ยกปมคุก “อนุรักษ์” บี้เลขา กกต.สั่ง “เพื่อไทย” ห้ามสมาชิกฝ่าฝืน “กม.ทุจริต”

ยกปมคุก “อนุรักษ์” บี้เลขา กกต.สั่ง “เพื่อไทย” ห้ามสมาชิกฝ่าฝืน “กม.ทุจริต”

“ศรีสุวรรณ” ยก ม.22 กฎหมายพรรคการเมือง บี้เลขา กกต.สั่ง “พรรคเพื่อไทย” ห้ามสมาชิกฝ่าฝืน “กฎหมายปราบทุจริต” หลังศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 6 ปี “อนุรักษ์” อดีต ส.ส.เพื่อไทย คดีเรียกรับเงิน 5 ล้าน จากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล

เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กทม. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่อเลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อขอให้แจ้งไปยังคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ให้ควบคุมและกำกับดูแลสมาชิกพรรคเพื่อไทยกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและหรือกฎหมาย หลังศาลฎีกา และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาจำคุกนายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีต ส.ส.มุกดาหาร สังกัดพรรคเพื่อไทย

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เนื่องจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้อ่านคําพิพากษาเมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 ในคดีหมายเลขดำที่ อม.4/2565 โดยพิพากษาจำคุก 6 ปี นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีต ส.ส.มุกดาหาร สังกัดพรรคเพื่อไทย มีความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 173 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 กรณีถูกกล่าวหาว่าโทรศัพท์ไปเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื่นใดจาก นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล (ขณะนั้น) จำนวน 5 ล้านบาท ซึ่งกรณีดังกล่าวสื่อมวลชนได้รายงานแพร่หลายเป็นการทั่วไปแล้วนั้น

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ ในกรณีเดียวกันนี้เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2566 ศาลฎีกา ได้มีคำพิพากษาให้นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ พ้นตำแหน่ง ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย เหตุฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีดังกล่าวด้วย โดยให้พ้นจากตำแหน่ง ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย นับตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.2564 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ ให้เพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดไป และไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ และเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา

ยกปมคุก “อนุรักษ์” บี้เลขา กกต.สั่ง “เพื่อไทย” ห้ามสมาชิกฝ่าฝืน “กม.ทุจริต”

นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ตาม ม.22 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 กำนดไว้ชัดเจนว่า คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมือง มีหน้าที่ควบคุมและกํากับดูแลมิให้สมาชิกกระทําการอันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ฯลฯ และนายทะเบียนพรรคการเมืองมีหน้าที่ที่จะต้องแจ้งให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองทราบว่าสมาชิกกระทําการอันอาจมีลักษณะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีมติหรือสั่งการให้สมาชิก ยุติการกระทํานั้นโดยพลัน และกําหนดมาตรการหรือวิธีการที่จําเป็นเพื่อมิให้สมาชิกผู้ใดกระทําการ อันอาจมีลักษณะดังกล่าวอีก แล้วแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่มีมติ
    
"ดังนั้นจึงต้องร้องเรียนให้เลขา กกต.ซึ่งเป็นนายทะเบียนพรรคการเมืองให้เร่งดำเนินการตาม ม.22 ตามกฎหมายดังกล่าว หากคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยไม่ดำเนินการก็อาจถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะได้" นายศรีสุวรรณ กล่าว