ศรีสุวรรณ ลุยต่อไม่สนสมาคมฯโดนยุบ ร้องเรียนในนาม ปชช.ผู้รักชาติรักแผ่นดิน
'ศรีสุวรรณ' เปลี่ยนตำแหน่งเป็น ประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน ลั่นไม่เคยท้อหรือกังวล เตรียมยื่นอุทธรณ์ คำสั่งยุบทิ้งสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินหน้าตรวจสอบต่อล้านเปอร์เซ็น เผยเตรียมใจนานแล้ว ไม่สน 'พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์' ส่งทนายร้องยุบสมาคมฯ
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566 นาย ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงกรณีมีหนังสือ อธิบดีกรมการปกครอง นายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร สั่งเพิกถอนคำสั่งรับจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ว่า ไม่เป็นไร ให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งตนไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว โดยขั้นตอนของพ.ร.บ. วิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง ถือเป็นคำสั่งทางปกครองสามารถใช้สิทธิ์อุทธรณ์ภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งอาจจะเป็นภายในระยะเวลา 15 วัน หากชี้แจงได้อธิบดีฯ อาจจะสั่งยกคำสั่งดังกล่าวนี้ได้
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ขอดูในรายละเอียดว่ามีคำสั่ง มีข้อหา หรือประเด็นอะไรบ้างที่ขัดข้องหมองใจของอธิบดีฯ โดยในสัปดาห์นี้จะมีการเรียกประชุมทีมนักกฏหมายของสมาคมฯ เพื่อปรึกษาหารือกัน ส่วนประเด็นที่ระบุว่ามีการแอบอ้างรายชื่อบุคคลอื่นนั้น ยืนยันว่าไม่มีการแอบอ้าง ล่าสุดตนได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับนายกสมาคมฯ ได้บอกว่า ทุกคนต่างเป็นตัวจริง เพียงแต่หลายคนอาจจะมีอายุมาก 70-80 ปี อาจจะหลงลืม ๆ ว่าได้มาประชุมร่วมกันจริงหรือไม่ เพราะผ่านมาหลายสิบปีแล้ว หลายคนเลยให้ถ้อยคำกับพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้มีการโทรศัพท์ไปสอบถามในลักษณะพูดไปให้จบ ๆ บางทีคนแก่แล้วหูตึงบ้างอะไรบ้าง
ดังนั้นตนจึงบอกนายกสมาคมฯ ให้คณะกรรมการที่ได้ให้ถ้อยคำกับเจ้าพนักงานอาจจะผิดไป ยืนยันว่าได้รู้ ได้ร่วมประชุม รับทราบการจัดตั้งสมาคมฯ อย่างแท้จริง โดยทำเป็นหนังสือยืนยันมา หากทำได้ในลักษณะนี้ ก็จะได้มีการไปยืนยันต่ออธิบดีฯ ซึ่งคิดว่าเรื่องน่าจะจบเรียบร้อย ยืนยันว่าแม้เกิดเรื่องดังกล่าวนี้ก็ไม่เป็นไร ถึงจะมีการยุบสมาคมฯ ตนยังเคลื่อนไหวในนามของ “ศรีสุวรรณ” ได้ตลอดเวลา
ส่วนเรื่องนี้มีมูลเหตุจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส่งทนายร้องยุบสมาคมฯ นั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดา เรามีการยื่นตรวจสอบนักการเมืองอาจจะทำให้นักการเมืองเขาโกรธเคือง รวมถึงแฟนคลับของนักการเมืองโกรธเคือง ถือเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งตนรู้ตัวและมีการเตรียมตัวเตรียมใจมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า การเดินหน้าทำหน้าที่ตรวจสอบนั้น ตนไม่เคยท้อเพราะมีการเตรียมตัวเตรียมใจกับเรื่องเหล่านี้มาตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งยอมรับว่าต้องมีแรงเสียดทาน ไม่ว่าจะจากทางไหนก็แล้วแต่ ทั้งนี้หลายคนอาจจะไม่รู้และไม่เข้าใจ คิดว่าเป็นเรื่องสนุก ซึ่งการทำหน้าที่ของตนเป็นเรื่องที่มีแรงเสียดทานมีแรงกดดันมาก เพราะเราแตะต้องกับคนที่มีอำนาจรัฐ นักการเมืองบิ๊ก ๆ
ดังนั้นการทำงานจึงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่อย่างไรก็ตามตนยังยืนยันที่จะทำหน้าที่ในส่วนนี้ต่อไป แต่จะเป็นในนามไหน หรือไม่จำเป็นต้องทำในนามไหนก็ได้ ส่วนจะเป็นการปิดปากตนหรือไม่นั้น ก็คงจะเป็นความพยายามปิดปากตน แต่อย่างไรก็คงปิดปากตนไม่ได้อยู่แล้ว เพราะโดยกฎหมาย โดยรัฐธรรมนูญไม่จำเป็นที่จะต้องมีตำแหน่ง มีองค์กรรองรับ ก็สามารถทำในนามของบุคคล ในนามประชาชนได้
"ยืนยันจะยังคงทำหน้าที่ต่อ 100% 1,000% ล้านเปอร์เซ็นต์ ในการตรวจสอบพรรคการเมืองตรวจสอบนักการเมือง ตรวจสอบข้าราชการระดับสูงที่กระทำการโดยมิชอบตามกฎหมายต่อไป และจะหนักข้อยิ่งขึ้นในการทำหน้าที่" นายศรีสุวรรณ กล่าว
สำหรับการทำงานที่ผ่านมาได้มีการถูกทำร้าย 2 รอบนั้น เรื่องนี้ทำให้เราต้องระมัดระวัง ละเอียดรอบคอบในการทำงานมากขึ้น แต่ยืนยันว่าไม่ได้กังวลอะไร
ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2566 มีความเคลื่อนไหวจาก นายศรีสุวรรณ จรรยา ที่ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ศรีสุวรรณ ยังยืนหยัดที่จะทำหน้าที่ร้องตรวจสอบนักการเมือง-พรรคการเมืองเหมือนเดิม เพื่อประโยชน์สาธารณะ สะกดคำว่าท้อถอยไม่เป็นครับ"
โดยนายศรีสุวรรณ ได้เปลี่ยนตำแหน่งจากเดิม "เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย" เป็น "ประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน" ในการยื่นหนังสือต่อกองบัญชาการสอบสวนกลาง(บช.ก.) เพื่อร้องทุกกล่าวโทษผู้ที่มีพฤติการณ์หรือกระทำการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ กรณีที่มีการจัดเสวนาเปิดตัวองค์กรขบวนนักศึกษาแห่งชาติ ( Pelajar Kebangsaan Patani ) โดยกลุ่มเครือข่าย PerMAS เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 66 ที่ มอ.ปัตตานี ที่ผ่านมา