'รอมฎอน' ย้ำ 8 พรรคร่วมไร้แนวคิดแบ่งแยกดินแดน เมินถูกร้องยุบ 'ก้าวไกล'
คณะย่อย 8 พรรคร่วมรัฐบาลถกเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนใต้ 'รอมฎอน ก้าวไกล' ย้ำไม่มีแนวคิดแบ่งแยกดินแดน เผยทบทวนการใช้ 'กฎหมายพิเศษ' เตรียมชงรัฐบาลใหม่ เปลี่ยนชื่อการพูดคุยสันติสุข เป็นพูดคุยสันติภาพ เมินปมถูกร้องยุบพรรค หลังชื่อโผล่ขบวนการนักศึกษาทำประชามติแบ่งแยกดินแดน
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2566 ที่พรรคประชาชาติ คณะทำงานย่อยด้านสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล มีการประชุมคณะทำงานครั้งที่ 2 ที่พรรคประชาชาติ ต่อเนื่องจากการประชุมครั้งที่แล้วจากที่พรรคก้าวไกล โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เป็นผู้กล่าวต้อนรับก่อนเริ่มการประชุม พร้อมด้วยคณะกรรมการของพรรคประชาชาติ ประกอบ ด้วย นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ นายมุข สุไลมาน นางสาวรอมือละห์ แซเยะ และนายมูหามัดเปาซี อาลีฮา
ส่วนตัวแทน 8 พรรคการเมือง ประกอบด้วย นายรอมฎอน ปันจอร์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย นายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม และนายชวลิต วิชยสุทธิ์ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.)
นายรอมฏอน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการคุยกันต่อยอดจากครั้งที่แล้ว คือมาดูในรายละเอียดว่านโยบายและจุดยืนของแต่ละพรรคในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ซึ่งต่อไปเราจะเรียกว่าการสร้างสันติภาพชายแดนภาคใต้ ว่ามีเรื่องไหนที่เหมือนหรือต่างกัน และเราจะมาดูกันว่าใน 100 วันแรกของรัฐบาลที่นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ภายใน 1 ปี 4 ปี จะทำอะไร เราเห็นว่าตอนนี้ถ้าเรานับเวลาเอาวันที่ 4 ม.ค.2547 เป็นตัวตั้ง 4 ม.ค. ปี 2566 นี้ ก็จะครบรอบ 20 ปี มันเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับช่วงเวลาที่เราเคยมีประสบการณ์ของความขัดแย้งภายในประเทศในช่วงสงครามเย็น คือปี 2508 -2523 ซึ่งปี 2523 เรามีทิศทางใหม่คือคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี 66/23 ที่หลายท่านเคยได้ยิน เราตั้งหลักกันว่า 20 ปีนี้ เราอาจจะถึงเวลาที่ต้องมานั่งทบทวนถึงทิศทางการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่สังคมไทยเผชิญ เป็นช่วง 20 ปีที่เรามีบทเรียนความสูญเสียและประสบการณ์ร่วมกันพอสมควรแล้ว
นายรอมฎอน กล่าวอีกว่า ภายใต้รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งที่เรากำลังจะเข้าสู่การทำงาน น่าจะมีวิธีคิดและมุมองใหม่ๆ ในการคลี่คลายปัญหา เราได้ทบทวนหน้าที่ของคณะทำงานย่อย เรามีข้อมติและสรุปผลการศึกษาของพวกเราจะนำเสนอต่อคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลชุดใหญ่อีกครั้ง โดยวันนี้เราคุยกันถึงเรื่องมาตรการด้านความมั่นคงหลายเรื่อง เรื่องกฎหมายพิเศษ เราคิดว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่เราจะลดความพิเศษของมัน ฟื้นคืนความปลอดภัยให้กับประชาชน และลดมาตรการพิเศษเหล่านั้น เรากำลังทบทวนการประกาศใช้กฎอัยการศึก ทบทวนตัวกฎหมายการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งโจทย์ที่รอเราอยู่ในอีกไม่นานนี้ หลังจากที่เป็นรัฐบาล การประชุม ครม. ในช่วง 3 เดือนแรกจะต้องมีการพิจารณาต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแน่ ๆ โจทย์นี้เรากำลังอภิปรายอยู่ว่ามีความจำเป็นขนาดไหน ทั้งกฎหมายอัยการศึกและพ.ร.ก.ฉุกเฉินกำลังนั่งทบทวนดู และอยากจะฟังความคิดเห็นจากหลายฝ่าย รวมทั้งชาวพุทธที่อาจจะมีความกังวลว่าหากเจ้าหน้าที่ไม่มีเครื่องมือเหล่านี้จะมีผลกระทบอย่างไร รวมทั้งทบทวนสถานภาพของ กอ.รมน.และพ.ร.บ. รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 2551 โดย 3-4 เรื่องนี้เรากำลังอภิปรายกันอยู่
นายรอมฎอน กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้เราเห็นว่าต้องสานต่อการพูดคุยสันติภาพ ที่สำคัญคือเราจะเปลี่ยนชื่อ เป็นข้อเสนอของเราว่าจะเปลี่ยนชื่อการเรียกขานการพูดคุยสันติสุขที่เปลี่ยนไปในช่วง รัฐบาลคสช. หลังการยึดอำนาจต่อเนื่องถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เราจะเปลี่ยนกลับไปชื่อเดิมคือ “การพูดคุยสันติภาพ” เพื่อสะท้อนนัยมีความหมายที่มุ่งสู่ความจริงจังของการแสวงหาข้อตกลง เพื่อสื่อสารกับคู่สนทนาของเราคือขบวนการบีอาร์เอ็น เพื่อสื่อสารต่อประชาคมนานาชาติที่ติดตามสถานการณ์ และเพื่อสื่อสารถึงประชาชนในพื้นที่ว่ารัฐบาลใหม่ที่นำโดยพลเรือนจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างออกไปจากรัฐบาลก่อนหน้านี้
นายรอมฎอน กล่าวว่า ขอยืนยันว่าผลประโยชน์ที่พวกเรากำลังทำอยู่กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงตรงนี้ จะกลับคืนสู่ประชาชน เรื่องสำคัญที่สุดคือเรื่องความปลอดภัย ต้องมีหลักประกันความปลอดภัยทั้งทางกายภาพและการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองด้วย และเราจะพยายามทุกวิถีทางที่จะสถาปนาความเป็นปกติใหม่ โดยที่ไม่ต้องมีมาตรการพิเศษกลับมา
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยถึงเรื่องการทำประชามติแบ่งแยกดินแดนของขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ ที่เชื่อมโยงมาถึงการถูกยื่นยุบพรรคการเมืองหรือไม่ นายรอมฎอน กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกัน ส่วนใหญ่เราจะมุ่งไปข้างหน้า และประเด็นที่อาจตกค้างจากการคุยกันครั้งที่แล้ว และในความเห็นส่วนตัวไม่ได้กังวลเรื่องนี้
เมื่อถามว่าเป็นห่วงว่าจะมีเกมล้มรัฐบาลเพราะเรื่องนโยบายความมั่นคงที่อาจจะขัดแย้งกันหรือไม่ นายรอมฎอน กล่าวว่า ก็ไม่แปลกเพราะตอนนี้มีหลายประเด็นไม่ใช่มีแค่เรื่องปัญหาในภาคใต้เท่านั้น แต่คนทำงานทำงานชุดย่อยนี้มุ่งมั่นและมีสติ มีสมาธิในการถกเถียง และมีการเตือนกันว่าเราต้องระมัดระวัง เราต้องฟังจากทุกฝ่าย แต่ยืนยันว่าเรามีสมาธิและพร้อมในการเตรียมการสำหรับรัฐบาลใหม่อย่างเต็มที่
เมื่อถามว่าในอนาคตจะมีพรรคร่วมรัฐบาลเสนอให้แบ่งแยกดินแดน 3 จ.ใต้หรือไม่ นายรอมฎอน กล่าวว่า คิดว่าประเด็นนี้ตกไปแล้ว มันคงเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลไทยจะเสนอให้มีการแย่งแยกดินแดน แต่แน่นอนมีคนตั้งคำถามแบบนี้ คือมันเป็นเรื่องที่ไม่ได้สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะว่าการทำงานการได้มาซึ่งอำนาจมีความชอบธรรมผ่านรัฐธรรมนูญ มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทำตามนโยบายที่ได้เสนอไว้ต่อสาธารณะ ประชาชน และกกต. เรายืนอยู่ภายใต้กรอบของรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญอยู่ไทยอยู่แล้ว
เมื่อถามย้ำว่ามีพรรคร่วมถูกเชื่อมโยงในเรื่องแนวคิดแบ่งแยกดินแดน จะย้ำจุดยืนรวมทั้งในส่วนพรรคก้าวไกลในเรื่องนี้กับสังคมอย่างไร นายรอมฎอน กล่าวว่า เรื่องนี้ตกไปนานแล้วและได้ข้อสรุปนานแล้วว่าเป็นประเด็นที่พยายามทำให้มันกลายเป็นข้อกังขา ข้อคำถาม แต่เรายืนยันว่าเราเป็นพรรคการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญ ลงแข่งขันอย่างชอบธรรม และได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนตามกรอบของรัฐธรรมนูญ ตนว่าเรื่องนี้เป็นพื้นฐานซึ่งไม่ได้เป็นข้อถกเถียงใดๆ ทั้งสิ้นในที่ประชุม