ปูนบำเหน็จ 8 ขั้น ส.ต.ต. เลื่อนยศเป็น พ.ต.ท. พลีชีพเหตุลอบยิงคาป้อมทางรถไฟ
สดุดีตำรวจกล้า ส.ต.ต.พิจักษณ์ บัวแก้ว พลีชีพจากการปฏิบัติหน้าที่จังหวัดชายแดนใต้ เสนอปูนบำเหน็จ 8 ขั้น เลื่อนยศเป็น "พ.ต.ท." พร้อมเยียวยาครอบครัว 2.9 ล้าน
วานนี้ (11 มิ.ย.66) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากเหตุการณ์เมื่อ 10 มิ.ย.66 เวลา 12.25 น. ได้มีกลุ่มคนร้าย ขี่รถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ป้อม ถนนพาดรถไฟ ขณะเข้าเวรรักษาความปลอดภัย บริเวณป้อมถนนพาดรถไฟ หมู่ 1 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้ ส.ต.ต.พิจักษณ์ บัวแก้ว ผบ.หมู่ นปพ.สภ.นาประดู่ ปฏิบัติหน้าที่ มว.ฉก.นปพ.ปน.13 อายุ 22 ปี เสียชีวิต 1 นาย
เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในขณะที่ ส.ต.ต.พิจักษณ์ กำลังปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ของการรถไฟ ที่กำลังทำหน้าที่ภายในป้อมทางข้ามรถไฟ เพื่อรอเปิดสัญญาณปิดกั้นทางรถไฟ ปรากฏว่า มีคนร้ายจำนวน 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คัน พร้อมอาวุธปืนยาว 2 กระบอก อาวุธปืนสั้น 1 กระบอก มีหนึ่งในคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายแต่งกายด้วยชุดผู้หญิงปิดหน้าเข้ามาจอดใกล้จุดเกิดเหตุ แล้วใช้ปืนกระหน่ำยิง ก่อนที่คนร้ายจะลงจากรถและเข้าไปขโมยปืนของเจ้าหน้าที่ไป 1 กระบอกแล้วเร่งเครื่องหนี
หลังทราบเหตุ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการได้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล. ผบช.ภ.9 เร่งสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว พร้อมกำชับเพิ่มความเข้มมาตรการดูแลความปลอดภัย สถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ พร้อมสั่งการให้ผู้บังคับบัญชา และสำนักงานกำลังพล ดูแลสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่
จากนั้น พล.ต.ขจรศักดิ์ อินทร์ทอง ผบ.ฉก.ปัตตานี และ พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี นำกำลังชุดปฏิบัติการณ์ร่วมและชุดสืบสวนเข้าที่เกิดเหตุ ให้จัดกำลังไล่ล่าคนร้ายตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพอที่จะรู้เบาะแสคนร้ายแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากต้องรอผลตรวจสอบจากพยานหลักฐานให้ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบชุดเดิมที่อยู่ในสารระบบคดีความมั่นคง
ในส่วนของการช่วยเหลือเยียวยาดูแลสิทธิประโยชน์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้เสนอ ปูนบำเหน็จ ความดีความชอบตอบแทนเป็นกรณีพิเศษ โดยขอเลื่อนเงินเดือนให้ 8 ขั้น, ขอพระราชทานยศเป็น "พ.ต.ท." การช่วยเหลือบรรจุทายาท รวมทั้งมีการให้เงินช่วยเหลือดูแลในส่วนของสิทธิประโยชน์อื่นๆ ทั้งของผู้เสียชีวิตและครอบครัวจำนวน 2,927,235 บาท
โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ผบ.ตร.ขอสดุดีและแสดงความเสียใจต่อครอบครัว ส.ต.ต.พิจักษณ์ บัวแก้ว ที่สูญเสียตำรวจกล้า เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ เป็นวีรกรรมที่กล้าหาญ ถือเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับการช่วยเหลือ เยียวยา ดูแลสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ ให้สมกับสิ่งที่ ส.ต.ต.พิจักษณ์ ตำรวจกล้าได้ปฏิบัติหน้าที่เสียสละเพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ