ทีมศก.ปชป. ประกาศ6แนวทางแก้หนี้ "ทำได้ใน 90 วัน "
ทีมเศรษฐกิจพรรค “ประชาธิปัตย์” ประกาศ6แนวทาง มาตรการแก้หนี้ -ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ 90 วัน ทำได้จริง "พิสิฐ" เชื่อลดหนี้ครัวเรือนจาก 87% เหลือน้อยกว่า 80% ของ GDP หรือลด 1 ล้านล้านบาท
ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าว วาระประเทศไทย ครั้งที่ 6 “มาตรการแก้หนี้ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ 90 วัน ทำได้จริง" โดยดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานคณะกรรมการนโยบายและทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์, นายเกียรติ สิทธีอมร ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์, ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ ณ ห้องประชุม ชั้น 3 อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช พรรคประชาธิปัตย์
ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานคณะกรรมการนโยบายและทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปัจจุบันหนี้เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อพี่น้องประชาชนทุกสาขา อาชีพ โดยเฉพาะข้าราชการ
ซึ่งจากข้อมูลพบว่าข้าราชกาครูมากกว่า 5 หมื่นราย กำลังถูกฟ้องร้องและเดือดร้อนจากปัญหาหนี้ที่ไม่สามารถชำระได้ ซึ่งเมื่อครูได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้ย่อมส่งผลต่อคุณภาพการสอนแน่นอน ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน
โดยพรรคประชาธิปัตย์ขอเสนอ 6 แนวทาง แก้หนี้ครัวเรือน ทำได้ใน 90 วัน คือ
แนวทางที่ 1.กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบาย 1 ล้านล้านบาท เพื่อขยายโอกาสในการมีงานทำและมีรายได้ของครัวเรือน ปรับนโยบายดอกเบี้ย และแก้ไขปัญหาการขาดแคลนสินค้า แต่รัฐยังไม่ได้ปรับปรุงเรื่องราคาพลังงานอย่างเพียงพอ
แนวทางที่ 2.ตั้งหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อจัดระเบียบไม่ให้ประชาชนถูกชักจูงให้ก่อหนี้ง่ายเกินไป รวมทั้งเงื่อนไขต่างๆที่ถูกเอาเปรียบ เช่น ภาระดอกเบี้ยจากการคิดดอกเบี้ยทบต้น รวมไปถึงให้มีมาตรการให้ความรู้การเงิน แนวทางที่
3.แก้ความไม่เป็นธรรมในระบบหนี้ครัวเรือน โดยจะกำหนดมาตรการดูแลการคิดดอกเบี้ย ให้สอดคล้องกับความเสี่ยง ให้เป็นสวัสดิการอย่างแท้จริง ควรเหลือ 4% ปรับปรุงระเบียบการคลังว่าด้วยการหักเงินเดือนเพื่อชำระหนี้สวัสดิการให้มีความเหมาะสม
แนวทางที่ 4.ให้สามารถนำเงินออมออกไปใช้ได้ โดยไม่ต้องรอเกษียณหรือลาออก โดยจะปลดล็อคกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และสหกรณ์ออมทรัพย์ เพื่อนำมาใช้จ่ายซื้อบ้าน หรือลดภาระหนี้บ้าน
แนวทางที่ 5.เร่งกฎหมายไม่เป็นธรรม 2 ฉบับที่ค้างในสภาผู้แทนราษฎร คือ พรบ.ล้มละลาย ซึ่งจะเปิดทางให้ประชาชนสามารถขอฟื้นฟูหนี้ได้เช่นเดียวกับที่ธุรกิจใหญ่อย่างการบินไทยขอฟื้นฟูหนี้ธุรกิจ สามารถปรับโครงสร้างหนี้ โดยพักหนี้ หรือ haircut รวมทั้งปรับลดภาระหนี้ได้ รวมถึง พรบ.เช็ค ซึ่งจะยกเลิกโทษอาญาที่ต้องจำคุกกรณีเช็คเด้งให้มีเฉพาะคดีทางแพ่ง
และแนวทางที่ 6.แก้ไขพรบ.เช่าซื้อ ซึ่งทำให้ลูกหนี้เสียเปรียบ โดยจะปรับปรุงกฎหมายแพ่งพาณิชย์ มาตรา 572-574 ให้สอดคล้องกับ พรบ.รถยนต์ 2551 และพรบ. หลักประกันทางธุรกิจ 2558 ที่ลูกหนี้เป็นเจ้าของ สามารถใช้เป็นหลักประกันได้
ทั้งนี้เชื่อมั่นว่ามาตรการแก้หนี้ครัวเรือนใน 90 วันทั้ง 6 แนวทางดังกล่าว จะสามารถลดหนี้ครัวเรือนจาก 87% เหลือน้อยกว่า 80% ของ GDP หรือลด 1 ล้านล้านบาท โดยไม่สร้างหนี้สาธารณะแก้หนี้สิน
โดยหากมีการกำหนดเพดานดอกเบี้ยจากมากกว่า ลงเหลือไม่เกิน 12% ต่อปี และเหลือเพดาน 4% จะช่วยผู้ถือบัตรเครดิตจำนวน 6 ล้านราย ลดภาระดอกเบี้ยจ่าย 30,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนผู้มีเงินเดือน หากปลดล็อคเงินใน กบข. และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและสหกรณ์ออมทรัพย์ ให้สามารถนำเงินของตนมาลดหนี้บ้านหรือและหักกลบลบหนี้กว่า 5 ล้านครัวเรือน จะลดหนี้ไป 900,000 ล้านบาท และจะช่วยเกษตรกรสูงอายุ (ที่อายุเกิน 65 ปี) จำนวน 300,000 ราย ปลดหนี้ 70,000 ล้านบาท
ด้านนายเกียรติ กล่าวว่า นอกจากปัญหาหนี้ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญในชีวิตของประชาชนส่วนใหญ่ เป็นเรื่องทุกข์ยากของประชาชน
โดยเฉพาะกลุ่มฐานรากแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่สำคัญคือเรื่องภาระค่าไฟ น้ำมัน และก๊าซหุงต้ม โดยหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลจะดำเนินการลดรายจ่ายให้กับประชาชนใน 90 วัน ดังนี้ 1.ลดค่าไฟ 1.00-1.50 บาทต่อหน่วย โดยจะยกเลิกค่า FT ทั้งหมด ไม่ต้องแบกภาระที่ยังไม่เกิดขึ้น ปรับราคาก๊าซป้อนโรงไฟฟ้าและค่าผ่านท่อให้เป็นธรรม กำหนดสัดส่วนการผลิตระหว่างรัฐกับเอกชน แก้ปัญหากำลังการผลิตสำรองเกิน และทบทวนราคาสัญญารับซื้อไฟฟ้า (PPA) และการนาเข้าจากต่างประเทศต้องประบปรุงแก้ไข
ส่วนเรื่องน้ำมันจะลดได้ 2.00-3.00 บาทต่อลิตร โดยจะกำกับค่าการกลั่น ค่าการตลาดให้เป็นธรรม ทบทวนโครงสร้างราคาและภาษีให้สะท้อนต้นทุนจริง ทบทวนเงินเข้ากองทุน และทบทวนการกำหนดราคา Bio Diesel และ Gasohol ซึ่งทั้งหมดสามารถดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องแก้กฎหมายอะไรเลย
และเรื่องก๊าซหุงต้ม จะสามารถลดได้ 80-100 บาทต่อถัง (15 กก.) โดยจะดำเนินการตรวจสอบปริมาณการผลิตนำเข้าและใช้ในประเทศจริง ตรวจสอบต้นทุนและปริมาณที่ผลิตในประเทศ ทบทวนสูตรคำนวณราคาทุกกลุ่มผู้ใช้ แก้ปัญหาการลักลอบไปต่างประเทศ และยกเลิกสิทธิพิเศษกับทุกกลุ่มอุตสาหกรรม
ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า 3 มาตรการ ที่พรรคประชาธิปัตย์ทำได้ทันทีเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน คือ 1.ลดค่าใช้จ่าย 2. ลดภาระหนี้สินประชาชน และ 3.เพิ่มรายได้ โดยในส่วนของการเพิ่มรายได้ ภายใน 90 วัน เราสามารถหารายได้เพิ่มจากการค้าชายแดนและการรับนักท่องเที่ยวเข้ามา ซึ่งจากการลงพื้นที่ที่มีการค้าขายทั้งเข้า-ออกสามารถทำได้ดีขึ้น
ซึ่งถ้ามีการเชื่อมต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยเฉพาะกับประเทศเพื่อบ้าน เช่น ประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย จะทำให้การค้าชายแดนภาคใต้เติบโตขึ้นอีกหลายเท่าตัว
ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวนั้นต้องรีบเจรจา หารือกับกลุ่มบริษัททัวร์เอเจนซี่ โดยเฉพาะเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อ มีจำนวนมาก และมาพักเป็นเวลานาน ให้กลุ่มบริษัททัวร์เอเจนซี่มีความพร้อมรองรับการท่องเที่ยวในช่องไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึง ซึ่งจะทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วถึงไปสู่ฐานราก
รวมทั้งพ่อค้า แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย จะต้องจัดให้กลุ่มนี้มีพื้นที่ในการค้าขาย ยกระดับคุณภาพให้เป็นที่ถูกใจนักท่องเที่ยวที่เข้ามา รวมไปถึงการปรับแก้เรื่องการเข้าเมือง เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจไทยอย่างมหาศาล สร้างงาน สร้างเงินในกระเป๋าให้กับประชาชน
ด้านนายเกียรติ กล่าวเสริมว่า เรื่องการค้าชายแดน หากพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นรัฐบาล ภายใน 90 วันแรกที่จะดำเนินการ คือ การลดอุปสรรคในการค้าขาย เร่งเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน สนับสนุนการค้าชายแดน ให้เกิดความสะดวก
ส่วนระยะกลาง 2 ปีแรกต้องมีเครื่องมือใหม่ คือ การตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษค้าชายแดน ซึ่งร่างกฎหมายเรามีอยู่แล้ว สอดคล้องกับกฎกติกาการค้าโลก โดยจะให้สิทธิพิเศษ ประโยชน์ มาตราการจูงใจทางภาษี ส่วนเรื่องนักท่องเที่ยวพรรคประชาธิปัตย์ตั้งเป้าภายใน 4 ปี จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเป็น 50 ล้านคน โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หรือ BCG Tourism จัดเป็นเขตเศรษฐกิจท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทำให้เกิดความยั่งยืนมากขึ้นในการพัฒนาเศรษฐกิจ
ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์อยากฝากถึงพี่น้องประชาชน ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ อยากให้ดูนโยบายซึ่งเป็นตัวสะท้อนความคิดนักกการเมือง สะท้อนชีวิตของเราที่ไปเลือกตั้งว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร โดยนโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์แตกต่างกับพรรคอื่น เราไม่สร้างภาระหนี้เพิ่ม แต่เรากระตุ้นเศรษฐกิจได้เกิน 5% โดยไม่ต้องกู้ให้เป็นภาระกับประชาชน กับลูกหลานของเราในอนาคต และอีกหลายนโยบายเราแก้ปัญหาโดยตรง ตอบโจทย์ ไม่เหวี่ยงแห ไม่เอาเงินภาษี งบประมาณ ให้คนรวยที่ไม่ต้องช่วย เศรษฐกิจเราจะเติบโตด้วยความยั่งยืน ลดหนี้ ยืนบนขาตัวเองได้อย่างมีศักดิ์ศรี