"2ว่าที่ส.ส.ชพก." ปัดตอบโหวตหนุน "พิธา" รอฟังมติพรรค-เคลียร์ปมคุณสมบัติ
"วรรณรัตน์-ประสาท" รอฟัง กกต. รับรองผลเลือกตั้งก่อนไปรายงานตัวต่อสภาฯ ปัดตอบโหวตให้ "พิธา"เป็นนายกฯหรือไม่ แม้เป็นเอกสิทธิ์ แต่ต้องรอฟังมติพรรค พ่วงเคลียร์ปมคุณสมบัติ
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนากล้า ฐานะว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนากล้า ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ในวันที่ 21 มิถุนายน นี้ว่าขณะนี้ ตนได้เตรียมเอกสารและส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อไปรายงานตัวต่อสภาฯ ทั้งนี้ยังไม่ได้กำหนดวันว่าจะเป็นวันใด เพราะต้องรอให้ กกต. ประกาศรับรองผลเลือกตั้งและรับรอง ส.ส.อย่างเป็นทางการอีกครั้ง และหลังจากที่ กกต. รับรองผลเลือกตั้งแล้ว แกนนำพรรคจะนัดหารือกันอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการลงมติเลือกนายกฯคนใหม่ ที่พรรคร่วมเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคก้าวไกล นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า แม้ว่า ส.ส.จะมีเอกสิทธิในการลงมติ แต่ด้วยความเป็นพรรคการเมืองต้องปรึกษาหารือกันอีกครั้ง
เมื่อถามว่ามีข้อเสนอจากฝ่ายนักวิชาการให้ ว่าที่ส.ส.ที่แม้ไม่ได้ร่วมรัฐบาล โหวตให้นายพิธา เพื่อประคับประคองประชาธิปไตย นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า ในหลักการตามที่แกนนำพรรคเคยแถลงไปแล้ว คือ ต้องให้โอกาสพรรคที่ได้คะแนนอันดับหนึ่ง พิจารณาจัดตั้งรัฐบาล แต่ในรายละเอียดอื่นต้องหารือกันในพรรคอีกครั้ง
ถามย้ำว่ากรณีที่นายพิธา มีประเด็นคุณสมบัติที่ถูกตรวจสอบจะเป็นปัญหาที่ไม่ได้รับคะแนนสนับสนุนหรือไม่ นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า ในเรื่องคดีตนไม่ทราบข้อเท็จจริง ส่วนจะกระทบเรื่องลงมติหรือไม่ ตนไม่ทราบ
ขณะที่ นายประสาท ตันประเสริฐ รองหัวหน้าพรรค ฐานะ ว่าที่ส.ส.นครสวรรค์ พรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึงกรณีที่คาดว่าจะเป็น 1 ในว่าที่ ส.ส.ล็อตแรกที่ กกต.รับรองผลเลือกตั้ง ว่า ตนไม่ได้ตื่นเต้นอะไร แม้ว่าจะเป็นการกลับเข้าสู่สภาฯ ในรอบ10ปี ก็ตาม และตนพร้อมเข้าไปทำหน้าที่ ส.ส. ตามปกติ ส่วนจะเข้าไปรายงานตัวต่อสภาฯ เมื่อใดนั้น จะขอพิจารณาจังหวะที่เหมาะสมอีกครั้ง
เมื่อถามถึงกรณีการพิจารณาโหวตนายกฯ คนใหม่ในที่ประชุมรัฐสภา นายประสาท กล่าวว่า ต้องรอฟังมติพรรค เพราะพรรคชาติพัฒนากล้ามีคณะกรรมการบริหารพรรค เบื้องต้นคาดว่าจะเรียกประชุมหลังจากที่ ว่าที่ ส.ส.ของพรรคได้รับการรับรองจาก กกต. แล้ว และอาจจะหารือในเรื่องการลงมติทั้ง ตำแหน่งประธานสภาฯ รวมถึงนายกฯ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสมวลชน กดดันให้ร่วมโหวตนายพิธาเป็นนายกฯ นายประสาท กล่าวว่า ต้องยึดถือกติกา ไม่สามารถทำตามใจได้ ไม่ใช่ว่านึกอยากทำอะไรก็ทำ อย่างกรณีของนายพิธา หากไม่ติดขัดอะไรในประเด็นระเบียบ ข้อบัง หรือ กฎหมาย เชื่อว่าจะได้อยู่ ส่วนกรณีที่ถูกตรวจสอบเรื่องคุณสมบัติ กรณีถือหุ้นITV นั้น มองว่าถ้าไม่มีข้อห้าม เขาก็มีสิทธิ
เมื่อถามว่ามีนักวิชาการเรียกร้องให้ ว่าที่ ส.ส.ที่แม้ไม่ได้ร่วมรัฐบาล ช่วยออกเสียงให้นายพิธา ด้วย นายประสาท กล่าวว่า “พรรคผมมี 2 เสียง จะไปมีความหมายอะไร ขนาดเขามาเชิญแล้วยังยกเลิกได้เลย”
ถามย้ำว่าหากได้เสียงจากพรรคอื่นๆ ไปเติมจะทำให้ คะแนนสนับสนุนเข้าใกล้ 376 เสียงมากขึ้น นายประสาท กล่าวว่า หากส.ส.รวมกัน ได้ 376 เสียง ไม่ต้องอาศัยอะไรอีก แต่ขณะนี้ยังมีประเด็นของคุณสมบัติที่ต้องรอดูว่าเขาพร้อมหรือไม่เท่านั้น หากคุณสมบัติไม่พร้อมไปไม่ได้ ต้องยอมรับกติกา
"ผมไม่ได้รังเกียจอะไร เพราะพรรคการเมืองด้วยกัน แต่การเมืองเป็นศิลปะ ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ ไม่ใช่อยากจะทำอะไรก็ทำได้ เรายอมรับว่า เขาได้ ว่าที่ส.ส.มากที่สุด คือ 151 เสียง ขณะที่อีกด้านมี 349 เสียง เรายอมรับกติกาที่ ว่า หากพรรคที่หนึ่ง ไม่สามาาถตั้งได้ พรรคที่สอง ย่อมมีสิทธิ ไม่ใช่คนที่ได้ที่หนึ่ง มากกว่าที่สอง 10 เสียง จะคงมีสิทธิตลอด ทุกคนสามารถยอมในช่วงแรก ทั้งนี้ต้องดูแง่คุณสมบัติด้วย ว่าจะได้หรือไม่” นายประสาท กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ส.ว.เสนอให้เคลียร์ประเด็นคุณสมบัติให้จบเสร็จก่อนวันเสนอชื่อโหวตนายกฯ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า “แม้เคลียร์ไม่จบ แต่กติกาไม่ห้าม ก็ไม่ต้องเคลียร์ แต่หากอยากให้จบก่อนต้องหาช่องทางตามกฎหมาย และต้องเคารพกติกา”.