ผ่าขุมทรัพย์ “ลิ้มเจริญรัตน์” ก่อนดราม่า “พิธา” บ.น้ำมันรำข้าว ขาดทุน 143 ล.

ผ่าขุมทรัพย์ “ลิ้มเจริญรัตน์” ก่อนดราม่า “พิธา” บ.น้ำมันรำข้าว ขาดทุน 143 ล.

ผ่าขุมทรัพย์ “ลิ้มเจริญรัตน์” ก่อนกรณีดราม่า “พิธา” ปมให้สัมภาษณ์กลับไทยหลังรัฐประหาร 49 มางานศพ “บิดา” พบ บ.น้ำมันรำข้าว ที่เคยสร้างชื่อ ยังแจ้งงบการเงินแค่ปี 62 โกย 106 ล้าน แต่ขาดทุน 143 ล้าน

ประเด็นการให้สัมภาษณ์เรื่องกลับมางานศพบิดาภายหลังการรัฐประหารปี 2549 ของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังเป็นอีกหนึ่งเงื่อนปมที่ถูกสาธารณชนนำไปวิพากษ์วิจารณ์ และสร้างกระแสดราม่าอย่างหนักในทางการเมือง

มี “นักร้อง” หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า การให้สัมภาษณ์ของ “พิธา” เกี่ยวกับประเด็นนี้ในหลายรายการ อาจมีความคลาดเคลื่อนไม่ตรงกัน ทั้งบทสัมภาษณ์ในนิตยสารชื่อดังเมื่อปี 2551 หรือบทสัมภาษณ์ผ่านรายการของ “หนูแหม่ม สุริวิภา” รวมถึงบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” เป็นต้น

อย่างไรก็ดี “พิธา” กางหลักฐานเป็นภาพถ่าย และข่าวจากสื่อต่างประเทศมายืนยันว่า กลับมาถึงไทย 21 ก.ย. 2549 ซึ่งไม่ทันงานศพ “บิดา” 3 วันแรกคือระหว่าง 18-20 ก.ย. แต่มาทัน 4 วันหลังคือ 21-24 ก.ย. โดยขอให้ประชาชนอย่าสนใจกลเกมการเมืองสกปรก ขอให้โฟกัสเรื่องนโยบายของพรรคก้าวไกลจะดีกว่า

อย่างไรก็ดีล่าสุดมีบรรดา “นักร้อง” หลายคนยื่นเรื่องต่อ กกต.ขอให้สอบสวนกรณีการให้สัมภาษณ์ของนายพิธาดังกล่าวแล้ว โดยเรื่องราวเหล่านี้คงต้องปล่อยให้เป็นกลยุทธ์การเมืองแต่ละฝ่ายออกมาตอบโต้-ชี้แจงข้อเท็จจริงกันต่อไป

ในมุม “ธุรกิจ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 1 แห่ง คือ

  • บริษัท เกร็ทโอเชียนฟู้ด จำกัด

ทำธุรกิจ อาหารแช่แข็งประเภทเนื้อสัตว์ โดยบริษัทแห่งนี้จดทะเบียนเมื่อ 10 ส.ค. 2548 และเลิกกิจการเมื่อ 17 ธ.ค. 2553 แจ้งเสร็จชำระบัญชี 4 ส.ค. 2554

  • บริษัท “น้ำมันรำข้าว

“พิธา” เคยเข้าไปบริหารระหว่างปี 2549-2560 พลิกฟื้นจากบริษัทที่ขาดทุน สู่บริษัทที่สร้างกำไรมหาศาล กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำมันรำข้าวรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ และอันดับ 5 ของโลกนั้น ปัจจุบันไม่มีชื่อของ “พิธา” เป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นแล้ว แต่มีบริษัทครอบครัวเข้าไปร่วมถือหุ้นแทน

  • บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด

หรือชื่อเดิมบริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 10 ต.ค. 2548 ทุนปัจจุบัน 98,039,200 บาท แจ้งประกอบธุรกิจโรงสกัดน้ำมันรำข้าว ปรากฏชื่อ 1. นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ (น้องชายนายพิธา) 2. นายอาร์นี่ โอตะวะ ซาริมา 3. นายประสพโชค สุขสมบูรณ์ เป็นกรรมการ

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 26 มิ.ย. 2564 บริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด (สัญชาติสิงคโปร์” ถือหุ้นใหญ่สุด 49% บริษัท พรพนา พาณิช จำกัด (ธุรกิจครอบครัวนายพิธา) ถือรองลงมา 37.23% นายวนป ลิ้มเจริญรัตน์ ถือ 6.885% นายตุนท์ ลิ้มเจริญรัตน์ ถือ 6.885%

แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2562 มีสินทรัพย์รวม 189,862,430 บาท มีหนี้สินรวม 564,793,791 บาท มีรายได้รวม 106,064,719 บาท รายจ่ายรวม 199,024,631 บาท ขาดทุนสุทธิ 143,403,259 บาท

  • บริษัท พรพนา พาณิช จำกัด

จดทะเบียนเมื่อ 16 ธ.ค. 2548 ทุนปัจจุบัน 30 ล้านบาท ประกอบธุรกิจกิจการประกอบธุรกิจเข้าเป็นหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจำกัด มีนายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ (น้องชายนายพิธา) เป็นกรรมการรายเดียว 

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2565 นายบรรลือ ลิ้มเจริญรัตน์ ถือหุ้นใหญ่สุด 47.3333% นายภาษิณ ถือ 34% และนางลิลฎา ลิ้มเจริญรัตน์ (มารดานายพิธา และนายภาษิณ) ถือ 18.6667%

นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2564 มีรายได้รวม 99.09 บาท รายจ่ายรวม 8,956 บาท ขาดทุนสุทธิ 8,857 บาท

 

สำหรับนายภาษิณ และนางลิลฎา ลิ้มเจริญรัตน์ น้องชายและมารดาของนายพิธา เป็นกรรมการร่วมกันอย่างน้อย 1 บริษัท คือ

  • บริษัท พีเอสอาร์ พรอสเพอริที จำกัด

ทุนจดทะเบียน 5.5 ล้านบาท จำหน่ายอาหารทะเลสด อาหารทะเลแช่แข็ง และวัตถุดิบเกี่ยวกับอาหารทะเล และให้บริการขนส่งสินค้า นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2564 มีรายได้รวม 17,803,545 บาท กำไรสุทธิ 152,880 บาท

ขณะที่นายภาษิณ เป็นกรรมการบริษัทอีกอย่างน้อย 2 แห่ง ได้แก่

  1. บริษัท พีเอชแอนด์ที โอเชี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

ทุนจดทะเบียน 5 แสนบาท ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารทะเล อาหารทะเลแช่แข็ง และวัตถุดิบเกี่ยวกับอาหารทะเลทุกชนิดนำเข้าและส่งออกซึ่งสินค้าดังกล่าว

  1. บริษัท แนชเชอรัล แลบบอราทอรี จำกัด

ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ทำธุรกิจประกอบกิจการค้าขายอาหารเสริม และวิตามินบำรุงร่างกายทุกชนิด

ทั้งหมดคือข้อมูลทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ “พิธา-ครอบครัว” เท่าที่สืบค้นได้ในขณะนี้ 

ส่วนประเด็นการต่อสู้ข้อวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองนั้น คงต้องรอดูท่าทีจากฝ่ายนายพิธาต่อไป