“ก้าวไกล” ประชุมลับ ส่งคนดีล 6 พรรคตั้งรัฐบาล ไม่เอา รทสช.-พปชร.-ภูมิใจไทย
“เลขาฯ ก้าวไกล” สีหน้าเครียด ถกวงประชุมลับ มือดีล 6 พรรคจับขั้วตั้งรัฐบาล จุดยืนชัดไม่เอา “รทสช.-พปชร.” เมินเสียง “ภูมิใจไทย” เผยขอคุย “เพื่อไทย” ก่อนเป็นหลักเหตุเป็นพรรคหลัก เล็งส่งคนคุย ส.ว.ปรับความเข้าใจ โหวตหนุน “พิธา” นั่งนายกฯ เชื่อมีคนหวังดีต่อประเทศ
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2566 ที่พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความคืบหน้าในการหารือจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังการเลือกตั้ง 2566 ว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มอบหมายให้ตนเป็นตัวแทนพรรคในการประสานงานกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม โดยหลังจาก 12.00 น. ก็จะนัดหารือกัน คาดว่าใช้เวลาไม่นานมาก จะนัดหมายกันเพื่อพูดคุยเบื้องต้นกับตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคหลัก
"คงต้องคุยกัน 2 พรรคก่อน วันนี้คุณพิธาจะโทรฯ หาหัวหน้าพรรคทั้งหมดด้วยตนเอง หวังว่าภายในสัปดาห์นี้จะสามารถประชุมหารือร่วมกันได้ และแถลงกับสื่อมวลชน เพราะถือเป็นเป้าหมายที่พรรคก้าวไกลวางไว้เพื่อให้เกิดความชัดเจนแน่นอนทางการเมือง" นายชัยธวัช กล่าว
ส่วนข้อกำหนดและเงื่อนไขของ นายพิธามอบหมายมานั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นไปตามเงื่อนไขเดิมตามที่แถลงข่าวไปเมื่อวาน (15 พ.ค.2566) นอกจากไม่มีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) คาดว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะตกลง โดยเนื้อหาจะพูดถึงวาระหลักในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่จะประกาศต่อสาธารณะ ว่ามีเรื่องใดบ้าง
“ต้องพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยเป็นหลักก่อน เพราะเป็นพรรคขนาดใหญ่ เมื่อเรื่องหลังสรุปกันได้แล้วค่อยชวนพรรคอื่น ๆ ทั้งหมดมาพูดคุยกัน แต่เฉพาะหน้านายพิธาจะโทร ประสานหัวหน้าพรรคทุกพรรคด้วยตนเอง โดยจะจำกัดวงหารืออยู่ที่ 6 พรรคเท่านั้นก่อน สำหรับการรวมเสียงที่ยังไม่เบ็ดเสร็จ ต้องหารือร่วมกันต่อไปว่าพรรคอื่น ๆ เห็นว่าอย่างไร เบื้องต้นข้อเสนอของก้าวไกลเป็นแบบนี้ และเสียงของพรรคภูมิใจไทยไม่มีความจำเป็น” นายชัยธวัช กล่าว
เมื่อถามว่าจะมีการคุยกับพรรคภูมิใจไทยมาร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีให้หรือ นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องเป็นการตัดสินใจของแต่ละพรรค แต่ทิศทางจะเป็นอย่างไร พรรคก้าวไกลก็ต้องฟังจากพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่น ๆ ซึ่งหากเป็นไปตามกระแสสังคมที่เรียกร้องให้พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมโหวตนายกฯ ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะหลายภาคส่วนคาดหวังกันว่าจะทำให้เกิดความชัดเจน
พรรคก้าวไกลคาดหวังว่าจะให้การหารือแล้วเสร็จในสัปดาห์นี้ และการพูดคุยถึงตอนนี้ยังไม่มีปัญหา แต่ต้องมีการนัดหมายกันก่อนตามมารยาท จนถึงวันนี้ยังไม่เห็นปัญหาอะไร แต่เดินหน้าคุยกันจะดีที่สุด” เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าว
เมื่อถามว่ากังวลใจเรื่อง ส.ว.หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ส.ว.ไม่ได้เอกภาพ พรรคก้าวไกลจึงพร้อมจะหารือแลกเปลี่ยน จะมีการติดต่อเข้าไปพูดคุยแน่นอน เชื่อว่าการพูดคุยกันก่อนจะเป็นประโยชน์ที่สุด เพราะความกังวล ไม่สบายใจของ ส.ว. อาจจะเป็นการคิดอยู่ฝั่งเดียว หากได้พูดคุยกันแล้วก็คงจะคลายกังวลกัน
เมื่อถามถึงการเสนอตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชัยธวัช กล่าวว่า การเสนอชื่อยังมีการพูดคุยกันอยู่ โดยมีการพูดกันว่า ในเมื่อพรรคก้าวไกลได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 ตำแหน่งประธานสภาฯ ก็ต้องเป็นของพรรคก้าวไกล แต่อาจมีความกังวลอยู่บ้างเรื่องความอาวุโส แต่คิดว่าในประวัติศาสตร์ก็เคยมีประธานสภาฯ ที่อายุน้อยมาแล้ว
นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า เมื่อวานในการประชุมกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ยังไม่มีการประชุมกันเรื่องนี้ ส่วนที่มีกระแสว่า นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล มีชื่ออยู่ในโผด้วย เพราะเป็นฝ่ายกฎหมาย นายชัยธวัช คิดว่าคนวัยกลางคนก็มีความเหมาะสม เพราะมีความเที่ยงธรรมชัดเจน มีทักษะความสามารถที่เข้าใจทั้งระเบียบกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่าพรรคชาติไทยพัฒนามีการติดต่อซึ่งกันและกันหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยัง ก็ตามที่นายพิธาแถลงไว้ ยึดเอาพรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบันเป็นหลักมากกว่า เอาพรรคที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน ส่วนถ้าพูดคุยกันแล้วพรรคอื่น ๆ เห็นอย่างไรก็อีกเรื่อง แต่จะถึงขั้นปิดประตูเลยหรือไม่ ตอนนี้ตนคิดว่าเสียงของพรรคก้าวไกลและพรรคร่วมฝ่ายค้านก็เพียงพอ
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าพรรคเพื่อไทยอาจสนับสนุนคนอื่นเป็นนายกฯ นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งคุยถึงตอนนั้น พรรคเพื่อไทยก็แสดงความชัดเจนว่าจะสนับสนุน และเคารพหลักการในระบอบประชาธิปไตย มีเวลาอีกตั้ง 2 เดือน เราคงไม่ได้อยู่เฉย
ส่วนความมั่นใจในการรวมเสียงทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ให้ได้ 376 เสียง นายชัยธวัช กล่าวว่า มั่นใจว่ามี ส.ว.ไม่น้อยที่มีวุฒิภาวะและปรารถนาดีต่อบ้านเมือง ไม่อยากเห็นทางตันหรือวิกฤตทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการสัมภาษณ์ นายชัยธวัชมีสีหน้าเคร่งเครียด ทันทีที่นายชัยธวัชให้สัมภาษณ์เสร็จ ได้รับสายโทรศัพท์ และพูดคุยเรื่องการนัดหมายพรรคต่าง ๆ ก่อนจะเดินทางออกจากที่ทำการพรรคทันที คาดว่าเป็นการพูดคุยถึงวงประชุมลับ