“เศรษฐา”ขอโอกาสเพื่อไทยทำความเจริญเหมือนไทยรักไทย
“เศรษฐา” ขอโอกาสเพื่อไทยทำความเจริญเหมือนไทยรักไทย วาดฝัน พท.เป็นรบ.เพิ่มเงิน ลดรายจ่าย ลั่นพร้อมแล้วเป็นนายกฯคนที่ 30 ของประเทศ
ที่อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า อีกสองวันจะมีการเลือกตั้ง จะเป็นวันที่ประชาชนจะร่วมกันแสดงพลังพร้อมใจกันก้าวออกจากหลุมดำ ที่ขังเรามานานกว่า 8 ปี ก่อนหน้านี้ประเทศไทยยืนอย่างสง่างามในเวทีโลก แต่ผู้นำคณะรัฐประหารได้สร้างวิกฤต ทำลายศักดิ์ศรีของประเทศไทยในเวทีโลก เราคนไทยทุกคนล้วนเป็นผู้เสียหาย สูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำได้ขยายตัวขึ้นทุกวัน
โดยฝีมือของรัฐบาลที่ประกาศคืน “ความสุข” แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการยึดอำนาจล้วนเป็น “ความทุกข์” ความตั้งใจของตน ไม่มีอะไรซับซ้อน ตนเข้ามาตัวเปล่าโดยปราศจากคำสัญญาใดๆกับนายทุน ผู้มีอำนาจ หรือผู้มีอิทธิพล คำสัญญาหนึ่งเดียวที่ตนมี คือคำสัญญาต่อพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทย มีประวัติศาสตร์ยาวนาน วันนี้ขอโอกาสที่จะทำให้ 4 ปีข้างหน้า เจริญเติบโตรุ่งเรือง เหมือนที่ไทยรักไทย พลังประชาชน ที่ได้ทำไว้ให้กับคนไทยทุกคน
นายเศรษฐา กล่าวว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง แก้ปัญหาตั้งแต่ระดับโครงสร้างในภาพใหญ่ การแก้ปัญหาระยะสั้น จนถึงระยะยาว ประกอบกันจนเป็น Roadmap ของการพัฒนาประเทศ ถ้าเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ประการแรก พี่น้องจะเห็นรัฐบาลที่เข้ามาบริหารอย่างจริงจัง ไม่ใช่บริหารแบบธุรการเหมือนที่ผ่านมาเราจะมียุทธศาสตร์ มีเป้าหมายที่ชัดเจน วางระบบไว้สำหรับคนรุ่นหลังให้เดินต่อไปได้
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ตนจะไม่มาบอกว่า “ถ้าไม่มีผมแล้ว ประเทศจะอยู่อย่างไร” หรือ “ถ้าผมไม่ทำ แล้วใครจะทำ” ถ้าคนไทยทุกคนเอามือล้วงกระเป๋าตัง จะพบว่าตั๋วจำนำหมดไป แต่เราจะแทนที่ด้วยแบงค์ในกระเป๋ามากขึ้น หนี้สินก็น้อยลง รายจ่ายจะลดลง ยาเสพติดลดลงอย่างรวดเร็ว นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก และกระจายไปทั่วประเทศ เราจะคืนอากาศที่สะอาด
นอกจากนี้เราจะลดการเกณฑ์ทหาร จะไม่มีใครโอดครวญเรื่อง ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน และค่าแก๊สอีกต่อไป เราจะจัดการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นภาระประชาชน เช่น ทำตัวเป็นนายประชาชน รีดไถประชาชน เราจะมีรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน เป็นกฏหมายสูงสุดตามระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
“เราจะขอเชิญทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ที่อยู่ในบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่ตนไม่ถนัดให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง และประการสุดท้าย เราจะไม่เห็นความอยุติธรรมจากตำรวจ หรือหน่วยงานรัฐภายใต้อำนาจบริหารอีกต่อไป เราจะไม่เห็นการบังคับใช้กฏหมายอาญา มาตรา 112 เพื่อกลั่นแกล้งทางการเมือง เราจะไม่ให้คนตัวเล็กโดนกลั่นแกล้ง เราจะยกเลิกการตั้งด่านเก็บส่วย ของทั้งตำรวจ กรมการขนส่ง โดยไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป”
“ผมมีความฝัน ที่จะเห็นประชาชนไทย อยู่ดี กินดี ฝันว่าเศรษฐกิจจะเติบโต พร้อมกับความเจริญทางจิตใจ ฝันที่ประชาธิปไตยจะกลับคืนสู่พวกเราทุกคน และฝันว่าพรรคเพื่อไทย จะได้รับใช้ประชาชนอีกครั้งนึง ผม และพรรคเพื่อไทยจะต่อสู้เพื่อไม่ให้พวกเราตื่นขึ้นมาพบประเทศที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง เจอผู้นำที่เป็นคนเดิมไร้หัวใจ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราเป็นสถาบันที่หนักแน่น แต่ถูกกลั่นแกล้งมากที่สุด โดยความอยุติธรรมเรายังยืนหยัดแข็งแกร่ง ทำประโยชน์เพื่อประชาชน ได้รับความศรัทธาจากประชาชน พิสูจน์จากผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา”
“ผมมั่นใจว่าพวกเราก็จะชนะการเลือกตั้งครังนี้อีก ทำให้เราเป็นพรรคเดียวที่มีโอกาส ทำให้ ส.ว. ต้องฟังเสียงประชาชน และเราจะไม่ทรยศต่อคนที่ร่วมอุดมการณ์ เราจะรับฟังทุกเสียงของประชาชน ภาพฝัน ความหวัง และ นโยบายที่ผมได้กล่าวไปในตลอด 75 วันที่ผมลงพื้นที่เป็นไปได้จริง เรามีบทเรียนจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ในวันนั้นพรรคเพื่อไทยเราพลาดไปเพียง 17 ที่นั่ง ไม่เช่นนั้นฝ่ายประชาธิปไตยจะเป็นผู้ชนะ เราจะต้องไม่ปล่อยให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกแบบไร้ยุทธศาสตร์ ขอวิงวอนจากใจ อย่าเลือกเพราะความกลัว แต่ให้เลือกเพราะความชัวร์ ว่าพรรคเพื่อไทยทำได้จริง และผม นายเศรษฐา ทวีสิน ขอเป็นนายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย ทำให้ประชาชนหลุดพ้นจากความมืดมน ขอให้ทุกคน ลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทย ทั้งสองใบ ให้จัดตั้งรัฐบาลได้อย่างมีเสถียรภาพ ให้พวกเราไปรับใช้ประชาชน ไปทำความหวังให้ทุกคนเปลี่ยนประเทศให้ได้จริง ส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้ลูกหลาน”