‘FC เพื่อไทย’บุกพรรคยื่น5ข้อเสนอถอนตัวร่วมรัฐบาล-ชี้ควรไปคุยในวงเจรจา
‘FC เพื่อไทย’บุกพรรคยื่น5ข้อเสนอถอนตัวร่วมรัฐบาล ชี้ความขัดแย้งควรไปคุยในวงเจรจา ไม่ใช่เอาเพื่อนออกมาให้โดนถล่ม พร้อมน้อมรับตามมติพรรคตัดสินใจ ยันไม่ใช่เกมรับลูก ‘อนุสรณ์’ ลั่นไม่กลัวทัวร์ลง แต่กลัวทัวร์ไร้คุณภาพ บิดเบือนด้อยค่า
เมื่อเวลา 14.00น.ที่พรรคเพื่อไทย กลุ่มเสื้อแดง FCเพื่อไทย นำโดยนายนิยม นพรัตน์ หรือ เค เสื้อแดง พร้อมมวลชน นัดทำกิจกรรม ชื่อ ‘รวมพลคนเสื้อแดง กินมิ้นท์ช็อค’ เพื่อให้กำลังใจพรรคเพื่อไทยและยื่นข้อเรียกร้องต่อพรรคเพื่อไทย โดยมีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย เป็นผู้รับหนังสือ
โดยทางกลุ่มได้อ่านแถลงการณ์ ว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยถูกโจมตีด้วยข้อมูลเท็จจากกลุ่มพรรคการเมืองและ FC บางพรรคต่อเนื่อง มาจนถึงหลังการเลือกตั้ง ทางกลุ่มจึงเห็นว่าควรที่จะให้กำลังใจพรรคเพื่อไทย เพื่อให้พรรคได้รับทราบว่า ยังมีผู้สนับสนุนกว่า 10 ล้านเสียง
นอกจากนี้ ยังเห็นว่ามีกลุ่มคนบางกลุ่มพยายามบิดเบือนข้อมูลโจมตีพรรคเพื่อไทย จนเกิดความขัดแย้งกันขึ้นภายในพรรคร่วมรัฐบาล ทางกลุ่มมีความไม่สบายใจที่จะเดินหน้าต่อไปในบรรยากาศแบบนี้ ด้วยความระแวงแคลงใจ ไร้ซึ่งความให้เกียรติกันในพรรคร่วมรัฐบาล แบบนี้คงไม่มีผลดีต่อทุกฝ่าย
และเมื่อพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมองว่าพรรคเพื่อไทยเป็นอุปสรรคและปัญหาต่อการจัดตั้งรัฐบาลอ้างอิงธรรมเนียมปฏิบัติ ทางกลุ่มจึงต้องการให้พรรคเพื่อไทย ตระหนักว่า พรรคที่ได้อันดับ 2 ที่ผ่านมาไม่เคยมีธรรมเนียมจับมือร่วมรัฐบาล กับพรรคที่ได้อันดับ 1
ดังนั้นเพื่อลดความขัดแย้งดังกล่าวจึงมี 5 ข้อเสนอถึงพรรคเพื่อไทย
1. ให้ทบทวนถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลในครั้งนี้
2.ให้เกียรติพรรคอันดับ 1 ได้รวบรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลตามมารยาททางการเมือง
3.ให้โหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคที่ได้อันดับ 1
4.ให้โหวตสนับสนุนกระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ของประชาชน
5. ถ้าพรรคอันดับ 1 ไม่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลได้ ให้พรรคเพื่อไทยใช้สิทธิ์ในการเป็นพรรคอันดับ 2 รวบรวมเสียงข้างมาก เพื่อจัดตั้งรัฐบาลและนำนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชนมาผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปประธรรมต่อไป หรือแล้วแต่พรรคจะใช้ดุลพินิจเป็นอย่างอื่น
ทั้งกลุ่มขอให้พรรคเพื่อไทยพิจารณาข้อเสนอนี้หากพรรคตัดสินใจอย่างใดทางกลุ่มก็พร้อมน้อมรับและยืนยันว่าจะเคียงข้าง พรรคเพื่อไทยด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธาตลอดไป นายนิยม ระบุว่า
การมาในวันนี้เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยมีคนที่เคียงข้าง และการมาวันนี้หลักๆเพื่อมาให้กำลังใจพรรค แต่ถูกเอาไปตีข่าวบิดเบือนว่ามากดดันพรรค กลายเป็นว่าฝ่ายตนเองจะออกมาขับเคลื่อนอะไรไม่ได้เลยพอออกมาขับเคลื่อนก็กลายเป็นคนร้ายในสังคมนี้ ตนเองจึงไม่ยอมอีกต่อไป
ส่วนการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลจะไปต่อได้หรือไม่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียว แต่เป็นเรื่องของ8พรรคที่จะมีมติร่วมกัน ซึ่งทุกคนต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ใช่จะมาขี่คอพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว ถ้าเป็นแบบนี้เราจะไม่ยอม ส่วนจะมองว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคร่วมหรือไม่นั้น มองว่า หากมองเป็นเรื่องความขัดแย้งควรเอาไปคุยกันในโต๊ะเจรจา ไม่ใช่พูดคุยแล้วเอาเพื่อนออกมาให้คนอื่นโจมตีข้างนอก แบบนี้ไม่เป็นธรรมกับพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นเกมที่จะรับลูกกันหรือไม่ นายนิยม กล่าวว่า ไม่มีเกม และตนเองเป็นประชาชนที่สามารถทำได้ แล้วทำไมสื่อมวลชนไม่ตั้งคำถามกรณีของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ กับนายปิยบุตร แสงกนกกุล ที่ออกมาแสดงความเห็นทางเมืองแล้วบังคับพรรคโน้นพรรคนี้ ถามกลับหน่อยว่าเขาเป็นใคร
"ทำไมไม่ไปถามพี่ชูวิทย์บ้าง พี่ชูวิทย์ออกมาบอกว่าพรรคเพื่อไทยไม่ควรได้เก้าอี้ประธานสภา แต่ทำไมนักข่าวไม่ไปถามชูวิทย์แต่กลับมาตั้งคำถามกับผมที่เป็นประชาชน"
เมื่อถามย้ำว่า เหตุผลที่จะให้ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลคืออะไรนั้น นายนิยม ตอบว่า เราอยากให้ทุกพรรคทบทวน ว่าหากขาดพรรคใดพรรคหนึ่งไปแล้วจะเดินไปอย่างไร อันนี้คือเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของกลุ่ม ไม่ใช่โยนความผิด โยนบาปให้พรรคเพื่อไทยอย่างเดียว แล้วจะเดินหน้าต่อกันได้อย่างไร
“ผมยินดีที่จะให้พรรคเพื่อไทยสนับสนุนพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล เดินหน้าทำเพื่อประชาชน แต่ต้องเดินไปด้วยความมีเกียรติและศักดิ์ศรี หากวันใดที่เขาลดเกียรติของพรรคเพื่อไทย เราก็ควรจะถอนตัวออกมา”
นายอนุสรณ์ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่มีความเป็นสถาบันการเมืองและเป็นเสาหลักของประเทศไทย เรายึดมั่นมาตลอดว่าพรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน และวันนี้ตนมาเป็นตัวแทนรับเอากำลังใจ และรับหนังสือเพื่อนำเรียนไปตามขั้นตอนและพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าไม่กังวลว่าทัวร์จะลง แต่กลัวว่าทัวร์ที่มาลงจะเป็นทัวร์ที่ไม่มีคุณภาพ
ทั้งนี้มองว่า บนโลกเสรีประชาธิปไตยเราไม่จำเป็นต้องเห็นเหมือนกันทุกเรื่อง เห็นต่างกันได้ แต่การแสดงความคิดเห็นควรเป็นแบบสร้างสรรค์ ไม่มีการบิดเบือนหรือด้อยค่า กล่าวหาใส่ร้ายพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ยังได้รับคำแนะนำจากแฟนคลับว่าหลังจากนี้หากมีกระบวนการบิดเบือนใส่ร้ายพรรค ด้อยค่าพรรคเพื่อไทย ควรใช้กระบวนการฟ้องร้องเพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพ
"ผมเป็นคนเสื้อแดง และคงไม่ต้องบอกว่าคนเสื้อแดงสู้มากกว่าใคร สู้จริงกว่าใคร ขอใช้สิทธิคนเสื้อแดงคาราวะและขอบคุณประชาชนที่มาวันนี้"
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า การยื่นข้อเสนอถือเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่จะยื่นได้ และผู้ที่มายื่นหนังสือวันนี้ได้เปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทยใช้ดุลยพินิจว่าจะหน้าต่อไปอย่างไร
“วันนี้ขอเปรียบคนที่มายื่นหนังสือว่าเป็นคนที่ซื้อล็อตเตอรี่เลขท้าย 29 เมื่อเขาซื้อ 29 เขาก็มาตามดูว่านโยบาย สิทธิที่เขาพึงได้จากการซื้อ 29 จะดำเนินการต่ออย่างไร และเขายังตั้งข้อสังเกตุว่า มีคนที่ซื้อล็อตเตอรี่เลขอื่นที่ไม่ใช่29 ทำไมกลับมากดดัน ทั้งที่คุณไม่ได้ซื้อ29 มาตั้งแต่ต้น คุณซื้อเลขท้ายอะไรคุณต้องไปตามสิครับว่านโยบายทำได้หรือไม่ ตอนนี้ก็ไม่ได้ซื้อ29 แต่คุณกลับมากดดัน กดขี่ว่า 29 ต้องทำอย่างโน้นอย่างนี้ทั้งที่ไม่ได้ซื้อตั้งแต่ต้น"
จากนั้นนายนิยม กล่าวเสริม นายอนุสรณ์ ว่า ตอนนี้คนที่ซื้อเลข31 มาเอารางวัลของคนที่ซื้อล็อตเตอรี่29 แล้วไปแปะไว้ในเลข31ว่าถ้าซื้อแล้วจะได้แบบนี้ด้วย ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่ใช่ เพราะรางวัลนั้นเป็นของคนที่ซื้อ29 ไม่ใช่31 อันนี้หลอกประชาชน
เมื่อถามว่าหากเกิดเหตุการณ์บานปลายพรรคเพื่อไทยจะมีการพิจารณาถอนตัวหรือไม่ นายนายอนุสรณ์ กล่าวว่า การมายื่นหนังสือ กับการจัดตั้งรัฐบาลเป็นคนละประเด็นกัน และยืนยันว่า การแสดงความเห็นต่าง เป็นสิทธิที่ทำได้ พร้อมย้ำว่าจุดยืนของพรรคเพื่อไทยยังเหมือนเดิม
โดยบรรยากาศในวันนี้มวลชนต่างนำป้ายที่มีข้อความถึงข้อเรียกร้อง และการเสียดสี เช่น “เหลี่ยมทุกดอก บอกเพื่อนกัน” / “เพื่อนกันเขาไม่เอาไม่เอามีดจ่อหลังเพื่อน” / “เราไม่ชอบพวกหน้าไหว้หลังดอก” / “พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค ถอนเพื่อคนที่รัก พักไม่ได้แปลว่าแพ้” มาแสดงออกในการยื่นหนังสือด้วย