8 พรรคเซ็น MOU ตั้งรัฐบาล เพิ่มใจความ ไม่แตะพระมหากษัตริย์ ตัดท่อนนิรโทษ

8 พรรคเซ็น MOU ตั้งรัฐบาล เพิ่มใจความ ไม่แตะพระมหากษัตริย์ ตัดท่อนนิรโทษ

8 พรรคร่วมดีเดย์ครบ 9 ปีรัฐประหารตั้งโต๊ะเซ็น MOU ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล เพิ่มใจความสำคัญ ภารกิจที่ร่วมผลักดันต้องไม่กระทบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ละเมิดมิได้ ท่อนผลักดัน “นิรโทษกรรม” หาย เติมปฏิรูป สธ.แทน

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2566 เวลา 16.30 น.ที่ห้องบอลลูม โรงแรนคอนราด กทม. แกนนำ 8 พรรคการเมืองเลือก วันครบรอบ 9 ปี รัฐประหาร โดย คสช. ร่วม ลงนาม MOU เพื่อเตรียมจัดตั้งรัฐบาล นำโดย พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม พรรคเพื่อไทรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่ รวม 313 เสียง ส.ส. หลังจากนัดหารือกันตั้งแต่ 15.30 น.ของวันเดียวกัน

ภายหลังการเจรจานานเกือบ 2 ชั่วโมง เมื่อเวลาประมาณ 16.50 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แถลงว่า ในวันนี้เป็นวันที่สำคัญกับประวัติศาสตร์การเมืองไทย 2-3 นัย คือ ครบรอบวันรัฐประหารเมื่อปี 2557 และเป็นวันที่พวกเราเซ็น MOU ในการจัดตั้งรัฐบาล ถือเป็นวันหมุดหมายที่ดี สะท้อนความสำเร็จของสังคมไทย ที่สามารถเปลี่ยนผ่านกลับมาสู่ระบบประชาธิปไตย ผ่านระบบรัฐสภาอย่างสันติ 

“จุดประสงค์ในการทำบันทึกความเข้าใจร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล เป็นการรวบรวมวาระร่วมที่เราเห็นตรงกัน และพร้อมจะผลักดันผ่านกลไกของรัฐบาล และรัฐสภา ขณะเดียวกันเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในวันนี้ นี่เป็นจุดประสงค์ เมื่อรวมวาระ ความตั้งใจ การผลักดัน ความรับผิดชอบที่เสนอประชาชนคนไทยทั้งประเทศ” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวว่า บันทึกความเข้าใจร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล ระหว่าง 8 พรรคร่วมรัฐบาล ดังกล่าว ทำเพื่อสร้างพื้นฐานของรัฐบาล และการทำงานร่วมกันระหว่างพรรค ทุกพรรคเห็นร่วมกันว่า

ภารกิจของรัฐบาลทุกพรรคที่จะผลักดันร่วมกันนั้น ต้องไม่กระทบกับรูปแบบของรัฐและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการดำรงอยู่ในสถานะ อันเป็นที่สักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ขององค์พระมหากษัตริย์ ดังนี้

1. ฟื้นฟูประชาธิปไตย รวมถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชนให้เร็วที่สุด โดยมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน

2. ยืนยันและผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพื่อรับประกันสิทธิสมรสสำหรับคู่รักทุกเพศ โดยจะไม่บังคับประชาชนที่เห็นว่าขัดแย้งกับหลักการของศาสนาที่ตนเองนับถือ

4. ผลักดันการปฏิรูประบบราชการ ตำรวจ กองทัพ และกระบวนการยุติธรรม ให้สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย โดยยืดหลักความโปร่งใส ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน

4. เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ เป็นระบบสมัครใจ ทั้งนี้ยังคงไว้ซึ่งกำลังทหารในยามศึกสงคราม

5. ร่วมผลักดันกระบวนการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคำนึงถึงหลักการด้านสิทธิมนุษยชน การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงทบทวนภารกิจของหน่วยงานและการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคง

6. ผลักดันการกระจายอำนาจทั้งในแง่ภารกิจและงบประมาณ เพื่อให้ท้องถิ่นตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และปราศจากการทุจริต

8 พรรคเซ็น MOU ตั้งรัฐบาล เพิ่มใจความ ไม่แตะพระมหากษัตริย์ ตัดท่อนนิรโทษ

7. แก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันโดยการสร้างระบบและวัฒนธรรมรัฐโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลรัฐในทุกหน่วยงาน

8. ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยยึดหลักเพิ่มรายได้ประชาชน ลดความเหสื่อมล้ำ และสร้างระบบเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างเป็นธรรม

9. ยกเครื่องกฎหมายเกี่ยวกับการทำมาหากิน และการดำรงชีวิตของประชาชน เช่น ตัด ลด หรือพักใช้ชั่วคราวซึ่งการอนุมัติ อนุญาตที่ไม่จำเป็น และเป็นอุปสรรคเพื่อปรับปรุงใหม่ ให้ความช่วยเหลือสภาพคล่องทางด้านการเงินและสร้างแต้มต่อให้กับ SME พร้อมกับมุ่งเน้นการเติบโต GDP ของ SME สนับสนุนอุตสาหกรรม และสินค้าไทยให้มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้

10. ยกเลิกการผูกขาดและส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรมในทุกอุตสาหกรรม เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยพรรคประชาชาติขอสงวนสิทธิ์ในการไม่เห็นด้วยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยเหตุผลด้านศาสนา

11. ปฏิรูปที่ดินทั้งระบบ ด้วยการผลักตันกฎหมายปฏิรูปที่ดิน กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมแก้ปัญหาแนวเขตป่าไม้และที่ดินของรัฐที่ทับซ้อนกับที่ดินของประชาชน รวมถึงการทบทวนคดีที่เป็นผลจากนโยบายทวงคืนผืนป่า

12. ปรับปรุงโครงสร้างการผลิตไฟฟ้า การคำนวณราคา และกำลังการผลิตที่เหมาะสม เพื่อลดค่าครองชีพประชาชนและสร้างความมั่นคงทางพลังงาน

8 พรรคเซ็น MOU ตั้งรัฐบาล เพิ่มใจความ ไม่แตะพระมหากษัตริย์ ตัดท่อนนิรโทษ

13. จัดทำงบประมาณแบบใหม่ โดยเน้นใช้วิธีการจัดงบประมาณฐานศูนย์ (zero-based budgeting)

14. สร้างระบบสวัสดิการดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงวัย โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและภาระทางการคลังระยะยาว

15. แก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเร่งด่วน

16. นำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดให้โทษ ผ่านบัญญัติของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีกฎหมายควบคุมและรองรับการใช้ประโยชน์จากกัญชา

17. ส่งเสริมเกษตรและปศุสัตว์ปลอดภัย คุ้มครอง รักษาผลประโยชน์ของเกษตรกร ลดต้นทุนการผลิตส่งเสริมการตลาด ส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยี และแหล่งน้ำ สร้างความเข้มแข็งของกลุ่มงเกษตรกรเพื่อวางแผนการผลิตและรักษาผลประโยชน์กษตรกร ส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรเพื่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ

18. แก้ไขกฎหมายประมง ขจัดอุปสรรค เยียวยา ฟื้นฟู และพัฒนาอาชีพประมงให้ยั่งยืน

19. ยกระดับสิทธิแรงงานทุกอาชีพให้มีสภาพการจ้างงานที่เป็นธรรม และได้รับค่าแรงที่เป็นธรรมสอดคล้องกับค่าครองชีพและการเติบโตของเศรษฐกิจ

20.ยกระดับระบบสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพ ทั้งการป้องกัน รักษา และฟื้นฟูสุขภาพ

21.ปฏิรูประบบการศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต

22. สร้างความร่วมมือและกลไกภายในและระหว่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นพิษ รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) โดยเร็วที่สุด

23. ดำเนินการนโยบายการต่างประเทศ โดยการฟื้นฟูบทบาทผู้นำของไทยในอาเชียน ตามกรอบความร่วมมือต่างๆ โดยเฉพาะกรอบพหุภาคี และรักษาสมดุลการเมืองระหว่างประเทศของไทยกับประเทศมหาอำนาจ

8 พรรคเซ็น MOU ตั้งรัฐบาล เพิ่มใจความ ไม่แตะพระมหากษัตริย์ ตัดท่อนนิรโทษ

ทุกพรรคเห็นพ้องกันว่าจะร่วมกันบริหารประเทศด้วยแนวทางการปฏิบัติดังต่อไปนี้

1. ทุกพรรคจะคุ้มครองสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของประชาชนทุกคน

2. ทุกพรรคจะทำงานโดยซื่อสัตย์สุจริต หากมีบุคคลของพรรคใดมีพฤติกรรมทุจริต คอร์รัปชัน ทุกพรรคจะยุติการดำรงตำแหน่งของบุคคลนั้นๆ ทันที

3. ทุกพรรคจะทำงานโดยให้เกียรติซึ่งกันและกัน จริงใจต่อกัน สนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน โดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง มากกว่าผลประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่ง

4. ทุกพรรคมีสิทธิในการผลักดันนโยบายอื่นเพิ่มเติม แต่ไม่ขัดแย้งจากนโยบายในบันทึกข้อตกลงร่วมฉบับนี้โดยอาศัยอำนาจฝ่ายบริหารของรัฐมนตรีที่เป็นตัวแทนของแต่ละพรรคการเมือง

5. ทุกพรรคมีสิทธิในการผลักดันนโยบายอื่นเพิ่มเติม แต่ไม่ขัดแย้งจากนโยบายในบันทึกข้อตกลงนี้โดยอาศัยอำนาจนิติบัญญัติของผู้แทนราษฎรที่สังกัดแต่ละพรรคการเมือง

8 พรรคเซ็น MOU ตั้งรัฐบาล เพิ่มใจความ ไม่แตะพระมหากษัตริย์ ตัดท่อนนิรโทษ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างกล่าวถึงการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ที่เดินทางมาร่วมรับฟัง ได้ลุกขึ้นยืนปรบมือ

อย่างไรก็ดีใน 23 วาระของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลดังกล่าว แตกต่างกับเนื้อหาที่เป็นฉบับร่าง คือมีการเติมในท่อน “ภารกิจของรัฐบาลทุกพรรคที่จะผลักดันร่วมกันนั้น ต้องไม่กระทบกับรูปแบบของรัฐและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการดำรงอยู่ในสถานะ อันเป็นที่สักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ขององค์พระมหากษัตริย์”

นอกจากนี้ยังมีการตัดข้อ 2. เดิมในฉบับร่างที่ระบุว่า “เพื่อสร้างความสมานฉันท์ในสังคม ทุกพรรคจะร่วมผลักดันการอำนวยความยุติธรรมในคดีที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางการเมืองผ่านกลไกของรัฐสภา” แต่มาเติมในข้อ 20. ที่ระบุว่า “ยกระดับระบบสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพ ทั้งการป้องกัน รักษา และฟื้นฟูสุขภาพ” แทน