"อุทัย" หนุนก้าวไกลนั่ง "ประธานสภา" เตือน2พรรคชิงกันเองเปิดช่องฟรีโหวต
"อุทัย" หนุนก้าวไกลนั่ง "ประธานสภา" เตือนเพื่อไทยอย่าหน้ามืด หวั่น "2พรรค"เสนอชื่อชิงกันเองเปิดช่องฟรีโหวต
นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาฯ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานสภาอายุน้อยที่สุดในยุคม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นนายกฯโดยเป็นประธานสภาฯ ด้วยวัยเพียง 39 ปี ให้ความเห็นปมปัญหาการแย่งเก้าอี้"ประธานสภาฯ" ของพรรคก้าวไกล กับพรรคเพื่อไทย สองพรรคการเมืองขณะนี้ ผ่าน"เนชั่นทีวี"ว่า อยากให้ข้อสังเกตที่มีคนวิจารณ์ ไม่ควรให้คนอายุน้อย ไม่มีประสบการณ์ มาเป็นประธานสภาฯนั้น อยากบอกว่า"ประธานสภาฯ"อายุน้อยก็มี บางคนอายุน้อยทำตัวเป็นผู้ใหญ่ได้ เราก็เคยเห็นผู้ใหญ่อายุมากทำตัวเด็กเล่นขี้ ขี้เล่นก็มีเยอะ
"ประเด็นสำคัญคือ การให้เกียรติซึ่งกันและกัน เขาบอกว่าคนอายุน้อย แต่เมื่อนั่งบัลลังก์ คนอายุมากกว่า ควรให้เกียรติเขาหรือไม่ ถ้าให้เกียรติ เขาก็เป็นที่เคารพได้ อยู่ที่ว่า คุณให้เกียรติเขาไหม ถ้าไม่ให้เกียรติเขาก็แสดงว่าคุณไม่เคารพเขา ปัญหาว่า อายุน้อยมาเป็นประธานสภา น่าประคับประคองสภาได้ เพราะเราจะได้คนมีไฟ ได้กำลังแรงจากเขาได้ความคิดจากเขา" อดีตประธานสภาสามสมัย กล่าว
นายอุทัย กล่าวต่อไปว่า แต่ถ้าเอาผู้สูงอายุ ขึ้นนั่งบัลลังก์ นั่งสัปหงก หรือ ตามวาระการประชุมไม่ทัน ต้องการแบบนั้นหรือ คิดว่า คนกล้ารับตำแหน่งเชื่อว่าเขาทำได้ ไม่ได้ถูกขอร้องให้มาเป็น
ส่วนกรณี ที่พรรคเพื่อไทย เสนอว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องเป็นของเพื่อไทย นายอุทัย ตั้งคำถามว่า รู้จักคนหน้ามืดหรือไม่ พวกติดคุกติดตารางหน้ามืดทั้งนั้น อยู่ดี ๆเกิดหน้ามืดขึ้นมา ผมเริ่มเห็นคนหน้ามืดแล้ว อย่าให้บอกว่าเป็นใคร พรรคไหน
ทั้งนี้ นายอุทัย ยังได้กล่าวด้วยว่า หากมีการเสนอชื่อประธานสภาฯแข่งกัน ระหว่างสองพรรค และเปิดให้มีการฟรีโหวต นั่นคือสัญญาณของความขัดแย้ง
นายอุทัย ยังได้ย้ำว่า ไม่อยากใช้คำว่าพรรคก้าวไกลควรได้รับตำแหน่งประธานสภา แต่ต้องการบอกว่าโดยทั่วโลกที่เจริญแล้วทำกันให้โอกาสพรรคเสียงข้างมากเป็นประธานสภาฯ เพื่อความคล่องตัว ให้การทำงานลุล่วงไปด้วยดี
"แต่ถ้ามีเหตุการณ์พิเศษ อาจเปลี่ยนแปลงไป ก็เป็นเรื่องเหตุการณ์พิเศษที่ไม่รู้จะเปลี่ยนแปลงอย่างไรผมไม่รู้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ถ้าไม่ใช่เหตุการณ์พิเศษ เป็นเรื่องของคนหน้ามืด ตรงนี้ก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย" นายอุทัย กล่าว