ผบ.ทบ. ย้ำเอาผิด ผู้บังคับบัญชา ผบ.กองพล ถึง ครูฝึก เซ่น พลทหารเสียชีวิต
ผบ.ทบ. คาดโทษผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่ครูฝึก- ผบ.กองพล บกพร่องไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน ทบ.ให้ไว้ ทำพลทหารเสียชีวิต ในขณะ 298 หน่วยทำได้ พร้อมดูแลครอบครัวผู้สูญเสีย
7 มิ.ย.2566 พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิด ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพื่อดูแล ส่งเสริมพัฒนาการ เรียนรู้ บุตรก่อนวัยเรียนของกำลังพล ถึงกรณี ที่ทหารเกณฑ์ สังกัด ม.พัน 27 พล ม.2 รอ. ถูกทำร้ายร่างกาย จนเสียชีวิต ว่า เรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นในหน่วยทหารหากออกมาเป็นข่าว แล้วก็ตั้งคณะกรรมการสอบสวนอยู่แล้ว และลงโทษตามระเบียบทุกอย่าง ต้องสอบสวนข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า แม้จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และลงโทษ แต่การลงโทษพลทหารจนเสียชีวิตมีมาเป็นระยะ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ทุกอย่างไม่มีอะไรร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็มีโอกาส ซึ่งก็ทราบ ว่าเขาเสียชีวิต โดยเฉพาะในเรื่องของอุณหภูมิร่างกาย เรื่องฮีสโตรก การออกกำลังกายอะไรมากเกินไป ก็ต้องตรวจสอบตลอดเวลาในทุกหน่วย ซึ่งปกติหน่วยฝึกทหารใหม่กองทัพบกมี 299 หน่วย ส่วนใหญ่ ก็รักษามาตรฐานได้ แต่กรณีส่วนดังกล่าวเราก็ต้องกลับมาทบทวน และมาเน้นย้ำกับหน่วยนี้โดยเฉพาะ ว่ามาตรการที่กองทัพบกได้ออกไป มี 298 หน่วยที่ รักษามาตรการที่เรามีนโยบายลงไป หน่วยนี้ก็ต้องถูกสอบสวนแล้วถูกดำเนินการทางวินัยว่า ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นไม่สามารถรักษาหรือควบคุม นโยบายของกองทัพบก ที่ได้ให้ไว้
เมื่อถามว่าจะทำความเข้าใจกับญาติพี่น้องของพลทหารอย่างไร พลเอกณรงค์พันธ์ กล่าวว่าเราก็ต้องยอมรับข้อเท็จจริง สิ่งที่เกิดขึ้นจริงเราก็ต้องยอมรับ ถ้าคนของเราบกพร่อง ต้องถูกลงโทษตามระเบียบวินัย ส่วนครอบครัวผู้ดสียชีวิต ไปดูมีสิ่งใดที่เราจะสามารถชดเชยได้
" แต่ละหน่วยไม่ต้องปรับปรุงอะไรเพียงแต่ให้ปฏิบัติตาม นโยบายของกองทัพบก ที่ได้ให้ไว้ อย่างที่บอกว่ามี 299 หน่วย อีก 298 หน่วยสามารถทำได้ แต่มีเพียง 1 หน่วยที่เกิดปัญหาขึ้นมา เราก็ต้องเพ่งเล็งกับหน่วยนี้ ทั้งนี้เชื่อว่าผู้บังคับบัญชาเขาก็ดูแลอยู่แล้ว แต่เนื่องจากว่าทุกคนมีภารกิจมีหน้าที่เป็นของตัวเอง หน่วยฝึกก็มอบให้เป็นผู้ฝึก เป็นหน่วยที่รับผิดชอบ จากผู้ฝึกก็เป็นหน่วยฝึก และผู้อำนวยการฝึก ผู้พันหรือผู้การ หรือ ผบ.กองพล ตามลำดับ ซึ่งเขาจะต้องรับนโยบายกองทัพบกเพื่อไปดำเนินการ กำกับดูแลในส่วนของผู้ปฏิบัติที่อยู่ใกล้ชิดทหาร ก็ต้องว่ากัน เกิดข้อผิดพลาดตรงนั้น เป็นความบกพร่องของใครที่ต้องรับผิดชอบ"
เมื่อถามว่า ต้องเรียกความเชื่อมั่นในเรื่องของการสมัครใจเป็นทหารหรือไม่พลเอกณรงค์พันกล่าวว่า กองทัพบกก็เรียกความเชื่อมั่นมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมา ก็พอใจกับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน อย่างการเปิด หน่วยทหาร เพื่อเปิดเผยตัว เราให้ประชาชนได้เห็น ว่าเราเป็นเช่นนี้และปรับแนวทาง ในการที่จะสร้างความเชื่อมั่นว่าลูกหลานมาอยู่จะได้อะไร จากกองทัพบกโดยเฉพาะจุดประสงค์ของกองทัพบกก็คือ 1 ทุกคนต้องทำงานเพื่อประเทศชาติ 2 เมื่อทุกคนอยู่กองทัพบกและปลดออกไปแล้ว อย่างน้อยก็มี 2 แนวทางที่จะเดิน สามารถไปต่อยอดเป็นทหารนักเรียนนายสิบก็แล้วแต่ หรือ ฝึกวิชาชีพให้ไปทำงานได้ ซึ่งมีหลายบริษัทที่เราดึงเข้ามา ที่จะสนใจ นำทหารไปทำงาน