“ไทยสร้างไทย” ปราศรัยใหญ่ หนุนเศรษฐกิจดิจิทัล ลุยแก้หนี้ที่ลุงก่อ
“ไทยสร้างไทย” ปราศรัยใหญ่ ไม่เอาลุง ไม่เอาขัดแย้ง หนุนเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ที่มั่นคงให้ประชาชน
ลุยแก้หนี้ที่ลุงก่อ เพื่อลูกหลานไม่ต้องลำบากต่อไป
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 12 พ.ค.2566 ที่ลาน Parc Paragon ห้างสรรพสินค้าพารากอน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคไทยสร้างไทย ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ "ไม่เอาลุง ไม่เอาความขัดแย้ง ไทยสร้างไทย คือคำตอบ" นำโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดต นายกพรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกพรรคไทยสร้างไทย นายสุพันธุ์ มงคลสุธี แครดิเดตนายก พรรคไทยสร้างไทย และน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
นายฐากร กล่าวว่า ทุกวันนี้โลกดิจิทัลเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เป็นโอกาสสำคัญให้รัฐบาลออกแบบนโยบายดิจิทัล เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยดีขึ้น นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อประชาชนของพรรคไทยสร้างไทย จะสร้างงานสร้างรายได้ที่มั่นคงให้ประชาชน กระตุ้นให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ และทำให้การบริการของภาครัฐ โดยเฉพาะด้านสาธารณสุข ครอบคลุม รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“นโยบายของพรรคครอบคลุมทุกช่วงวัย สำหรับเด็ก เน้นการสร้างทักษะที่จำเป็นต่อเศรษฐกิจยุคใหม่ อย่างเท่าเทียม เพื่อให้มีงานมีรายได้ที่ดี และมั่นคงในอนาคต สำหรับวัยทำงาน เน้นการสร้างระบบเศรษฐกิจที่เอื้อให้ธุรกิจดิจิทัลพัฒนาได้รวดเร็ว โดยสนับสนุนธุรกิจทุกขนาด ทำให้ประชาชนจำนวนมากได้มีโอกาสสร้างรายได้ ผ่านเศรษฐกิจดิจิทัล สำหรับวัยเกษียณ จะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยพัฒนาการบริการภาครัฐ ให้ประชาชนเข้าถึงคำแนะนำทางการแพทย์ได้ทันที และได้รับบริการรักษาพยาบาลที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ด้านนายสุพันธุ์ กล่าวว่า เป้าหมายในการมาทำงานของตนครั้งนี้ คือเข้ามาเพื่อที่จะแก้หนี้ที่ลุงก่อ เพราะตั้งแต่ตนเกิดมาไม่เคย พบเจอว่าประเทศมีหนี้สาธารณะสูงขนาดนี้ และ ก็ไม่เคยพบว่าประชาชนมีหนี้สูงกันทุกทั่วหัวระแหงทุกครัวเรือน ในขณะที่หนี้สาธารณะวันนี้สูงถึง 60 กว่าเปอร์เซนต์ของ GDP หนี้ครัวเรือนก็ยังสูงถึง 90 เปอร์เซนต์ของ GDP โดยปรกติการที่มีหนี้สาธารณะสูง หนี้ครัวเรือนต้องต่ำแต่ ณ ปัจจุบันกลับสูงทั้งคู่ หมายความว่าการที่ลุงไปกู้มานั้น นำเงินมาใช้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ
หนี้ที่เป็นปัญหากับประชาชนตอนนี้คือหนี้เครดิตบูโร ที่เป็นหนี้เสียที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด หรือหนี้รหัส 21 จำเป็นต้องเร่งแก้ไขหนี้เหล่านี้เกิดขึ้นกับนักรบทางเศรษฐกิจ ต้องจ่ายดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในช่วงดังกล่าวให้ ทำหนี้เสียให้เป้นหนี้ดี ให้โอกาสได้ลืมตาอ้าปาก นำทรัพย์ไปรีไฟแนนซ์ได้ อีกตัวคือหนี้นอกระบบ ที่ต้องเร่งจัดการโดยจะปล่อยกู้ 5,000 - 50,000 บาท เพื่อให้ประชาชนสามารถลืมตาอ้าปาก นำเงินไปใช้หนี้นอกระบบได้
“ผมเองไม่เคยต้องการที่จะมาลงการเมือง ไม่เคยอยากยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ตอนนี้หนี้สินต่างๆ ปัญหาต่างๆที่ลุงก่อไว้ ทำให้ตนไม่สามารถอยู่เฉยๆได้ เพราะถ้าหากประเทศไม่ดี ประชาชนมีหนี้สิน ธุรกิจทั้งหมด ระบบเศรษฐกิจทั้งหมดก็จะได้รับผลกระทบ ตนจึงต้องออกมา โดยเฉพาะกับที่บอกว่าทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อนั้นไม่แน่ใจว่ากินแล้ว กินอยู่ กินต่อหรือไม่ ดังนั้นตอนนี้ตนจึงต้องการที่จะมาแก้หนี้ที่ลุงก่อไว้ เพื่อไม่ให้ลูกหลานต้องลำบากอีกต่อไป”นายสุพันธุ์ กล่าว