งามหน้า อดีตผู้สมัคร ส.ส.พปชร. แฉ “เสธ.ต” เบี้ยวเงินเลือกตั้ง
"อดีตผู้สมัครส.ส.พปชร." รวมตัวทวงค่าใช้จ่ายช่วงเลือกตั้ง หลังถูกเบี้ยวจาก "เสธ.ต" อ้างสนิท "ประวิตร" ด้าน “คมเดช” เผย ต้องขายวัวเป็นฟาร์ม ทำป้ายหาเสียง แต่โดนตัดท่อน้ำเลี้ยง ความจริงพรรคต้องได้คะแนนมากกว่านี้
กลุ่มรักลุงป้อม อดีตผู้สมัคร ส.ส.พปชร. ทั่วประเทศกว่า 20 คน เตรียมรวมพลทวงถามค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง หลังถูกเบี้ยวจากเสธ.ต คนดังในพรรค ซึ่งตัวแทนกลุ่มอ้างว่าเป็นคนสนิทของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและเตรียมเปิดข้อมูลต่อสื่อมวลชน เเต่ล่าสุด เมื่อถึงเวลานัดหมาย ปรากฏว่า เหลือเพียง นายคมเดช มัชฌิมวงศ์ อดีตผู้สมัครส.ส.เบอร์ 3 เขต 7 จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ เท่านั้น เนื่องจากเกิดความไม่ลงตัวเสียงเเตกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากพรรค เเต่อีกฝ่ายเชื่อว่ายังไงก็ไม่ได้เงินคืน ตนจึงเป็นตัวเเทนของผู้เสียหายในการเเถลงข่าวที่โรงแรมมิโด ย่านสะพานควาย-ประดิพัทธ์ 28พ.ค.ที่ผ่านมา
โดย นายคมเดช กล่าวว่า วันนี้มีการนัดหมายของอดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค พปชร. หลังจากเสร็จการเลือกตั้ง ก็มีการนัดหมายกัน สาเหตุเพราะมีปัญหาในเรื่องของ การช่วยเหลือ เรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วมองว่าลุงป้อมเป็นคนที่น่าเคารพนับถือ เเต่คนที่ประสานงานข้างๆลุงป้อมที่ได้รับมอบหมายให้เดินเกมกลับทำผิดพลาดกับผู้สมัคร
วันนี้ที่ไม่ได้มาร่วมกัน เพราะบางคนติดภารกิจอยู่เเละอาจจะกลัว ส่วนตนไม่ได้กลัว ไม่ได้อยากทำลายพรรคหรือใคร เเต่ตนออกมาพูดเพราะ การที่ตนไปลงสมัครในเขตของตน ก็ได้มีการประสานจากพรรค ว่าจะช่วยเหลือในขั้นพื้นฐานอย่างไรบ้าง เเล้วพอมาวันนี้ ไม่ได้ตามเกณฑ์ที่ได้คุยไว้ ก็มีคนเดือดร้อน เพราะมีค่าใช้จ่ายตามกติกาของกกต. ซึ่งตนต้องใช้งบของตัวเอง เเละเชื่อว่าทุกคนที่ลงสมัคร ส.ส. ต้องเสียค่าใช้จ่ายเองในการทำป้ายหาเสียง
ส่วนตนต้องขายวัวเป็นฟาร์มๆ เพราะ ว่าผู้ประสานงาน เสธ ต. มาพูดว่า จะช่วยเหลือภายหลังเเต่สุดท้าย รับปากเปล่าๆ ทั้งภาค เหนือใต้ อีสาน ทำให้พรรคเสียหาย ความจริงพรรคควรจะได้คะแนนมากกว่านี้ เเต่เป็นเพราะถูกตัดท่อน้ำเลี้ยง
เงินที่ควรจะให้ผู้สมัครกลับถูกตัดหัวคิว คนที่มาวันนี้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่ยอม” พล.อ.ประวิตร เป็นคนน่านับถือ คงไม่รู้ พรรคก็ดี เเต่คนข้างกายทำให้พรรคเสียหายอย่างมากผู้สมัครที่มาวันนี้อยากมาเจรจาแบบลับๆ ก็ได้ไม่มีปัญหา เเต่วันนี้ที่สื่อมา เพราะอยากให้เป็นกระบอกเสียง ว่าเราถูกทอดทิ้ง ไม่ได้จะทำลายพรรค อยากให้ผู้ใหญ่เห็นด้วยว่าเกิดปัญหาอะไรต้องแก้ปัญหาด้วย ให้สังคมรับรู้ จะได้เป็นผลดีกับพรรค พปชร. ในอนาคตที่จะต้องโตขึ้นไปอีก
ตนมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับทุกคน ไม่ว่าเหนืออีสานใต้ ที่โดนกระทำ คนที่กระทำ คือเสธ ต. ขอให้หันมาดูด้วย อย่ามาโกรธตน เพราะทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เรื่องนี้มีนอกมีในอยากจะให้มีการมาพูดคุยกัน ตอนนี้ก็รออยู่เพื่อหาทางออกที่ดี พูดคุยกันรู้เรื่องก็ไม่มีปัญหา ถ้าจบ เรื่องก็ปกติ ตนยังเคารพ พรรคพปชร. และยืนยันว่าจะอยู่พรรคนี้พรรคเดียว ซึ่งผู้ใหญ่ต้องลงมาเคลียร์ ไม่ใช่ว่าเสร็จการเลือกตั้งเเล้วยังทำเฉย
"ก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยกันเเล้วภายในพรรคว่า เเต่ละภาคใครรับผิดชอบ เเต่เสธ ต. อยู่เหนือกว่าทุกคน ทำให้งานผิดพลาด พปชร. น่าเสียดายที่มอบหมายให้คนแบบนี้มาดูแลการเลือกตั้งตนอยากให้เสียงตรงนี้ ดังไปถึงลุงป้อม เพราะ ลุงป้อมเป็นคนที่เขานับถือกันทั้งประเทศ เป็นคนใจถึง ใจดี รับฟังเหตุผลคน ถ้าลุงป้อมรู้ว่าคนข้างกายทำแบบนี้ จะต้องให้ผู้ใหญ่ที่มีความเป็นธรรมลงมาเเก้ไขเเน่นอน ถ้าผู้ใหญ่ให้ความเป็นธรรมจริงๆ เเต่ตนมองว่าน่าจะ 50/50 ไม่รู้ว่าจะตกลงกันยังไง เเต่เชื่อว่าผู้ใหญ่คงจะเมตตาอดีตผู้สมัครที่สอบตกทั้งหลาย" นายคมเดช กล่าว
การที่ตนออกมาร้องเรียนในวันนี้ ถ้ามองให้ดีไม่ได้เป็นผลลบกับพรรคเลย ผิดเเค่คนประสานเท่านั้น พรรคไม่น่าจะเกี่ยว ตนเเค่อยากจะบอกให้รู้ว่า ที่เเพ้เพราะอะไร ทั้งๆ ที่จริงๆ กระแสพวกตนในเเต่ละเขตดีมาก เเต่การตัดท่อน้ำเลี้ยงทำให้ได้คะแนนน้อย ทั้ง ส.ส.เขตเเละ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อย่างของตนบ้านอยู่เขต 8 มีฐานคะแนนอยู่นั่น แต่ เสธ ต. ผู้ประสานงานก็ให้ตนไปลงสมัคร เขต 7 ทำให้เเพ้คะแนนเสียง ส่วนเสธ ต. ที่รับปากตน ว่า ไม่ต้องห่วงให้ตนไปลงเขตอื่นตนก็ขอฝากเสธ ด้วยว่า ทหารพูดเล้วทำ ไม่ใช่พูดเเล้วตลบตะแลง เพราะตอนที่มาตกลง เขามาคุยกับตน เพราะได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ในพรรคในภาคใต้ อ้างตัวว่าเป็นคนของลุงป้อม ก็ไม่มีใครกล้าเเย้ง
"ตอนเเรกที่ดีลกัน บอกว่าให้มาพบเป็นระยะ มารับเงินเป็นช่วงๆ จ่ายเป็นงวด ตามระเบียบกฎหมายของ กกต. เเต่กลับมีนอกมีใน พวกผู้สมัครก็ไม่กล้าพูด เพราะเขาอยู่ใกล้ตัวลุง ตนสงสารลุงมาก ถูกเบี้ยวเงินทำให้ไปไม่ถึงฝั่งฝัน" นายคมเดช กล่าว
ตนได้ติดต่อไปทางพล.อ.ประวิตร เเล้ว เเต่เขาบอกว่าไม่ว่าง เหมือนพวกตนถูกพยายามกีดกันไม่ให้ใครเข้าพบ พล.อ.ประวิตร โดยส่วนตัว ยังเคารพ เหมือนเดิม แต่เสียดายที่คนข้างกายไม่ได้เรื่อง ถ้าพูดคุยเจรจาไม่ลงไม่ได้อีกจะมีมาตรการ ขอให้สื่อช่วย เพราะตนมีก็กันไม่กี่คน กลัวว่าจะไม่ถึงหูพล.อ.ประวิตร ถ้าเขาได้ยิน ตนมั่นใจว่า อยากเตือนว่า อย่าทำลายพล.อ.ประวิตร ตนเชื่อว่าไม่นานความลับจะถูกเปิดเผย ยืนยันว่าจะยังอยู่กับพรรคต่อไป