"ปิยบุตร" เปรียบก้าวไกลไฟลามทุ่ง 14 พ.ค.ลั่นระฆังแห่งความเปลี่ยนแปลง

"ปิยบุตร" เปรียบก้าวไกลไฟลามทุ่ง 14 พ.ค.ลั่นระฆังแห่งความเปลี่ยนแปลง

"ปิยบุตร" เปรียบ "ก้าวไกล" เหมือนไฟลามทุ่ง ปลุกประชาชน 14 พ.ค. ลั่นระฆังแห่งความเปลี่ยนแปลง สร้างความหวังเปลี่ยนประเทศไทย

เมื่อวันที่12 พ.ค. 2566 ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล  กล่าวปราศรัยตอนหนึ่ง ว่า พรรคก้าวไกลตั้งใจว่าครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่สำคัญ ในการจะนำเอากรงขังแห่งอดีตออกไปจากอนาคต และเชื่อมั่นว่ามนุษย์ทุกคนมีศักยภาพในการกำหนดอนาคตใหม่ด้วยตัวเอง การเลือกตั้งวันที่ 14  พ.ค.นี้ เป็นการปะทะระหว่างอดีตกับอนาคต กลุ่มที่กุมอำนาจพยายามให้พวกเราอยู่กับอดีต อันเป็นวันชื่นคืนสุขของพวกเขา แต่พวกเรายืนยันว่าจะเดินหน้าสู่อนาคต ดังนั้นวันที่ 14 พ.ค.จึงเป็นวันชี้ชะตาซึ่งต้องเลือกว่าจะเอาอดีตหรือนาคต  อดีตที่วนเวียนอยู่กับการรัฐประหารครั้งแล้วครั้งเล่า หรืออนาคตที่มาตัดวงจรรัฐประหารออกไปและคนเห็นต่างทางความคิดอยู่ร่วมกันในสังคมได้ อดีตที่มีมุ้งการเมือง เอาคนมารวมกันเพื่อชิงเก้าอี้ ส.ส. เพื่อไปแลกกับตำแหน่งรัฐมนตรี หรืออนาคตที่เราไม่เป็นหนี้บุญคุณใครนอกจากประชาชนเท่านั้น และอนาคตที่คนธรรมดาก็เป็นส.ส.ได้ ไม่จำเป็นต้องเกิดในบ้านหลังใหญ่หรือตระกูลการเมือง 

\"ปิยบุตร\" เปรียบก้าวไกลไฟลามทุ่ง 14 พ.ค.ลั่นระฆังแห่งความเปลี่ยนแปลง

นายปิยบุตร กล่าวว่า นี่คือการเลือกระหว่างอดีตกับอนาคต แน่นอนที่สุดคนที่ครองอำนาจอยู่ รวมทั้งคนที่เคยครองอำนาจและอยากจะกลับมาครองใหม่  ต่างก็จะพาสังคมไทยกลับไปสู่อดีต ถอยหลังไปสู่ทศวรรษที่ 2540 แต่สุดท้ายเข็มนาฬิกานี้จะต้องเดินไปสู่อนาคต ที่พวกเรากำหนดเอง หมดเวลาเอาความทรงจำในอดีตมากักขังอนาคตของประเทศไทย  พรรคก้าวไกลเดินทางไปทั่วประเทศ ทุกเส้นทางของคาราวานก้าวไกลทั่วประเทศไทย แต่ละเส้นทางที่เราผ่าน แต่ละเวทีปราศรัย สายตาของประชาชนที่มองมายังพวกเรามีแต่ความหวังและกำลังใจ

นายปิยบุตร กล่าวว่า นี่คือปรากฏการณ์ก้าวไกลไฟลามทุ่ง เขาจึงเกิดความกลัว ใช้ความกลัวปล่อยข่าวสารอันเป็นเท็จ บิดเบือนนโยบายพรรคก้าวไกล และมาทำลายความฝันของหวังของพี่น้องประชาชนด้วย การที่บอกว่าสิ่งที่พวกเราหวงเราฝันเป็นไปไม่ได้ ความกลัวจะนำไปสู่การทำลายล้างผู้อื่น แต่ความหวังจะกระตุ้นพวกเราออกไปเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีกว่าเดิม ความกลัวจะผลักดันสู่โลกมืด แต่ความหวังจะผลักดันสู่แสงสว่างอนาคตแห่งใหม่ การต่อสู้ครั้งนี้จึงเป็นการต่อสู้ความกลัวกับความหวัง เขากลัวสังคมใหม่ จะทำให้พวกเขาไม่ได้อยู่ในอำนาจ กลัวสังคมใหม่จะทำให้ตั้งรับไม่ทัน ปรับตัวไม่ได้ แต่ความหวังของพวกเราเราเรียกร้องสังคมที่ดีขึ้น ทุกเพศวัยความคิดอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ความหวังพร้อมจะยอมรับกลุ่มคนอนุรักษ์นิยม แต่ความกลัวจะไม่ให้เราเผยแพร่ความคิดแบบก้าวหน้านี้ไป 

\"ปิยบุตร\" เปรียบก้าวไกลไฟลามทุ่ง 14 พ.ค.ลั่นระฆังแห่งความเปลี่ยนแปลง

“เขากลัวว่า ถ้าวันนี้เขาไม่ได้แลนด์สไลด์ เขาจะไม่ได้กลับมามีอำนาจอีก แต่พวกเรามีความหวังว่าจะเปลี่ยนรัฐบาลเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี และเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปด้วยกัน ความกลัวพยายามจะบอกว่าให้เราเปลี่ยนนายกฯ กับรัฐบาลก็พอแล้ว แต่ความหวังกระตุ้นเตือนเราว่าเปลี่ยนนายกฯ กับรัฐบาลไม่พอต้องเปลี่ยนประเทศไทยด้วย” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า ในช่วงเวลานี้เป็นช่วยเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว ปรากฏการณ์ก้าวไกลไฟลามทุ่ง  2 เดือนที่ผ่านมา นับรวมตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง  2475 การต่อสู้ของประชาชนที่ผ่านมาจนมาถึงการต่อสู้ของเยาวชนคนหนุ่มสาวในช่วงปี 63-65 นี่คือสารธารแห่งการต่อสู้ ซึ่งมนุษย์แตกต่างจาก เพราะมนุษย์มีสมองตัวเออยากพัฒนาตัวเองให้สมบุณ์แบบดังนั้นทุกวงเวียนวฏจักาการรต่อสุจะนำสู่ความก้าวหน้าสมัย ตั้งแต่ 2475 จนถึงวันนี้ดอกผลของการเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้นแล้ว เมล็ดพันธ์ุแห่งการเปลี่ยนแปลงถูกหว่านออกไปแล้ว ดังนั้น 14 พ.ค. เป็นโอกาสที่สำคัญที่สุดที่พวกเราจะใช้อำนาจสูงสุดของพวกเรา ในการชี้ชะตาอนาคตสังคมไทย 

"เสียงระฆังแห่งการเปลี่ยนแปลงดังอุโฆษหน้าประตูทุกท่านแล้ว จงรีบหยิบฉวยโอกาสเหล่านี้มาลงมือทำด้วยกัน ถ้าพลาดโอกาสนี้ไปอาจเสียใจไปตลอดชีวิต ทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน มีคุณค่าและความหมายต่อการเลือกตั้งครั้งนี้มาก ไม่ใช่แค่ทำให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้น แต่บัตร ส.ส.เขตสำคัญอย่างยิ่ง เพราะว่าพรรกก้าวไกล พวกเราไม่มีระบบคะแนนจัดตั้งกลไกเครือข่ายอุปถัมภ์ในพื้นที่" นายปิยบุตร กล่าว

\"ปิยบุตร\" เปรียบก้าวไกลไฟลามทุ่ง 14 พ.ค.ลั่นระฆังแห่งความเปลี่ยนแปลง

นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนเชื่อว่าการจะชนะกันในแต่ละเขตจะชนะกันแบบเฉียดฉิว ถ้าแบ่งใจไม่กาก้าวไกล ผู้สมัครแบบเขตอาจจะสอบตกได้ เป็นตัวกำหนดว่าเราจะได้ผู้แทนแบบก้าวไกลหรือไม่ และนอกจากคะแนนที่เอามาให้บัญชีรายชื่อและ ส.ส.เขตแล้วเราเอาคะแนนเสียง ทั่วประเทศ ถ้า เกิน 10-12 ล้าน นั่หมายความคนไทยกลุ่มหนึ่ง 30-40% สนับสนุนก้าวไกล แม้ถูกกระทำ ถูกกระทืบให้ติกดินมาตั้งแต่อนาคตใหม่ เป็นสัญลักษณ์ว่ากลุ่มคนเหล่านี้อยากเปลี่ยนแปลงประเทศไทยแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้ คือตัวแทนของพลังแบบใหม่ที่จะทำให้พลังแบบเก่าล้มระเนระนาดไป 

"ระฆังแห่งการเปลี่ยนแปลงดังอุโฆษหน้าประตูทุกท่านแล้ว หยุดอดีตเดินหน้าสู่อนาคต 14 พ.ค.นี้คำตอบสุดท้ายก้าวไกลทั้งแผ่นดิน" นายปิยบุตร กล่าว