ฉากรบ“เศรษฐา-อนุทิน” เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ทางใครทางมัน

ฉากรบ“เศรษฐา-อนุทิน” เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ทางใครทางมัน

ศึก 2 น. “พี่นิด-น้องหนู” สะท้อนนัยถึงการจับมือ-จับขั้ว สมการรัฐบาลใหม่ ที่พรรคอันดับหนึ่งได้มีสิทธิเลือกพรรคร่วมฯ ระหว่าง ก้าวไกลและภูมิใจไทย พรรคไหนจะเป็นอะไหล่การเมืองชิ้นสำคัญ และปลอดภัยต่อเสถียรภาพรัฐบาลมากกว่ากัน  

พื้นที่ภาคอีสานเที่ยวนี้ แข่งชิงเก้าอี้ ส.ส.กันเพียง 2 พรรค เบอร์หนึ่งพรรคเพื่อไทย เบอร์สองพรรคภูมิใจไทย แม้บางพื้นที่จะมีพรรคก้าวไกล เข้ามาแทรกบ้างก็ตาม แต่คู่แข่งที่ต้องเฉือดเฉือนกันในสนามใหญ่นี้ โฟกัสการเมืองส่องไปที่ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย”

แถมปฏิบัติการต้อน “ส.ส.งูเห่า” เข้ารังของ “ครูใหญ่” เนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย สุมไฟแค้นซุกในอก “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แบบให้อภัยไม่ได้

ไม่แปลกที่ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย จะเปิดฉากรบด้วยการปราศรัย จ.นครพนม เสี้ยมตรงไปที่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่าหากชาวนครพนมแบ่งใจเลือก “ภูมิใจไทย” จะได้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ นั่งเก้าอี้นายกฯอีกสมัย

ตอกหมุดด้วยปม “กัญชา” ที่เปรียบเหมือนแผลติดตัว “อนุทิน-ภูมิใจไทย” ที่เจอแรงต้านในหลายพื้นที่ โดย “เศรษฐา” ถล่มดอกสองหากแบ่งใจให้ “ภูมิใจไทย” จะได้นโยบายกัญชากลับมา

เมื่อคู่แข่งในพื้นที่อีสาน ส่งสัญญาณแรงๆ หวังชิงแต้มการเมือง “อนุทิน” จำเป็นต้องออกมาซัดกลับทันที ด้วยการโพสต์ตอบโต้ พร้อมเกทับ “เศรษฐา” ไร้ประสบการณ์ทางการเมือง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ “อนุทิน” พยายามทอดไมตรีให้ “ทักษิณ” ลืมเรื่องเก่า เปิดช่องจับมือตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง

ทว่า นาทีนี้วาทกรรม “มันจบแล้วครับนาย” ของ “เนวิน” กลับมาดังก้องอีกครั้ง หากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ “ทักษิณ” คิดฝันจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว หรือรวมเสียงจากพรรคที่มี ส.ส. ไม่เกิน 20 เสียงเท่านั้น

แต่หากพรรคเพื่อไทยมี ส.ส. ไม่ถึง 250 เสียง โจทย์ทางการเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปทันที เนื่องจาก “นายใหญ่-เพื่อไทย” จำเป็นต้องเปิดประตูรับพรรคการเมืองขนาดกลาง - ขนาดเล็ก เข้าร่วมรัฐบาล

ว่ากันว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ด้วยแผลเก่าที่ยังฝังลึกในใจ “นายใหญ่” แผลใหม่ที่กรีดลึกในใจ “เศรษฐา” ทำให้พรรคภูมิใจไทยอยู่ในตัวเลือกสุดท้ายของ “นายใหญ่-เพื่อไทย”

ที่สำคัญเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองอื่นของ “ภูมิใจไทย-ครูใหญ่” คือการต่อรองขอเก้าอี้กระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อต่อยอดงานเดิมที่ “อนุทิน” และ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” เคยทำเอาไว้ แต่ทั้ง “คมนาคม-สาธารณสุข” เป็นกระทรวงเกรดเอที่ “นักการเมือง” ใฝ่ฝันอยากครอบครอง รวมถึงเป็นกระทรวงยุทธศาสตร์ที่สามารถนำไปต่อยอดงานด้านการเมือง จึงยากที่ “นายใหญ่-เพื่อไทย” จะยอมยกให้ “ภูมิใจไทย-ครูใหญ่”

ฉะนั้น เมื่อเกิดศึกรบกันระหว่าง “พี่นิด-น้องหนู” ยิ่งส่งผลให้การเจรจาต่อรองระหว่าง “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” มีโอกาสเป็นไปได้น้อยลง

ขณะเดียวกัน เริ่มมีกระแสข่าววงลับว่า มีโอกาสที่ “นายใหญ่-เพื่อไทย” จะเปิดประตูพรรคเพื่อไทย เพื่อดีลกับพรรคก้าวไกล จากสายสัมพันธ์ของสองอา-หลาน “ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์” กับ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล

เนื่องจากท่าทีของ “พิธา-ก้าวไกล” ที่เคยมีนโยบายยกเลิกมาตรา 112 ได้ลดเพดานมาเหลือแก้ไขมาตรา 112 เพื่อลดความรุนแรงของโทษลง รวมถึงท่าทีเกี่ยวกับสถาบันฯ มีทิศทางอ่อนลง ไม่เข้มข้นเหมือนยุคอดีตพรรคอนาคตใหม่ที่มี “เสี่ยเอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นั่งหัวหน้าพรรค

ทำให้โอกาสที่ “นายใหญ่-เพื่อไทย” จะจับมือกับ “ก้าวไกล” มีความเป็นไปได้สูงมากขึ้น แต่ก่อนจะไปถึงขั้นตอนนั้น ท่ามกลางสนามรบเพื่อช่วงชิงจำนวนส.ส.ให้ได้มากที่สุด ทั้ง “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ต้องวัดกันให้สิ้นสงสัย ในการชิงอันดับขั้วประชาธิปไตย เพื่อให้มากาบัตรฝั่งตัวเอง เพราะเป็นคนละบทที่ต้องเล่น

และอาจไม่ใช่เรื่องแปลก หากหลังฉาก จะมีการรบไปเจรจาไป แล้วค่อยเปิดฉากต่อรองหลังตัวเลขทางการออกมา 

ขณะเดียวกัน หากพรรคเพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์ “ขั้วรัฐบาล” เดิม ก็ชัดเจนแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ก็เตรียมรวบรวมพรรคขั้วรัฐบาลเดิมชิงตั้งรัฐบาลสูตรเดิมทันที ก่อนที่จะไล่ต้อน “ส.ส.งูเห่า” เข้ารัง 

ฉะนั้นทางเลือกของ “เพื่อไทย” จึงมีไม่มาก และอาจต้องกลายเป็นไฟต์บังคับต้องจับขั้วกับ “ก้าวไกล” ในขั้วเดียวกันไปโดยปริยาย

โดยเฉพาะเริ่มมีกระแสเขย่าขวัญเพื่อไทยออกมาแล้วว่า หากโดดเดี่ยวก้าวไกล รัฐบาลเพื่อไทยก็อาจต้องเจอฝ่ายค้านที่น่ากลัวในสภาฯ เพราะวันนี้ก้าวไกลพัฒนามาไกล ทั้งตัวบุคคลคุณภาพ อีกทั้งรอบนี้ยังเติมคนรุ่นใหม่เข้ามาอีกไม่น้อย 

ศึก 2 น. “พี่นิด-น้องหนู” จึงเป็นปรากฎการณ์หนึ่ง ที่สะท้อนนัยถึงการจับมือ-จับขั้ว หลังเสร็จศึกเลือกตั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

ต้องลุ้นว่า สมการรัฐบาลใหม่ ที่พรรคอันดับหนึ่งได้มีสิทธิเลือกพรรคร่วมฯ ระหว่าง ก้าวไกลและภูมิใจไทย พรรคไหนจะเป็นอะไหล่การเมืองชิ้นสำคัญ และปลอดภัยต่อเสถียรภาพรัฐบาลมากกว่ากัน