‘เพื่อไทย’แถลงร่วมรัฐบาล ‘ก้าวไกล’-ไม่คิดจัดตั้งรัฐบาลแข่ง

ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย แถลงจุดยืนการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล โดยนพ.ชลน่าน กล่าวว่า ผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฎแล้วว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคอันดับหนึ่ง พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับสอง พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง

และร่วมสนับสนุนเลือกพรรคเพื่อไทยและฝ่ายประชาธิปไตยอย่างท่วมท้น อันแสดงถึงความต้องการของพี่น้องประชาชนในการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตย ในโอกาสนี้ พรรคเพื่อไทยขอแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคอันดับหนึ่ง 
 

 

 

"โดยกติกาประชาธิปไตย และโดยสัญญาประชาคมที่พรรคเพื่อไทยได้เคยแถลงต่อพี่น้องประชาชนไว้ พรรคเพื่อไทยขอแสดงความยินดี และยอมรับที่พรรคก้าวไกลเสนอตัวเป็น แกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และเห็นด้วยที่พรรคก้าวไกลจะเชิญพรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตยเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลตามที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้แถลงไว้ พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า ไม่มีแนวความคิดที่จะจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคก้าวไกล"
 

ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยเห็นว่า ในการจัดตั้งรัฐบาล ประเด็นในการหารือ และกระบวนการต่างๆ ให้เป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายดำเนินการ

 

โยนพรรคแกนนำดีลพรรคร่วมให้ได้ 376 เสียง 

เมื่อถามถึง ระยะเวลาในการจัดตั้งรัฐบาล นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำ เรายินดีและพร้อมเป็นฝ่ายสนับสนุนเท่านั้น ส่วนกระบวนการพูดคุยจะเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคที่จะพูดคุยกัน

เมื่อถามว่า 309 เสียงสามารถโหวตนายกฯได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จำนวน 309 เสียงถือว่าเข้มแข็ง แต่การจะโหวตนายกฯ ได้หรือไม่นั้นต้องเป็นไปตามกฎหมาย คือต้องไปเลือกในที่ประชุมรัฐสภาเพื่อให้ได้ 376 เสียงขึ้นไป เราจำเป็นต้องอาศัยเสียงดังกล่าว

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทย จะเป็นอีกหนึ่งพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำเป็นผู้ดำเนินการ เราไม่ก้าวล่วง

เมื่อถามถึงเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทย ที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล นพ.ชลน่าน กล่าวว่า กระบวนการเพิ่งเริ่มก่อนจะเข้าสู่กระบวนการพูดคุยอย่างเป็นทางการ เรายังไม่สรุปจบว่าต้องใช้เวลาเท่าไร ในส่วนของพรรคเพื่อไทยต้องฟังแกนนำว่าจะกำหนดประเด็นข้อหารืออย่างไร ขณะนี้ยังไม่มีใครได้เห็นเอ็มโอยูของพรรคก้าวไกล

 

เลี่ยงตอบถ้าดีลไม่จบเดินเกมไหนต่อ 

เมื่อถามว่า ที่สุดแล้วดีลระหว่างพรรคก้าวไกล กับ เพื่อไทย จะจบลงด้วยดีหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หวังว่าจบลงด้วยดี เราก็มุ่งหวังให้เป็นไปตามความต้องการของพี่น้องประชาชน หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นเป็นไปตามที่พี่น้องฝ่ายประชาธิปไตยชนะอย่างท่วมท้น

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย มีเงื่อนใดที่ไม่สามารถเข้าร่วมกับพรรคก้าวไกล ได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอรอดูประเด็นที่พรรคก้าวไกลเสนอมาก่อนในฐานะผู้กำหนดประเด็นในการหารือ

เมื่อถามว่าหากพรรคก้าวไกล ไม่สามารถทำภารกิจจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ มีโอกาสที่จะถูกโดดเดี่ยวหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราอย่าไปคาดการณ์อย่างนั้น ภารกิจขนาดนี้ ถ้าเรายินดีจะช่วยเขาหรือสนับสนุน เขาต้องทำภาระหน้าที่ให้ถึงที่สุด ส่วนอะไรจะเกิดขึ้นไม่ควรไปคิดตรงนั้น ต้องทำภารกิจเบื้องต้นให้สำเร็จให้ได้

 

พท. ยินดีโหวต “พิธา” นั่งนายกฯ 

ด้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เมื่อเช้าได้ฟังคำแถลงจากนายพิธา และได้คุยโทรศัพท์กับนายพิธา เมื่อเช้า ยังไม่ได้คุยรายละเอียดใดๆ แค่แสดงความยินดีต่อกัน เมื่อเช้าเราพูดคุยกันสามถึงสี่นาที นายพิธาเป็นคนโทรมา เราต่างแสดงความยินดีซึ่งกันและกัน

ส่วนรายละเอียดต่างๆ ในการเข้าร่วมรัฐบาลจะพูดคุยกันอีกครั้งซึ่งตนก็สนับสนุนพรรคก้าวไกลที่ได้เสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาล เราเคยทำงานพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน ส่วนในเชิงรายละเอียด นโยบาย และข้อตกลงต่าง ๆ จะส่งตัวแทนไปร่วมพูดคุยผ่านกรรมการบริหารพรรคพิจารณา

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะโหวตเลือกนายพิธาเป็นนายกฯ หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เมื่อก้าวไกลได้คะแนนอันดับ 1 เราเคารพเสียงของประชาชน

 

ย้ำชัดไม่คิดยกเลิก 112

เมื่อถามถึงท่าทีต่อมาตรา 112 น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรามีจุดยืนที่มั่นคงว่าไม่สนับสนุนให้ยกเลิก แต่พูดคุยในสภาฯ ได้ ส่วนเรื่องกฎหมายต่างๆ ที่มีน้องติดคุก เราพร้อมพูดคุย ส่วนเรื่องอื่นๆ ยังไม่ได้พูดคุยอะไร เป็นการคุยแบบเช็กมู้ดกันเท่านั้น ส่วนรายละเอียดหรือเงื่อนไขการเข้าร่วมของพรรคพท.นั้นมีในใจบ้าง แต่ต้องขอคุยกันในพรรคพท.ก่อนเพื่อให้เป็นแมสเสจเดียวกัน

เมื่อถามว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะยังกลับประเทศไทยในเดือนก.ค.หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า การกลับมาของนายทักษิณไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย ฉะนั้นถ้านายทักษิณยังไม่ประกาศเลื่อนวันก็ยังคงเป็นวันเดิม คือเดือน ก.ค. แต่จะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนอย่างไร ถ้านายทักษิณได้ออกมาพูดก็ตามนั้น

 

“อิ๊ง” รับผิดหวังเพราะคิดว่าจะได้ที่ 1 

เมื่อถามว่าจากผลการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะปรับตัวอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า นโยบายเราค่อนข้างตอบโจทย์ของประเทศชาติ แต่เข้าใจว่าสิ่งที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงหรือของพรรคก้าวไกลเป็นจุดแข็ง ทั้งนี้ของเราก็ต้องขอบคุณประชาชนที่เลือกเราในทุกพื้นที่ ส.ส.ที่เข้าสภาฯ ได้ก็แสดงความยินดีด้วย

"แต่ส่วนที่ไม่ได้เราก็ต้องแสดงความยินดี เพราะเขาลงพื้นที่หนักมาก เรื่องนี้มีทั้ง 2 ทาง ไม่เป็นไร เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเราต้องวางแผนว่าจะไปต่ออย่างไรกับประเทศ และเราจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์กับประชาชนหรือประเทศให้ได้มากที่สุด ฉะนั้นนี้คือแผนต่อไป เราไม่ได้กลับมายึดว่าจะชนะครั้งต่อไปอย่างไร"

"การเลือกตั้งก็เหมือนกีฬา มีผู้แพ้ ผู้ชนะ และผู้ที่แพ้หรืออันดับ 2 ก็ต้องมีความผิดหวังบ้าง เพราะเราคิดไว้ว่าจะเป็นอันดับ 1 แต่เราก็ยอมรับ เพราะเป็นน้ำใจนักกีฬาที่เมื่อพรรคก้าวไกลได้อันดับ 1 เราแสดงความยินดีด้วย แล้วเราก็เชียร์เพื่อประชาธิปไตย เพื่อประเทศชาติ ที่จะไปต่อได้ ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องของการเมือง ทุกคนต้องก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน"