กกต.รับรอง ส.ส.ทางการสัปดาห์หน้า อย่างน้อย 95% เร็วกว่าปี 62

กกต.รับรอง ส.ส.ทางการสัปดาห์หน้า อย่างน้อย 95% เร็วกว่าปี 62

ประธาน กกต.ยันพร้อมประกาศรับรอง ส.ส.ทางการ สัปดาห์หน้า อย่างน้อย 95% เผยเร็วกว่าปี 62 ชี้เอกสารหลุดแขวน 71 ว่าที่ ส.ส.ข้อมูลยังไม่ครบ ปัดตอบปมให้ กกต.สอบ ม.82 คุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ ‘พิธา’ ถือหุ้น itv เพื่อให้ทันโหวตนายกฯ เหตุยังไม่ผ่านการพิจารณา

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2566 ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กทม. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสำนักงาน กกต.ได้มีการเสนอข้อมูลการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้น แต่เห็นว่าการรับรองผลจะต้องมีข้อมูลประกอบมากกว่านี้  
    
“เพราะฉะนั้นกระบวนการพิจารณา เรื่องการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จะมีการประชุมต่อในสัปดาห์หน้า รวมทั้งการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อด้วย โดยยืนยันว่าการประกาศรับรองผล จะต้องเป็นไปตามกฎหมาย ที่กำหนดให้ต้องประกาศไม่เกิน 60 วัน ทั้งนี้จะช้าหรือเร็วแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่า ข้อมูลที่จะเข้าสู่การพิจารณานั้นครบถ้วนสมบูรณ์แล้วหรือไม่” ประธาน กกต.กล่าว   

นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า ข้อมูลที่ได้นั้น มาจากผู้อำนวยการ กกต.จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลคุณสมบัติลักษณะต้องห้าม ว่ามีว่าที่ ส.ส.คนใดเข้าข่ายหรือไม่ ซึ่งกระบวนการนี้ใกล้จะแล้วเสร็จ ถ้าสัปดาห์หน้ามีข้อมูลเพียงพอ ก็สามารถที่จะประกาศรับรองผลให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 95 แต่ถ้าข้อมูลครบถ้วนก็จะสามารถประกาศให้ได้ครบร้อยละ 100 ยืนยันว่า กกต.จะประกาศผลให้เร็วกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2562

ส่วนกรณีที่มีเอกสารหลุด และพบว่ามีจำนวน 71 ส.ส.ที่พบเรื่องร้องเรียนนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า เป็นเอกสารที่สำนักงานเสนอข้อมูลต่อที่ประชุม กกต. เพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งเป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งไม่ใช่ข้อมูลหลัก และยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์  

ส่วนจะมีความเป็นไปได้ที่จะไม่ประกาศรับรองผลให้กับ 71 ส.ส.หรือไม่นั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังไม่อยากพูดเช่นนั้น ต้องดูข้อมูลคำร้องถึงจะสามารถพูดได้ว่า สำนวนที่ร้องเป็นประเภทใด ถ้าเกี่ยวข้องทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม กกต.ต้องพิจารณาว่า จะมีมติให้ดำเนินการอย่างไร หรือจะให้ดำเนินการสืบสวนต่อไป

หากมีใบเหลืองหรือใบส้ม จะต้องดำเนินการก่อนประกาศก่อนรับรอง ส.ส. ส่วนจะแจกให้กับใครหรือไม่แจกนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า จะต้องดูที่กระบวนการสืบสวนไต่สวน ซึ่งข้อมูลมาจาก กกต.จังหวัดหรือส่วนกลางเสร็จเรียบร้อยแล้ว เสนอผ่านเลขาธิการกกต. เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต. ซึ่งไม่สามารถพูดได้ว่ากระบวนการจะเป็นอย่างไรต่อไป  

“ยืนยันว่า ในระยะเวลาที่เหลืออยู่ก่อนครบกรอบ 60 วัน หาก กกต.ต้องสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็สามารถที่จะทำได้ เพราะระยะเวลามีเพียงพอและกฎหมายเปิดช่องให้สามารถย่นระยะเวลาเพื่อดำเนินการ ซึ่งขณะนี้สำนวนคำร้องเรียนคัดค้านการเลือกตั้ง กกต.ยังไม่ได้มีการเริ่มพิจารณา” นายอิทธิพร กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ถูกร้องเรียนให้ตรวจสอบการถือครองหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) จะประกาศผลพิจารณารับรองไปก่อนหรือไม่นั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการแล้ว โดย กกต.ได้มีมติตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งจะดำเนินการไปตามระเบียบการสืบสวนไต่สวน โดยกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการดำเนินการไว้ชัดเจน และต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และต้องยึดถือกระบวนการตามขั้นตอนต่างๆอย่างเคร่งครัด ส่วนจะต้องแยกระหว่างการประกาศรับรองผลกับการสืบสวนไต่สวนหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่เกี่ยว เพราะ กกต.คำนึงถึงสาเหตุสำคัญ คือการเลือกตั้งมีความสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่


เมื่อถามถึง กรณีบริษัทไอทีวี ออกแถลงการณ์เอกสารชี้แจง โดยมีทั้งเอกสารลงบันทึกการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และคลิปวิดีโอการประชุมผู้ถือหุ้น ที่ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ รวมถึงเอกสารที่ยื่นให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะผู้จัดการมรดก จะมีผลต่อการพิจารณาของ กกต.หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนตามอำนาจการตรวจสอบของคณะกรรมการการสืบสวนไต่สวน ซึ่งได้ทำหน้าที่ตามขั้นตอนจะมีการเรียกพยานหรือเอกสารได้ โดย กกต.จะไม่ก้าวก่ายหรือแทรกแซงการทำงาน ของคณะกรรมการไต่สวนฯ ที่มีหน้าที่ดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วภายใน 20 วัน หากไม่ทันสามารถขอขยายระยะเวลาได้ครั้งละ 15 วัน  ดังนั้นเรื่องนี้จะทำโดยเร็วไม่ได้ เพราะจะขัดต่อกระบวนการของกฎหมายที่กำหนด

หากมีการเรียกร้องให้ กกต.ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 เพื่อให้ทันต่อการโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องนี้พูดตอนนี้ไม่ได้ เพราะยังไม่ผ่านขั้นตอนการพิจารณา หรือการนำเสนอของใคร ทุกอย่าง กกต.ต้องตัดสินโดยมติในที่ประชุม เมื่อยังไม่มีเรื่องเข้ามา อาจจะไม่เหมาะสมถ้าหากพูดไปก่อน

“โดยเรื่องนี้ถ้าตามกฎหมายไม่จำเป็น ต้องให้มีผู้ร้องเรียนเข้ามาก่อนตามทฤษฎีข้อมูลหลักฐานผลการตรวจสอบวินิจฉัยของคณะกรรมการสืบสวนเป็นอย่างไรจะต้องเสนอมาตามลำดับ เมื่อมาถึง กกต.จะต้องพิจารณาว่าข้อมูลเพียงพอ   หรือว่าจะต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติม หรือสามารถตัดสินได้เลย” นายอิทธิพร กล่าว

ส่วนเป็นไปได้หรือไม่ที่จะสามารถพิจารณาได้ทันก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีเพื่อป้องกันปัญหา ประธาน กกต. กล่าวว่า คิดอย่างนั้นไม่ได้เพราะเรื่องเข้าสู่กระบวนการถ้าเทียบกับระเบียบสืบสวนไต่สวน ก็เหมือนประมวลวิธีพิจารณาความอาญา หากไปเร่งก็จะไม่เป็นธรรม