“ก้าวไกล” นัด พรรคร่วม คุยนอกรอบ เคลียร์ปม ปธ.สภา-รมต. คาด ไร้ตัวแทนเพื่อไทย
“ก้าวไกล” นัด ว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล ถกนอกรอบ 28พ.ค. หาข้อสรุปโควตา “ประธานสภาฯ-รัฐมนตรี” คาด ไร้ตัวแทนเพื่อไทย ร่วม ก่อนประชุมวงใหญ่ 8 พรรค 30 พ.ค.นี้ “ทวี” เผย “วันนอร์” พอแล้วกับเก้าอี้ประมุขนิติบัญญัติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนชั่นทีวีออนไลน์เผยแพร่ถึงความคืบหน้าการประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ในวันอังคารที่ 30 พฤษภาคม ณ ที่ทำการพรรคประชาชาติ มีการนัดหารือนอกรอบกันก่อนวันดังกล่าว พร้อมกับอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลว่า มีการนัดหารือกันวงเล็กก่อน โดยแกนนำพรรคก้าวไกลนัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคคุยนอกรอบกันในวันเดียวกันนี้ (28 พฤษภาคม) แต่คาดว่าไม่ได้นัดทุกพรรคและไม่แน่ชัดว่าจะมีตัวแทนพรรคเพื่อไทยด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ เมื่อคุยนอกรอบกันแล้ว จึงจะนัดคุยวงใหญ่ มีตัวแทนทุกพรรค ซึ่งเป็นเวทีของ คณะเจรจาในวันอังคารที่ 30 พฤษภาคม โดยวงหารือนอกรอบ คาดว่าจะมีการคุยตกลงเพื่อหาทางจบปัญหา ศึกชิงเก้าอี้ประธานสภาและแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันคร่าวๆ เป็นตุ๊กตาก่อนนำไปคุยวงใหญ่ทั้ง 8 พรรค
ด้าน พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวถึงการนัดหมายพบปะหารือกันของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค ในวันที่ 30 พฤษภาคมว่า ทุกพรรคโทรหาตน บอกว่าจะขอใช้พื้นที่พรรคประชาชาติในการพูดคุย ซึ่งตนก็ยินดี และเชิญให้มาคุยกัน โดยคนที่โทรมามีทั้ง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และแกนนำพรรคเสรีรวมไทย จากบรรยากาศที่เป็นอยู่เห็นว่าทุกคนอยู่ร่วมกันแบบมีวุฒิภาวะ และมองไปข้างหน้า จึงมั่นใจว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะไม่มีปัญหา และสามารถจบปัญหาประธานสภาได้แน่นอน
พร้อมระบุด้วยว่า พรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้ เกือบทั้งหมดเคยทำงานกันมาตั้งแต่เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านในสภาฯชุดที่แล้ว มีความเหนียวแน่น รู้ใจกันหมด
ส่วนกรณีที่บางฝ่ายเสนอให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภาฯ เพื่อเป็นทางออกที่สามหรือผ่าทางตัน เพื่อจบปัญหาศึกชิงประธานสภานั้น เรื่องนี้พ.ต.อ. ทวี ตอบทันทีว่า อาจารย์วันนอร์เคยพูดว่า ผมพอแล้วหมายถึง พอในตำแหน่งประธานสภาฯ เพราะเคยเป็นมาแล้ว
สำหรับตำแหน่งประธานสภาฯ พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงว่าไม่ได้ดูที่อายุ ไม่ใช่ว่าต้องแก่ถึงจะเป็นประธานได้ แต่ขึ้นกับความรู้ความสามารถ ความเป็นกลาง เพราะเป็นประธานของสมาชิกทุกคนโดยเรื่องนี้บัญญัติอยู่ในรัฐธรรมนูญด้วย ที่สำคัญรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า ผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภา จะเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองไม่ได้ ฉะนั้น อาจารย์วันนอร์ จึงเป็นไม่ได้เพราะเป็นหัวหน้าพรรคประชาชาติ หากต้องลาออกจะถือเป็นเรื่องใหญ่มาก
จากการตรวจสอบบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 116 วารรค 2 บัญญัติว่า “ในระหว่างการดำรงตำแหน่ง ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร จะเป็นกรรมการบริหารหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองขณะเดียวกันมิได้” นอกจากนั้น รัฐธรรมนูญ มาตรา 119 วรรค 2 ยังบัญญัติว่า “ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา และผู้ทำหน้าที่แทน ต้องวางตนเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่”
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าติดตาม และเป็นสถานการณ์ภายในพรรคประชาชาติ คือ โดยธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว ตำแหน่งประธานสภาฯ จะเป็นโควต้าของพรรคที่ได้เสียงอันดับ 1 ของรัฐบาล รองประธานสภาคนที่ 1 เป็นคนจากพรรคอันดับ 2 และรองประธานสภาคนที่ 2 เป็นคนจากพรรคอันดับ 3 หากอ้างธรรมเนียมนี้ พรรคก้าวไกลก็น่าจะได้เก้าอี้ประธานสภาฯไป ส่วนพรรคเพื่อไทยก็จะได้เก้าอี้รองประธานสภาฯคนที่ 1 และพรรคประชาชาติ จะได้เก้าอี้รองประธานสภาฯคนที่ 2 ไล่ดู ส.ส. 9 คนของพรรคประชาชาติ แบ่งเป็น ส.ส.เขต 7 คน เป็น ส.ส.มุสลิมทั้งหมด และอยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมดด้วย ส่วนอีก 2 คนเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ คืออาจารย์วันนอร์ กับ พ.ต.อ.ทวี
ในจำนวน 7 ส.ส.ชายแดนใต้ มี 1 คนที่เป็นทนายความ มีความรู้ความสามารถด้านกฎหมายคือ “ทนายแวยูแฮ” หรือ "กมลศักดิ์ ลีวาเมาะ" ว่าที่ ส.ส.นราธิวาส ซึ่งเป็นทนายมุสลิม น่าจับตาว่าพรรคประชาชาติจะส่งเข้าประกวดหรือไม่ แต่หากไม่ส่งชื่อ “ทนายแวยูแฮ” จะหันไปใช้บริการส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ก็มี อาจารย์วันนอร์ แต่ด้วยศักดิ์ศรี เคยเป็นประธานสภาฯมาแล้ว ไม่น่าที่จะย้อนกลับมารับตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 2 อีกคนคือ พ.ต.อ.ทวี แต่ด้วยดีกรีของพ.ต.อ.ทวี น่าจะรับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีมากกว่า
อีกคนหนึ่งที่ถูกพูดถึงคือ ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 3 ของพรรคประชาชาติ คือ "สมบูรณ์ ม่วงกล่ำ" อดีตอธิบดีอัยการ และเคยทำงานในสภากทม.มาอย่างยาวนาน แต่ "สมบูรณ์" ไม่ได้เป็น ส.ส. ต้องรอลุ้นว่าจะมีการลาออก เพื่อขยับให้มาเป็น ส.ส.และรับตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 2 หรือไม่ เนื่องจากในสภาฯชุดที่แล้ว พรรคประชาชาติได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพียงคนเดียว คือ อาจารย์วันนอร์ แต่ต่อมา อาจารย์วันนอร์ ก็ลาออก เพื่อให้ พ.ต.อ.ทวี เลื่อนลำดับขึ้นมาเป็น ส.ส. และทำหน้าที่ในสภาฯอย่างเข้มแข็ง จนทำให้พรรคมีชื่อเสียงขึ้นมาระดับหนึ่ง
สำหรับ "สมบูรณ์ ม่วงกล่ำ" มีข่าวว่าเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับกลุ่มบีทีเอส ซึ่งกลุ่มบีทีเอส มีความแนบแน่นกับแกนนำพรรคประชาชาติหลายคน และประธานกลุ่มบีทีเอส อย่าง "คีรี กาญจนพาสน์" ก็เคยลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปรวมกิจกรรมพูดคุยเสวนากับนักธุรกิจรุ่นใหม่ และนักการเมืองท้องถิ่นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อระดมสมองเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวด้วย