'พิธา' ย้ำประธานสภาฯเจรจาอยู่ เมินข่าวชู 'ประวิตร' นายกฯ โวดีล ส.ว.ดีขึ้น
'พิธา' ยันตำแหน่งประธานสภาฯ ยังอยู่ระหว่างเจรจากับ 'เพื่อไทย' ต้อรอใกล้วันประชุม และประกาศทางการอีกครั้ง อ่านหมาก 'ชัยธวัช-หมอชลน่าน-เศรษฐา' พูดตรงกันเป็นไปได้ด้วยดี เมินข่าวลือชู 'ประวิตร' นายกฯ โวเสียง ส.ว.ดีขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ขณะลงพื้นที่จ.พิษณุโลก เพื่อขอบคุณประชาชนหลังเลือกตั้ง พร้อมกับกล่าวถึงความชัดเจนเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มีการหารือกับพรรคเพื่อไทย ว่า ความชัดเจนเรื่องการเจรจากับพรรคเพื่อไทย ยังดีขึ้นเรื่อย ๆ และยังเจรจาอยู่ ซึ่งต้องรอวันที่ประชุมและประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง และเช้านี้นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้แถลงตามที่ได้พูดคุยกันในพรรค และได้เห็น นพ.ชลน่านศรีแก้ว และนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยพูด ถ้าอ่านจากสามคนนี้ ทุกคนก็พูดตรงกันว่าการเจรจาเป็นไปได้ด้วยดี ก็คงต้องรอผลการเจรจา
นายพิธา กล่าวว่า ขณะเดียวกันเมื่อวานที่มีข่าวออกมา ในสถานการณ์แบบนี้ พวกเราต้องฟังแต่ยังไม่เชื่อ และตนเองได้เช็คสื่อไปจากหลายสำนัก ทุกคนเขียนว่าจากแหล่งข่าว ดังนั้นแหล่งข่าวคือใคร เมื่อเห็นปุ๊บ ก็เห็นด้วยกับทางนายชัยธวัช ที่ให้สัมภาษณ์ไปแล้วเมื่อเช้า ไม่เชื่อว่าเพื่อไทยจะมีเงื่อนไขออกมาแบบนั้น และเป็นไปตามที่ นพ.ชลน่าน และนายเศรษฐาพูด มีฉากทัศน์เดียว คือฉากทัศน์ที่เราจะไปต่อด้วยกันและตนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีตามเจตจำนงค์ของพี่น้องประชาชน
ส่วนจะมีโอกาสเป็นไปตามที่แหล่งข่าวได้พูดไว้เมื่อวานหรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า หากยึดทั้งสามท่านก็คือมีอยู่ฉากทัศน์เดียวคือ นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่าการเลือกมา จ.พิษณุโลก เพื่อเป็นการยืนยันอย่างชัดเจนหรือไม่ว่า นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ต้องได้เป็นประธานสภาฯ นายพิธา กล่าวว่า พรรคได้ยืนยันไปแล้วว่าเมื่อ 2 วันก่อนทางเฟซบุ๊กว่านายปดิพัทธ์ เป็นแคนดิเดตประธานสภา ไม่ต้องลงพื้นที่ก็ได้ยืนยันไปแล้ว คงไม่เกี่ยวกัน
ส่วนประเด็นที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ จะจบวันที่ 1 ก.ค.หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เชื่อว่าจบได้ด้วยดี ในเวลาที่ต้องจบในลักษณะที่ว่าต้องให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ ปกติแล้วรับรองแล้วสภารับรองแล้ว จะมีรัฐทำพิธีวันที่ 3 ก.ค. เลือกประธานสภาวันที่ 4 ก.ค. และวันที่ 14-15 ก.ค.คงจะเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้นมีขั้นมีตอนก็คงค่อยเป็นค่อยไป อย่างที่นายเศรษฐาพูดก็ถูกแล้ว
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า ที่เลือกลงพื้นที่ในวันนี้ และวันพรุ่งนี้ที่จังหวัดขอนแก่นเป็นการเล่นเกมมวลชลหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามฉากทัศน์ที่วางไว้ จะปลุกมวลชนหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่เลย เพราะถ้าไม่ลงช่วงนี้ มีประชุมสภาแล้วจะลงพื้นที่ได้ยาก และ 1 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนอาจจะคิดว่าไปจังหวัดโน้นจังหวัดนี้ พิษณุโลกก็เลือกตั้งได้คะแนนมาเยอะทำไมไม่มา จึงใช้โอกาสนี้ขอโทษประชาชน และถ้าดูบัญชีรายชื่อก็จะมี 50 ถึง 60 จังหวัดที่ได้คะแนน ทั้งนี้จะพยายามไปให้ครบทุกพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาไปด้วยหากเข้าสู่ตำแหน่งจะได้เห็นภาพจริง ๆ กระบวนการจริง ๆ
"อย่างวันนี้ขึ้นสนามบินดอนเมืองก็แวะไปดูที่เกิดเหตุก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและผู้บาดเจ็บด้วยเพราะวันนี้ก็เห็นซี่ๆอันใหม่อันเก่ามีน็อตที่ขันสุดไม่สุดดังนั้นการที่ไม่ได้อยู่ในห้องแอร์ พอได้เห็นพื้นที่แล้วเมื่อได้เห็นการ maintenance ปิดสนิทหรือไม่สนิท ล้อหลุดไปหรือไม่ ก็จะทำให้เราได้เห็นภาพด้วย ดีกว่าฟังแต่ข่าวหรือดูจากข้อมูลแต่เป็นการเห็นด้วยตาตัวเอง แล้ววันนี้จะได้เห็นสภาพการท่องเที่ยวและสภาพพื้นที่ต่างๆของพิษณุโลกไปในตัวด้วย" นายพิธา กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีมีแหล่งข่าวพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 มีการหารือกันอย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่ได้เห็นข่าว แต่หากเป็นเรื่องจริง เป็นเรื่องที่ตรงกันข้ามกับตอนดีเบตว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปไม่ได้ ทั้งฝืนมติของประชาชน และทั้งการบริหารจัดการไม่ได้ด้วย ส่วนที่บอกว่าจะยื้อเวลา หรือจะทำให้สภาแตก หรือมีงูเห่า เชื่อว่า ประชาชนคงยอมไม่ได้จากภาพที่ลงพื้นที่มาโดยตลอดทุกคนต้องการที่จะก้าวไปข้างหน้าแล้วจริงๆและอยากที่จะอยู่ข้างอนาคต
ส่วนเสียง ส.ว.ยังมั่นใจเหมือนเดิมหรือไม่ จะถูกดักทางว่า พรรคเพื่อไทยจะได้ความเห็นชอบมากกว่าหรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า สำหรับเสียง ส.ว.ยังมีความมั่นใจขึ้นเรื่อย ๆ