‘เศรษฐา’ปัดรอเสียบเก้าอี้นายกฯแทน‘พิธา’หากเกิดอุบัติเหตุการเมือง

‘เศรษฐา’ปัดรอเสียบเก้าอี้นายกฯแทน‘พิธา’หากเกิดอุบัติเหตุการเมือง

‘เศรษฐา’ปัดแต่งตัวรอเสียบเก้าอี้นายกฯแทน‘พิธา’ หากเกิดอุบัติเหตุการเมือง ย้ำ ‘เพื่อไทย’ หนุนก้าวไกลตั้งรัฐบาล เชื่อเก้าอี้ประธานสภาทุกฝ่ายแฮปปี้

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เปิดเผยว่าถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่าพรรคเพื่อไทยยอมถอยตำแหน่งประธานสภาฯ ให้พรรคก้าวไกล เพื่อเตรียมพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีแทนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา โดยมองว่าข่าวดังกล่าวเป็นเพียงกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ขอให้รอฟังข้อเท็จจริงจากหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รวมถึงฝ่ายเจรจาก่อน

“ส่วนตัวไม่อยู่ในกระบวนการการเจรจา แต่อยู่ในกระบวนการทำงานมากกว่า ยังไม่อยากให้มองไปไกล เพราะต้องผ่านขั้นตอนการเลือกประธานสภาก่อน ขอให้อดใจรอ ซึ่งพรรคเพื่อไทยยึดมั่นหลักการฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือทำงานร่วมกัน และมั่นใจเรื่องตำแหน่งประธานสภา จบลงด้วยดี ทุกฝ่ายแฮปปี้”
 

เมื่อถามย้ำว่า แม้ตัวนายพิธา จะมีความพร้อม แต่มีขวากหนามอีกหลายอย่างที่อาจทำให้ไม่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เพื่อไทยพร้อมที่จะไปนั่งนายกฯแทนหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น ตอนนี้ต้องพยายามให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีก่อน และพรรคเพื่อไทยย้ำมาตลอดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องผลักดันให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีก่อน

ส่วนเรื่องแผนสำรองกรณีหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับนายพิธา จะพร้อมทำหน้าที่แทนหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวย้ำว่า ยังไม่คิด เพราะยังไม่ถึงวันนั้น ขอเป็นไปทีละขั้นตอน ต้องช่วยกันผ่านด่านประธานสภาให้ได้ก่อน โดยไม่บอบช้ำทั้งสองฝ่าย แล้วค่อยเป็นขั้นตอนการเลือกนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็อยากให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นพรรคที่ชนะการเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่ง หวังว่าจะไม่มีอุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น
 

สำหรับการลงพื้นที่ในวันนี้ (30มิ.ย.) ได้ศึกษาดูการบริหารจัดการธนาคารน้ำใต้ดิน นอกเขตชลประทาน ซึ่งจ.นครพนม ถือเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการน้ำได้ และต้องเร่งดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะสถานการณ์น้ำในปีนี้ อาจจะได้รับผลกระทบในหลายพื้นที่ยากเรื่องของเอลนีโญ โดยธนาคารน้ำใต้ดินจะช่วยให้แต่ละพื้นที่กักเก็บน้ำได้ แต่ถ้าจะนำโมเดลนี้ไปปรับใช้ในพื้นที่อื่นๆ ก็จะต้องศึกษาวิเคราะห์เป็นรายพื้นที่ และควรทำอย่างรวดเร็ว ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมในเรื่องนี้

นายเศรษฐา ยอมรับว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถือเป็นกระทรวงหนึ่งที่เคยคุยว่าพรรคเพื่อไทยจะเข้ามารับผิดชอบเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนจะมีการแบ่งจัดสรรตำแหน่งว่าการและรัฐมนตรีช่วยอย่างไร ขึ้นอยู่กับผู้ที่เกี่ยวข้องจะหารือกัน