‘ประเสริฐ’ รอคุย ‘ก้าวไกล’ เคลียร์ประธานสภาฯเผยยังไม่ถกแบ่งโควตารัฐมนตรี
‘ประเสริฐ’ รอคุย ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ เคลียร์ปมเก้าอี้ประธานสภาฯ เผยยังไม่ถกแบ่งโควตารัฐมนตรี ส่อหักอกแฟนคลับเสื้อแดง เดินหน้าหนุน ‘พิธา’ ต่อ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย มายื่นหนังสือเรียกร้องให้พรรคถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ว่า ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่ากลุ่มคนเสื้อแดง เป็นกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์ และต้องการเห็นบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ แต่อย่างไรก็ตามทางกลุ่มก็มีสิทธิที่เสนอความเห็นต่างต่อพรรคได้
“แต่พรรคเพื่อไทย ก็มีหน้าที่ที่บริหารความต่างให้เป็นความเห็นร่วมกัน ตามที่หัวหน้าพรรคได้ให้ความเห็นไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนจะหยิบยกเข้ามาพูดคุยหรือไม่นั้น ทุกความเห็นจะนำไปสู่การหารืออยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามพรรคยังยืนยันว่า จะดำเนินตามเจตนารมณ์ในที่ลงไว้ใน MOU ที่จะสนับสนุนพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี” นายประเสริฐ ระบุ
เมื่อถามถึงกรณีตำแหน่งประธานสภา และการตำแหน่งคณะรัฐมนตรีนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) ที่พรรคประชาชาติ จะมีการพูดคุยกัน และเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทย กับ พรรคก้าวไกล คุยกัน 2 พรรคเท่านั้น และจะไม่เกี่ยวกับพรรคร่วมอื่นๆ
เมื่อถามย้ำถึงกรณีของเรื่องตำแหน่งประธานสภา นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย โดยย้ำว่าตำแหน่งนี้จะเป็นของพรรคเพื่อไทย แต่พรรคก้าวไกลยังไม่ได้ตอบรับ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล ตอบกลับมาว่า ขอเวลาอีก 2-3 วัน จะได้ความชัดเจนและจะมีการพูดคุยถึงเรื่องนี้อย่างแน่นอน แต่เรื่องนี้ก็อยากให้เอาเหตุผลมาคุยกัน ว่าในเมื่อพรรคก้าวไกล ได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว ประธานสภาก็น่าจะเป็นของพรรคเพื่อไทยมาทำหน้าที่ ได้หรือไม่
เมื่อถามว่าในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) จะได้ข้อสรุปเรื่องประธานสภาเลยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ขอคุยกันให้ตกผลึกก่อน
ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธเรื่องดีลลับที่นายชูวิทย์ กลมวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ว่าดีลลับดับก้าวไกลตั้งรัฐบาลนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้พูดมาหลายรอบแล้วในกรณีนี้ว่า ไม่มีดีลลับอย่างแน่นอน และยังคงยืนยันเจตนารมณ์ที่เคยให้ไว้ตั้งแต่หลังผลการเลือกตั้งออกมา ไม่มีดีลไม่มีอะไรทั้งสิ้น
“สำหรับข่าวที่ออกมาในช่วงเวลาต่อเนื่องนั้น ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงออกมา และมีวัตถุประสงค์อะไร และขอให้ดูการกระทำมากกว่าคำพูด แต่ไม่อยากมองว่า เป็นการรับงาน เพื่อมาโจมตีพรรคเพื่อไทย”