'สมาคมไรเดอร์' ยื่น 'ก้าวไกล' สางปัญหาโดนเอาเปรียบ ขอมีประกันสังคม

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2566 ที่พรรคก้าวไกล สมาคมไรเดอร์ไทย เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อนในการทำงานแพลตฟอร์ม โดยมีนายเซีย จำปาทอง และน.ส.วรรณวิภา ไม้สน 2 ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้รับหนังสือ

ตัวแทนสมาคมไรเดอร์ไทย กล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมาแพล็ตฟอร์มเอารัดเอาเปรียบอาชีพไรเดอร์ แรงงานต่างด้าวยังได้รับสวัสดิการ แต่เราทำงานเสียภาษีกลับไม่มีสวัสดิการอะไรเลย จึงอยากให้รัฐบาลช่วยในเรื่องราคากลางของอาชีพไรเดอร์ เพราะวันนี้ค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น แต่ค่าแรงของเรายิ่งต่ำลง ปัจจุบันมีไรเดอร์ 4 แสนคนในไทย แต่ค่าแรงถูกยิ่งกว่าแรงงานขั้นต่ำ นอกจากนั้นยังมีปัญหาในเรื่องระบบแอพที่ให้มีการรับงานซ้อน งานพ่วง แต่กลับได้รับค่าแรงไม่เท่ากัน ทั้งที่บริษัทเก็บเงินจากร้านค้าเต็มจำนวน ทำให้เกิดปัญหาลูกค้าได้รับอาหารช้าและมาระบายอารมณ์ที่ไรเดอร์ พอแจ้งไปยังบริษัทก็ทำให้เราถูกระบบพักงาน 10 นาที หรือบางครั้งต้องรอถึงครึ่งชั่วโมงกว่าจะกลับมารับงานได้อีกครั้ง ส่งผลกระทบต่อรายได้ของไรเดอร์

ตัวแทนสมาคมไรเดอร์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนั้นยังมีปัญหาในเรื่องการบาดเจ็บจากการทำงาน ถ้าไม่ใช่รถตัวเองบริษัทก็ไม่ให้ความช่วยเหลือ ทั้งที่เก็บเงินประกันจากเราไปเป็นจำนวนมาก 3,000-4,000 บาท จึงอยากให้นำเงินส่วนนี้ไปดำเนินการจ่ายค่าประกัน หรือทำประกันสังคมให้กับไรเดอร์ด้วย เราเร้องเรียนมาทุกพรรคทักรัฐบาลแต่ไม่เคยมีการแก้ปัญหา รัฐบาลเก่าทำไม่ได้ จึงคิดว่ารัฐบาลใหม่จะเป็นความหวัง 

ขณะที่นายเซีย กล่าวว่า พรรคก้าวไกลรับทราบปัญหาของไรเดอร์และพี่น้องแรงงานตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง เราจึงมีแนวทางแก้ปัญหาตามที่ได้เคยหาเสียงไว้ เช่น ในเรื่องค่าตอบแทนที่เป็นธรรม การันตีค่ารอบอย่างน้อยต้องเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ มีประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ มีระบบร้องเรียนผ่านชองทางแอพลิเคชั่น มีสัญญาจ้างที่เป็นธรรมและมีระบบ เป็นต้น 

"สิ่งสำคัญคือการมีเครือข่ายผู้ใช้แรงงาน พรรคก้าวไกลจะผลักดันให้มี พ.ร.บ.สหภาพแรงงาน เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานมีอำนาจต่อรอง เราเห็นความสำคัญของการรวมตัวเจรจา นอกจากนั้นในส่วนที่พี่น้องไรเดอร์ถูกหักเงินหลายพันบาท หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราจะผลักดันให้มีประกันสังคมถ้วนหน้าเกิดขึ้น เพื่อให้คนที่ทำงานแพลตฟอร์มมีประกันสังคมถ้วนหน้า และเพื่อเดูแลคุณภาพชีวิตของไรเดอร์และพี่น้องแรงงานให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป" นายเซีย กล่าว