‘ฐิติภัสร์’ขอโอกาสชาวบางกะปินั่งส.ส.อีก4ปีลั่นพร้อมลุยงานต่อ
‘ฐิติภัสร์’ขอโอกาสชาวบางกะปินั่งส.ส.อีก4ปีลั่นพร้อมลุยงานต่อ เร่งแก้ปัญหาการสร้างสะพานข้ามแยกซอยรามคำแหง 24 เดินหน้าแก้ปมถนนทรุด
น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง พรรครวมไทยสร้างชาติ เบอร์11 กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมาตนขอบคุณความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้ตนไปทำหน้าที่ ส.ส. และไม่กี่วันข้างหน้านี้ขอให้ประชาชนพิจารณาผลงานของตนแล้วมอบโอกาสนี้อีกครั้งให้ตนทำงานต่อใน 4 ปีข้างหน้า รวมทั้งขอให้พิจารณาพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย
“โดย 4 ปีที่ผ่านมา ดิฉันประสานงานกับฝ่ายต่างๆในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาและวางแนวทางพัฒนาหลายอย่างจนคืบหน้า ขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือร่วมใจทำให้เขตบางกะปิ-วังทองหลางดีขึ้น อย่าลืมว่าเขตนี้ปัญหาจราจรคือสิ่งหนึ่งที่ต้องเร่งร่วมมือแก้ไขจากทุกฝ่าย”
ทั้งนี้ช่วงที่ตนทำหน้าที่กมธ.การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน สภาผู้แทนราษฎรนั้น กทม.มีโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแยกในพื้นที่ซอยรามคำแหง 24 (โครงการก่อสร้างสะพานยกระดับตั้งแต่แยกกรุงเทพกรีฑา-แยกถาวรธวัช งบประมาณกว่าหนึ่งพันล้านบาท) แต่ประชาชนสะท้อนว่า หากกทม.สร้างสะพานข้ามแยกประชาชนในพื้นที่อาจใช้ประโยชน์ไม่ได้เท่าที่ควร
น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวต่อว่า ตนได้ประสานกับประชาชนในพื้นที่,กทม. มหาวิทยาลัยรามคำแหและการกีฬาแห่งประเทศไทยหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน จนได้ข้อสรุปว่า กทม.ยกเลิกก่อสร้างสะพานข้ามแยก แล้วเปลี่ยนเป็นขยายถนนในซอยรามคำแหง 24 เป็น 6 ช่องจราจรไปจนถึงแยกหัวหมากแทน โดยถนนหัวหมากนั้นจะปรับปรุงไปพร้อมๆกัน เพราะมีปัญหาถนนทรุดตัว โดยมหาวิทยาลัยรามคำแหงและการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ยกที่ดินบางส่วนให้กทม.ขยายถนนในพื้นที่
โดยตอนนี้มีการย้ายระบบสาธารณูปโภคแล้วและมีการขยายท่อระบายน้ำไปในคราวเดียวกันเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมไปพร้อมๆกัน โดยใช้งบประมาณราวเจ็ดร้อยล้านบาท ซึ่งลดลงไปหลายร้อยล้านบาท และมีประสิทธิผลกับชาวกทม.ในพื้นที่มากกว่า ตรงนี้ขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมคิดและจับมือทำงานไปด้วยกัน
“ขอฝากว่าการเลือกใช้คนที่มีประสบการณ์มาทำหน้าที่แทน คนที่มีประสบการณ์น่าจะเหมาะสมกว่าคนหน้าใหม่ เพราะกว่าที่คนหน้าใหม่จะเรียนรู้ระบบและปัญหาต่างๆต้องใช้เวลาพอสมควร อยากให้ชาวบางกะปิ-วังทองหลาง เชื่อมั่นในผลงานที่ดำเนินการ และไว้วางใจให้กลับไปทำหน้าที่ ส.ส. อีก ยืนยันว่าจะเร่งสานภารกิจที่ยังต้องดำเนินการต่อ รวมทั้งวางนโยบายใหม่ๆให้เกิดขึ้นในเขตนี้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน”