ร้อง กกต.สอบ “พิธา” ถือหุ้นสื่อ ITV ส่อขาดคุณสมบัติลงสมัคร ส.ส.
“เรืองไกร” จ่อร้อง กกต.สอบ “พิธา” พบถือหุ้น ITV ทำธุรกิจสื่อ 4.2 หมื่นหุ้น ส่อขาดคุณสมบัติลงสมัคร ส.ส. ชี้หากเข้าข่ายจริงอาจมีผลย้อนหลัง ห้ามลงสมัคร ส.ส.ปี 62 ด้วย
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2566 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กล่าวว่า ได้ตรวจสอบพบข้อมูลที่น่าเชื่อว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) (หุ้นไอทีวี) จำนวน 42,000 หุ้น จึงต้องการให้ กกต.ตรวจสอบ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) บัญญัติห้ามมิให้บุคคลที่เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส และเมื่อตรวจสอบปรากฏข้อเท็จจริงตามข้อมูลเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 66 ที่ทำให้เข้าใจว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ในลำดับที่ 6,121 เลขทะเบียนผู้ถือหลักทรัพย์ 4030954168 ที่อยู่ 98/26 อาคารซิลเวอร์เฮอริเทจ ซ.สุขุมวิท 38 ถ.สุขุมวิท พระโขนง คลองเตย 10110 สัญชาติ ไทย จำนวน 42,000 หุ้น
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า เมื่อตรวจสอบจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบข้อมูลของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) พบว่า เป็นนิติบุคคลที่ยังดำเนินกิจการอยู่ ธุรกิจตอนจดทะเบียน ระบุการออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียงยกเว้นทางออนไลน์ วัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียน ระบุสถานีโทรทัศน์ หมวดธุรกิจ ก็ระบุว่า กิจกรรมเผยแพร่ภาพยนตร์วีดิทัศน์และรายการโทรทัศน์ โดยปีที่ส่งงบการเงิน คือ ปี 2560 ต่อเนื่องถึงปี 2564 และเมื่อขอข้อมูลบัญชีรายขื่อผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ณ วันที่ 27 เม.ย. 65 นายพิธา เป็นผู้ถือหุ้นในลำดับที่ 7,138 จำนวน 42,000 หุ้น เลขที่ใบหุ้น 06680180285422 มูลค่าหุ้นละ 5 บาท
นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า อีกทั้งเมื่อตรวจสอบข้อมูลบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จากเว็บไซต์ พบว่า บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการรับจ้างโฆษณา ประชาสัมพันธ์ทุกชนิดทุกประเภท มีรายได้ปี 2565 รวม 21 ล้านบาท และมีรายได้ปี 2564 รวม 24 ล้านบาท โดยบริษัทมีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) เมื่อวันพุธที่ 26 เม.ย. 66 จากข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงมีเหตุอันควรที่ กกต. จะต้องตรวจสอบนายพิธา ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อและผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ว่า เข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) หรือไม่
“ขอให้ กกต. รีบตรวจสอบยืนยันข้อมูลจากบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) โดยด่วน ว่า นายพิธา ถือหุ้นจำนวนดังกล่าวมาตั้งแต่เมื่อใด หากถือมาก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 62 จะเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามมาก่อนหรือไม่ การเป็น ส.ส. ที่ผ่านมา จะชอบหรือไม่ และเมื่อย้อนไปตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 62 นายพิธา แจ้งเงินลงทุนไว้ 45 รายการ แต่ไม่พบลงทุนในหุ้นบริษัท ไอทีวี แต่อย่างใด ซึ่งที่อยู่ที่ นายพิธา แจ้งไว้ต่อ ป.ป.ช. ก็สอดคล้องกับที่อยู่ตามบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นดังกล่าว ดังนั้น ในวันที่ 10 พ.ค. เวลาประมาณ 10.00 น. ผมจึงจะไปยื่นหนังสือที่ กกต. ด้วยตนเอง” นายเรืองไกร กล่าว