำหรับคู่แข่ง ไม่ใช่คนอื่นคนไกล “กอล์ฟ” ณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล จากพรรคก้าวไกล ลูกชายของ “สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล” อดีตนักการเมืองชื่อดัง ที่เข้ามาท้าชิง

เขต 4 “วิทยา ทรงคำ” แชมป์เก่า จากพรรคเพื่อไทย พื้นที่ค่อนข้างเหนียวแน่น บวกกับกระแสพรรคเพื่อไทยที่ยังมาแรงเหมือนเดิม แม้จะมี “น้องจีน” พุธิตา ชัยอนันต์ จากพรรคก้าวไกล เคยทำงานอาสาสมัครนักสิทธิมนุษยชนมูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง แต่ยังห่างชั้นกับ “วิทยา” อยู่หลายขุม

เขต 5 “ส.ส.หนิม” จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ จากพรรคเพื่อไทย เจ้าของพื้นที่ 4 สมัย มีฐานเสียงจากผู้นำชุมชนคนรักเพื่อไทย รวมถึงบารมีบิดาของ “เฮียพงษ์” สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ยังมากล้นในพื้นที่ ทำให้ “ส.ส.หนิม” มีโอกาสป้องกันแชมป์ได้ไม่ยาก

ทว่า คู่แข่งอย่าง “ลูกป้ำ” เดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ ลูกชาย “บุญทรง เตริยาภิรมย์” อดีต รมว.พาณิชย์ ลงชิงในนามพรรคพลังประชารัฐ มีฐานเสียงหนาแน่นไม่แพ้กัน 

เขต 6 “หมอไกร” นพ.ไกร ดาบธรรม ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย อดีตผู้อำนวยการ โรงพยาบาลแม่อาย ผ่านสนามการเมืองมาหลายครั้ง โดยปี 2550 ชนะการเลือกตั้ง ส.ส. เชียงใหม่ เขต 3 ในสังกัดพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ปี 2562 ลงชิง ส.ส.เขต 7 เชียงใหม่ ในนามพรรคภูมิใจไทย แต่แพ้ขาดลอย

“หมอไกร” มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ “ส.ว.ก๊อง” ซึ่งเป็นคนการันตีกับ “เจ๊แดง” ให้ช่วยสนับสนุน “หมอไกร” เนื่องจาก “สมพงษ์” ต้องการผลักดันให้ “บรรจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ” เด็กในสังกัดลงชิงเขต 6 เพราะถือเป็นคนทำงานในพื้นที่ อย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้าย “สมพงษ์” โดน “ส.ว.ก๊อง” ปาดหน้าหงายการ์ด “เจ๊แดง” ส่ง “หมอไกร” เข้าชิงสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม “หมอไกร” อาจเจอศึกหนัก หลังพรรคก้าวไกลส่ง “อรพรรณ จันตาเรือง” อดีตรองนายก อบต.เชียงดาว มีฐานเสียงแน่นในอำเภอเชียงดาว ลงสมัคร ด้าน “หมอไกร” ที่มีคะแนนนิยมดีในอำเภอไชยปราการ จึงต้องแย่งพื้นที่ แย่งคะแนน ชนิดยอมไม่ได้

เขต 7 พรรคเพื่อไทยส่ง “นิธิกร วุฒินันชัย” ลูกชาย “ประสิทธิ์ วุฒินันชัย” อดีต ส.ส. เขต 5 เชียงใหม่หลายสมัย เป็นอีกหนึ่งทายาทนักการเมือง ที่ลงพื้นที่แนะนำตัวกับประชาชนในพื้นที่มาไม่น้อย ทำให้คะแนนส่วนตัวมีพอสมควร 

อย่างไรก็ตาม “นิธิกร” ต้องเจอกับกระดูกชิ้นโตอย่าง “สันติ ตันสุหัช” อดีต ส.ส.จากพรรคไทยรักไทย 2 สมัย ที่่คราวนี้ ลงสมัครในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้ง “นิธิกร-สันติ” ต้องวัดกันจนนาทีสุดท้าย

เขต 8 พรรคเพื่อไทยส่ง “ณัฏฐ์พัฒน์ รัฐไผท” ลูกชาย “นพคุณ รัฐไผท” อดีต ส.ส. เขต 2 หลายสมัยลงสมัคร ถือเป็นการเปลี่ยนเจน ส่งทายาทการเมือง เพื่อเรียกคะแนนจากคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ แม้เพื่อไทยจะครองพื้นที่มาอย่างเหนียวแน่น แต่ก็ไม่ประมาทที่จะขยายฐานเสียงไปยังคนรุ่นใหม่ด้วย และแม้ลูกชายจะหน้าใหม่ แต่ฐานเสียงของพ่อยังแข็งแกร่งอยู่มาก 

เขต 9 “สุรพล เกียรติไชยากร” ส.ส.เชียงใหม่ 8 สมัยซ้อน จากพรรคเพื่อไทย ขอกลับมาทวงคืนพื้นที่ หลังจากที่ศาลมีคำสั่งชนะคดี “กกต.” โดยคะแนนนิยมส่วนตัวยังสูงลิบ กระแสพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ยังแรง แตกต่างจากคู่แข่งอย่าง “ศรีนวล บุญลือ” อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 จากพรรคภูมิใจไทย ที่ถูกโจมตีเรื่องหักหลัง “ธนาธร-ก้าวไกล” อย่างหนัก

เขต 10 พรรคเพื่อไทยส่ง “ศรีโสภา โกฏิคำลือ” ลูกสาว “ศรีเรศ โกฏิคำลือ” อดีต ส.ส. เขต 9 อดีตนายก อบต.บ้านตาล อำเภอฮอด มีสายสัมพันธ์ที่ดี และดีลธุรกิจกับ “ส.ว.ก๊อง” เช่นกัน ด้วยความเก๋าเกมในพื้นที่ของ “ศรีเรศ” ทำให้คะแนนของ “ศรีโสภา” ที่เข้ามารับไม้ต่อ ทิ้งห่างคู่แข่ง

ทั้งหมดคือภาพรวมของจังหวัดเชียงใหม่ เมืองหลวง “ตระกูลชินวัตร” ภายใต้การกำกับดูแลของ “เจ๊แดง” ผนึกกำลังกับ “ส.ว.ก๊อง” หวังกวาดเก้าอี้ ส.ส.ยกจังหวัด กำราบ “ก้าวไกล” ที่รุกคืบมาประชิดในหลายเขต จึงต้องคุมกำเนิดไม่ให้ “ส.ส.พรรคส้ม” ได้แจ้งเกิดในพื้นที่ไข่แดง