"เกมชิงอำนาจ" เดิมพันปชป. "กลลึก-แผนลับ" สลับขั้ว
ผ่า"เกมอำนาจ" เดิมพัน "ค่ายสีฟ้า" จับตา"ซูเปอร์ดีล-สูตรจับขั้ว" วัดใจฉันทามติ 899,303 เสียง สู่ "จุดเปลี่ยน"
ในยามที่ฝุ่นควันการเมืองคุกรุ่นไปด้วยสมการ “จับขั้วตั้งรัฐบาล” ภายใต้การนำของพรรคก้าวไกล ที่ขณะนี้รวบรวมเสียงพรคการเมืองทั้ง ก้าวไกล เพื่อไทย ประชาชาติ เสรีรวมไทย เป็นธรรม ไทยสร้างไทย เพื่อไทรวมพลัง พลังสังคมพรรคใหม่ จำนวน 313เสียง
ทว่าอีกหนึ่งพรรคที่ต้องจับตาหนีไม่พ้น “ค่ายสีฟ้า” พรรคประชาธิปัตย์ ที่นอกเหนือจากกระแสเปิดดีลลับจับขั้วที่ปรากฎในช่วง2-3วันที่ผ่านมาแล้ว ผลการเลือกตั้งที่ออกมายังสะท้อนถึง “พายุลูกใหญ่” ที่กำลังก่อตัวกระเพื่อมหนักภายในพรรค
หลังตัวเลขส.ส.ปชป.รอบนี้ ลดฮวบไปกว่าครึ่งเหลืออยู่ที่ 24 เสียงแบ่งเป็นส.ส.เขต 22 เสียง และบัญชีรายชื่อ 2 คน นำมาซึ่งการ“ผ่าใหญ่” ที่ “รีโนเวท” อย่างเดียวคงไม่พอแต่ถึงขั้นต้อง “รื้อทิ้ง” แล้วสร้างใหม่หมด
โดยเฉพาะผู้นำพรรค "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์" ที่ประกาศลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรครับผิดชอบความพ่ายแพ้ก่อนพ้นวาระเพียงไม่กี่ชั่วโมง
คล้อยหลังไม่นานภาพของการ “แตก2ขั้ว” ภายในพรรคยังเริ่มปรากฎออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน “ขั้วเสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค ถือไพ่เหนือกุมส.ส.ในมือ16 คนแยกเป็นซุ้มต่างๆ
“ซุ้มนครศรีธรรมราช” ของ “เสี่ยแทน” ชัยชนะ เดชเดโช ประกอบด้วย ราชิต สุดพุ่ม ว่าที่ส.ส.นครศรีฯ เขต 1 ,ทรงศักดิ์ มุสิกอง ว่าที่ส.ส.นครศรีฯ เขต 2 ,พิทักษ์เดช เดชเดโช ว่าที่ส.ส.นครศรีฯ เขต3 , ว่าที่ ร.ท.ยุทธการ รัตนมาศ ว่าที่ส.ส.นครศรีฯ เขต 4 , ชัยชนะ ว่าที่ส.ส.นครศรีฯ เขต 5 , อวยศรี เชาวลิต ว่าที่ส.ส.นครศรีฯ เขต 9,
“ซุ้มสงขลา” ของ “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง ประกอบด้วย สมยศ พลายด้วง ว่าที่ส.ส.สงขลา เขต 3 , เดชอิศม์ ว่าที่ส.ส.สงขลา เขต 5 , สุภาพร กำเนิดผล ,พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เขต8 ,ศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง เขต 9
“ซุ้มบ้านใหญ่ตรัง” ประกอบด้วย สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ว่าที่ส.ส.ตรัง เขต 3 ,กาญจน์ ตั้งปอง ว่าที่ส.ส.ตรัง เขต 4
“ซุ้มประจวบ” ประกอบด้วย “สจ.เซ้ม” จักพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ ว่าที่ส.ส.ประจวบฯเขต2 หลานชายเสี่ยต่อ ประมวล พงศ์ถาวราเดช ว่าที่ส.ส.ประจวบฯเขต 3
นอกจากนี้ยังมี วุฒิพงษ์ นามบุตร ว่าที่ส.ส.อุบลฯ เขต 2 , และชาตรี หล้าพรหม สกลนครเขต2
ขณะที่อีกกลุ่มส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่สนับสนุนหรือใกล้ชิดจุรินทร์เดิม ทั้ง นอกเหนือจากตัว “จุรินทร์” ในฐานะปาร์ตี้ลิสต์เบอร์1 ชวน หลีกภัย ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์2 ยังมี สรรเพชญ บุญญามณี ว่าที่สส.สงขลา 4.สุพัชรี ธรรมเพชร 5.ร่มธรรม ขำนุรักษ์ ว่าที่สส.พัทลุง 6.ยุนัยดี วาบา ว่าที่สส.ปัตตานี และ7. สมบัติ ยะสินธุ์ ส.ส. แม่ฮ่องสอน เขต 1
โดยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สนับสนุน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เป็นหัวหน้าพรรค
ทว่าเมื่อฝั่งหนึ่งถือไพ่เหนือกว่า ด้วยจำนวนส.ส.ที่มีอยู่ในมือ นั่นย่อมหมายความไปถึงแต้มต่อในการเสนอชื่อผู้นำพรรคคนใหม่เช่นเดียวกัน
ยามนี้เริ่มมีการพูดถึงชื่อของทายาทสายตรงอย่าง “นายกชาย” ในตำแหน่งผู้นำพรรค หลังมีการโยนช้อยหลากหลายชื่อ ขณะที่“เสี่ยแทน” รองเลขาธิการพรรคเดิม มีแววขึ้นแท่นเลขาธิการพรรค
ไม่ต่างจากสูตรจับขั้วก่อนหน้ามีการ “ปล่อยข่าว” ในทำนองว่า ส.ส.สายเสี่ยต่อ พยายามเปิดดีลทอดสะพานไปยัง “ค่ายส้ม” หวังพลิกเกมจากการเป็นฝ่ายค้านในการ “พลิกขั้ว” จับมือร่วมรัฐบาล โหนไปกับกระแสสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงในขั้วประชาธิปไตย
อันที่จริงกระแส “สลับขั้ว” ของค่ายสีฟ้า เคยมีมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง เวลานั้นมีข่าวเล็ดลอดออกมาจาก “ค่ายสีฟ้า” โดยตลอดว่า “บิ๊กเนมคนสำคัญ” บินนอกพบ “คนแดนไกล” มากกว่า1ครั้ง
ว่ากันว่ายามนั้น “บิ๊กเนม” นับนิ้วประเมินดูแล้วว่า พรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ในเวลานั้น “คอการเมือง” ไม่ได้ให้น้ำหนักในสูตรจับขั้วสูตรนี้มากนัก เพราะด้วยแบรนด์ปชป.บวกตัวผู้นำ รวมถึงขั้วอำนาจภายในพรรค จึงมีการมองว่าโอกาสพลิกขั้วมีความเป็นไม่ได้น้อย
แต่ทว่าในทางการเมืองแล้วอะไรที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ถึงเวลาจริงก็เป็นไปได้เสมอ จากสูตร “ฟ้า” ผสม “แดง” ภายใต้เงื่อนไขปชป.ต้องรีแบนด์ใหม่เพื่อปรับตัวเข้าสู่ยุคดิสรัป ไม่เว้นแม้แต่ชื่อของ"อภิสิทธิ์" ที่ถูกจับตาว่าจะคัมแบ็คผู้นำพรรค แต่ความเคลื่อนไหวบางกลุ่มก้อนกลับไม่เห็นเช่นนั้น เพราะเขาคือขวากหนามสำคัญในสูตรนี้
เมื่อผลออกมาผิดคาดพรรคก้าวไกลมีคะแนนมาเป็นลำดับแรก จึงมีความพยายามโยนหินสูตร “ฟ้า”ผสม“ส้ม” แต่เมื่อถึงเวลาจริงแค่พรรคก้าวไกล เปิดโต๊ะเจรจากับ“พรรคชาติพัฒนากล้า”ซึ่งเป็นพรรคในขั้วอนุรักษ์ฯเดิม ที่มี “กรณ์ จาติกวณิช” อดีตคนคุ้นเคยค้ายสีฟ้า เป็นหัวหน้าพรรค ยังเจอกระแสต้านขุดตั้งแต่สมัยชุมนุมกปปส. ถึงขั้นติด แฮชแท็ก#มีกู ไม่มีกรณ์ จนกระทั่งก้าวไกลต้องออกมากลับลำในท้ายที่สุด
ดังนั้นหากเป็น “ประชาธิปัตย์” พรรคฝ่ายขวาเดิม จับมือก้าวไกลตามสูตรที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ กระแสต้านในลักษณะเดียวกันจะมีมากแค่ไหน? ขณะเดียวกันแกนนำค่ายสีฟ้าก็เคยลั่นวาจาไว้เองยึดมั่น "4 ทำ 3 ไม่" โดยเฉพาะ1ใน3ไม่ คือ “ไม่ยกเลิกมาตรา112” ซึ่งประเด็นการ “แก้ไขมาตรา112” ถือเป็นนโยบายชูโรงของพรรคก้าวไกล
ด้วย “กลลับ-เกมลึก” ที่เกิดขึ้นเวลานี้ ที่สุดแล้วสูตร “ฟ้า” ผสม “ส้ม” ที่ถูกปล่อยออกมาก่อนหน้า อาจเป็นเพียงเกมสับขาหลอก แต่แผนจริงอาจอยู่ที่ “ซูเปอร์ดีล” ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้
โดยเฉพาะกรณีมีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นระหว่างทาง ถึงที่สุด “นายกฯ” ไม่ใช้คนของพรรคก้าวไกล แต่เป็นพรรคที่อยู่ในลำดับถัดไป นั่นก็ย่อมเป็นไปตามสูตรเดิมที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ สอดรับกับความเคลื่อนไหวบรรดา “คีย์แมน” พรรคการเมืองในขั้วอนุรักษ์นิยมที่อยู่ในช่วงพักร้อนบินไปต่างประเทศอยู่ ณ เวลานี้ ท่ามกลางสัญญาณพลิกสูตรจับขั้วตั้งรัฐบาล
จากนี้ต้องจับตาจังหวะก้าวย่างของ “ค่ายสีฟ้า”ภายใต้การนำของขั้วอำนาจใหม่ ที่มีเดิมพันด้วยเสียงป๊อบปูล่าโหวต 899,303 เสียงว่าจะรอดหรือร่วง?