“โฆษกรัฐบาล” เผย ตำรวจ-ทหาร-ปกครอง พร้อมปฏิบัติตาม “พ.ร.บ.อุ้มหาย” แล้ว
“โฆษกรัฐบาล” เผย ที่ประชุมครม. รับทราบถึงการบังคับใช้ “พ.ร.บ.อุ้มหาย” หลัง ติดขัดไม่มีอุปกรณ์ถ่ายวีดิโอ ตอนจับกุม-สอบสวน จนศาลฯ ชี้ ออกพ.ร.ก. ยืดเวลาบังคับใช้ ขัดรัฐธรรมนูญ แนะ เร่งปฏิบัติ ระบุ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตำรวจ-ทหาร-ฝ่ายปกครอง พร้อมแล้ว
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรณีพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการซ้อมทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย (พ.ร.บ.อุ้มหาย) โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงประเด็นการประกาศใช้พ.ร.บ.ดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ภายหลังเริ่มใช้บังคับ เมื่อ22 ก.พ.66 แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานว่าการให้ถ่ายวีดิโอจับกุม และการสอบสวนจนจบมีปัญหา รวมถึงงบประมาณและการประมูลจัดหาอุปกรณ์ที่ล่าช้า ขาดคลังเก็บข้อมูล และขาดการพูดคุยทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ โดยในวันที่ 19ก.พ.66 ก่อนพ.ร.บ.มีผลบังคับใช้ จึงมีการออกพ.ร.ก.ขยายเวลาบังคับใช้ มาตรา 22-25 ไปถึงวันที่ 1 ต.ค.66
นายอนุชา กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สภาผู้แทนราษฎร ยังไม่ทันจะได้พิจารณาก็มีมติให้ส.ส.จำนวนหนึ่งส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ วิจิจฉัย ต่อมา เมื่อ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ศาลฯมีมติ8:1 การออกพ.ร.ก.ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ม.172 ผลทางกฎหมายคือ พ.ร.บ.ดังกล่าว ก็กลับไปมีผลใช้บังคับตั้งแต่ 22 ก.พ.66 แต่สิ่งใดที่ทำไปตามกฎหมายระหว่างนั้นถือว่าสมบูรณ์แล้วเพราะฉะนั้น ความรับผิดตามกฎหมายต่างๆ จึงไม่มีความรับผิดใดๆ ที่จะต้องดำเนินการ
นายอนุชา กล่าวว่า ในส่วนของการเมือง หากสภาไม่เห็นชอบ พ.ร.ก. ตามที่รัฐบาลส่งไป อาจต้องมีการรับผิดชอบทางการเมืองในภาวะปกติ แต่ปัจจุบันนี้มีการยุบสภามีผลเกิดขึ้นแล้วครม.ปัจจุบันก็อยู่ในช่วงรอการฟอร์มรัฐบาล หรือจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จึงไม่ถือเป็นการขัดแย้งกันระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติแต่อย่างใด ไม่ใช่เรื่องกรณีที่สภาไม่ไว้วางใจทางรัฐบาลแต่อย่างใด
“สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป คือศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีคำแนะนำให้เร่งปฏิบัติตามพ.ร.บ.ดังกล่าวซึ่งในการประชุมคณะกรรมการที่ตั้งตามพ.ร.บ. เมื่อ 31 พ.ค.66 ก็ได้มีการพูดถึงประเด็นต่างๆ ที่ต้องดำเนินการตามคำแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญ ในระหว่างการพิจารณาของศาลฯ กว่า 3 เดือนช่วงนั้นหน่วยงานต่างๆ เตรียมดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของพ.ร.บ.แล้ว กว่า60% การติดตามการดำเนินการของตำรวจ มหาดไทย หรือฝ่ายปกครอง กลาโหม อัยการ ตอนนี้พร้อมปฏิบัติตามพ.ร.บ.อุ้มหาย เรื่องของงบประมาณตอนนี้มีเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์แล้ว จากนี้ต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้งานต่างๆ ตามกฎหมายดำเนินการได้ไม่เป็นอุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น ที่ประชุมก็ได้รับทราบ” นายอนุชา กล่าว