“สนธิรัตน์”ปราศรัยเมืองคอน ขอโอกาสเลือกพลังประชารัฐยกจังหวัด
“สนธิรัตน์” ลุยปราศรัยเมืองคอนต่อ ขอโอกาสเลือกพลังประชารัฐยกจังหวัด ย้ำ “บิ๊กป้อม” มีบารมี มีประสบการณ์เหมาะสมนั่งนายกฯ ที่สุด
วันที่ 29 เม.ย. 2566 ที่ลานหน้าเมือง จ.นครศรีธรรมราช นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ ร่วมเวทีปราศรัยใหญ่ และเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ จ.นครศรีธรรมราช ทั้ง 10 เขต โดยนายสนธิรัตน์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตนเคยมาปราศรัยที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เมื่อปี 2562 ซึ่งเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพี่น้องให้ความไว้วางใจพรรคพลังประชารัฐ จนเราได้ ส.ส.มา 3 เขต แต่ปีนี้กลับมาใหม่ตั้งใจมาขอ 10 เขต คะแนนของพี่น้องจะไม่ตกน้ำแม้แต่คะแนนเดียว การเลือกตั้งครั้งนี้พี่น้องต้องตัดสินใจให้ดี เพราะหลังเลือกตั้ง การจัดตั้งรัฐบาลจะไม่ง่ายอย่างที่คิด หลายคนบอกว่าไม่รู้จะเลือกพรรคอะไรดี เพราะมีหลากหลายพรรค แต่ตนรู้ว่าคนใต้คือคนชี้ชะตาการเมือง และวันนี้เป็นอีกครั้งที่พี่น้องชาวนครศรีธรรมราชจะเป็นผู้ชี้ชะตาอนาคตข้างหน้า
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พี่น้องคนใต้เหนื่อยยากมามากกับการเมือง แต่วันนี้มีพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวที่จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการตัดสินใจของพี่น้องชาวใต้ให้ผ่านพ้นความขัดแย้งนั่นคือพรรคพลังประชารัฐ อย่างไรก็ตาม การเมืองภาคใต้สู้กันอยู่ไม่เกิน 4 พรรค พรรคแรกคือสู้กับเจ้าถิ่น พรรคเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้โอกาสตั้งรัฐบาลของเขาน้อยมาก พรรคที่สองเป็นพรรคที่พยายามกวาดคะแนนพื้นที่ภาคใต้ อย่างพรรคภูมิใจไทย แต่พรรคนี้เป็นรัฐบาลยากมาก พรรคที่สามเป็นพรรคที่แยกออกไปจากพรรคพลังประชารัฐ คือพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคนี้จะเป็นรัฐบาลยากสุด และสี่พรรคที่พี่น้องคนใต้ต้องตัดสินใจ เป็นพรรคที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นพรรคที่สามารถเป็นตัวแปรรวมทุกฝ่ายได้ คือพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37
“ผมจะบอกกับพี่น้องตรงนี้ว่า พี่น้องกำลังชี้ชะตาอนาคตประเทศไทย ดังนั้นพี่น้องต้องเลือก ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 10 เขต โดยขอให้ดูว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคที่ชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ท่านเป็นคนเดียวที่เหมาะสมจะเป็นนายกฯ เพราะเป็นคนเดียวที่มีบารมีการเมืองมากที่สุด เป็นคนเดียวที่เชื่อมโยงคนทุกฝ่ายได้ เป็นคนเดียวที่มีประสบการณ์ทางการเมืองยาวนานที่สุด ดังนั้น ขอฝากเลือกพล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ เลือกพรรคพลังประชารัฐ เป็นรัฐบาล“ นายสนธิรัตน์ กล่าว