‘เศรษฐา’ไม่รู้ข่าวครอบครัวเบรก‘ทักษิณ’กลับ-ชี้‘แพทองธาร’เหมาะนั่งนายกฯ
‘เศรษฐา’บอกไม่รู้ข่าวครอบครัวชินวัตรเบร‘ทักษิณ’กลับไทย พร้อมค้าน‘แพทองธาร’ นั่งนายกฯ ชี้เป็นหญิงเก่งเหมาะเป็นผู้นำได้ ปัดแต่งตัวรอเสียบนั่งนายกฯ แทน “พิธา” ขอให้กำลังใจตั้งรัฐบาลสำเร็จ
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวครอบครัวชินวัตร นัดหารือกัน โดยเห็นว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ยังไม่เหมาะสมดำรงตำแหน่งนายกฯในช่วงเวลานี้ พร้อมคัดค้านการกลับไทยของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงเดือน ก.ค. ว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องที่ครอบครัวชินวัตร เบรกนายทักษิณ กลับประเทศไทย โดยขอให้ไปถาม น.ส. แพทองธาร ชินวัตร เพราะตนเองมีหน้าที่ทำงานด้านเศรษฐกิจให้กับพรรคเพื่อไทยเท่านั้น
ส่วนที่ครอบครัวชินวัตร บอกว่านางสาวแพทองธาร ยังไม่เหมาะสมนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ และสนับสนุนให้นายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา กล่าวว่า นางสาวแพทองธาร มีความเหมาะสม เป็นผู้หญิงที่เก่ง ซึ่งจากการลงพื้นที่ที่ผ่านมาทุกคนก็เห็นผลงานแล้ว และเชื่อว่ามีวุฒิภาวะมากพอ ไม่เช่นนั้นไม่ได้การรับรองจากคณะกรรมการบริหารพรรคให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย
นายเศรษฐา ยังระบุว่า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้ทาบทามตนเองเข้าไปร่วมในคณะทำงาน และตนเองไม่ได้โฟกัสเรื่องคณะทำงาน หรือการจัดตั้งรัฐบาล โฟกัสเพียงแค่งานในพรรคเพื่อไทยเท่านั้น แต่ก็จะคอยเป็นกำลังใจให้ เพราะเป็นฝ่ายประชาธิปไตยเหมือนกัน และขออวยพรให้ประสบผลสำเร็จ
ส่วนหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายเศรษฐาพร้อมที่จะไปทำหน้าที่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่เคยคิด เป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลที่ต้องเดินหน้า อีกทั้งพรรคก้าวไกลเป็นพรรคอันดับ 1 จึงต้องให้เกียรติพรรคก้าวไกลในการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล พร้อมย้ำไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาล หรือคณะทำงาน
ขณะที่การรีแบรนด์พรรคเพื่อไทย ยังคงเดินหน้าตามขั้นตอน ขอเวลาทำงานสักหน่อย และความจริงก็มีการพัฒนาอยู่ตลอด หากมีความคืบหน้าจะมาแถลงต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง ซึ่งหลังกลับจากต่างประเทศ ก็ถือว่าได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และพร้อมกลับมาทำงานต่อ
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมฟ้องกลับอดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน นายสนธิญา สวัสดี ที่ไปร้องยุบพรรคเพื่อไทย หลังชะลอนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ เป็นไปถามฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย ตนเองเห็นแค่ตามข่าวเท่านั้น