‘พ่อส้ม’ กับ ‘นายห้าง’ บทจบนิยาย ‘ดีลรักล่ม’

คิดว่าหลายคนยังไม่ลืมนักร้องคนนี้ กีร์-อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ที่เคยร้องเพลง ‘ฟ้าลืม’ ไว้เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว โดยท่อนหนึ่งของเพลงร้องว่า “อย่าจับเธอคลุมถุงชน เธอใช่หุ่นยนต์ เธอยังเป็นคน ที่มีจิตใจต้องการ แล้วทำไมต้องให้เธอนั้นทำตาม..."

เนื้อเพลงท่อนนี้เข้ากับสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค ซึ่งเคยเป็นฝ่ายค้านร่วมกันมาในสมัยที่แล้ว ปัจจุบัน ดีลรักพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ที่มีผู้นำแสดงหลักคือ พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย กำลังจะกลายเป็นดีลล่ม เพราะฝ่ายหนึ่งอ้างว่าเหมือนถูกคลุมถุงชน
    ภาพการเมืองในวันนี้ ทำให้นึกถึงการเลือกตั้ง 13 ก.ย.2535 ที่แบ่งขั้วเป็นพรรคเทพ และพรรคมาร โดยมีพรรคพลังธรรม ,พรรคประชาธิปัตย์ ,พรรคความหวังใหม่ และพรรคเอกภาพ ถูกจับมัดให้อยู่ในกลุ่มพรรคเทพ
    การหาเสียงโค้งสุดท้าย พรรคพลังธรรม เจอวิชามาร “มหาพาคนไปตาย” จากพรรคเทพด้วยกัน ทำให้พลาดเป้า ไม่ได้เป็นพรรคอันดับ 1 แต่ด้วยการแบ่งขั้วพรรคเทพ-พรรคมาร พลังธรรมจึงกลืนเลือดเข้าร่วมรัฐบาลชวน หลีกภัย แต่สุดท้ายสองพรรคนี้ก็ไปกันไม่รอด เมื่อพลังธรรมหัก ปชป.กรณี สปก.4-01

ตัดกลับมา พ.ศ.นี้ ก่อนวันเลือกตั้ง ก็มีการแบ่งเป็นขั้วพรรคฝ่ายประชาธิปไตย กับขั้วพรรคสืบทอดอำนาจ คสช. ผลเลือกตั้งปรากฏว่า พรรคอันดับ 1 กับพรรคอันดับ 2 ห่างกัน 10 เสียง

หากเป็นสถานการณ์การเมืองแบบปกติ พรรคอันดับ 2 มีสิทธิ์ตั้งรัฐบาลแข่งได้ตามกติกา เนื่องจากกระแสสังคมที่จับมัดให้ฝ่ายประชาธิปไตย ต้องจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ก้าวไกลและเพื่อไทย จึงเป็นแกนหลัก  8 พรรค เปิดการแสดงละครเรื่อง MOU รักต่างสายพันธุ์

พรรคเพื่อไทย มีรากเหง้ามาจากพรรคไทยรักไทย ที่มี ทักษิณ ชินวัตร เป็นเจ้าของพรรค ได้สร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ ผสมกับพวกบ้านใหญ่ ซึ่งนโยบายแบบคิดใหม่ ทำใหม่ ได้นำมาสู่ชัยชนะของไทยรักไทยสมัยนั้น

ดังนั้น พรรคของทักษิณ ไม่ว่าจะแบรนด์ไหน จะเน้นการแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน ไม่เคยคิดแตะเรื่องการเมืองเชิงโครงสร้าง ไม่แก้ ม.112 ไม่ปฏิรูปกองทัพ ไม่ปฏิรูปการศึกษา ฯลฯ

สำหรับกำเนิด “คนเสื้อแดง” ก็เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการต่อสู้ เพื่อพาทักษิณกลับบ้าน และเสื้อแดงกว่าร้อยละ 80 ก็คือคนรักทักษิณ 

 แม้จะมีแกนนำ นปช.บางคน เถียงคอเป็นเอ็นว่า คนเสื้อแดงคือผู้รักประชาธิปไตย ไม่ใช่คนรักทักษิณ แต่หากไปฟัง จตุพร พรหมพันธุ์ บอกเล่าในช่วงหลังๆ ก็จะรู้เบื้องลึกเบื้องหลังแดงทักษิณ

ไม่ปฏิเสธว่า มีคนเสื้อแดงอีกสายพันธุ์หนึ่งที่เรียกว่า แดงอิสระ หรือแดงเวทีเล็ก ที่จัดอยู่ในเฉดสีแดงอุดมการณ์ เป็นผู้รักประชาธิปไตย ก้าวข้ามทักษิณ และต้องการให้มีการเปลี่ยน แปลงเชิงโครงสร้าง

จะว่าไปแล้ว แดงเวทีเล็กนี่แหละ คือหน่ออ่อนของ “ด้อมส้ม” ในวันนี้ ขณะที่คนเสื้อแดงส่วนใหญ่รอคอยการกลับมาของทักษิณ แต่คนเสื้อส้ม ไปไกลกว่านั้น พวกเขาอยากเห็นการ เมืองใหม่ และการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ในทุกด้าน

อานนท์ นำภา ก็คือดอกผลของแดงอิสระ ที่กลายมาเป็นแกนนำม็อบราษฎร ในวันนี้ ก็ยังสรุปว่า ก้าวไกล เป็นพรรคที่มีเป้าหมายจัดระเบียบโครงสร้างอำนาจ ส่วนเพื่อไทย ถนัดเรื่องปากท้อง

สรุปว่า พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าเรื่องอุดมการณ์ และยุทธศาสตร์ของพรรค 

เพื่อไทยเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์อนุรักษนิยม และเสรีนิยมในเชิงนโยบายด้านเศรษฐกิจ ขณะที่ก้าวไกล เป็นที่มีอุดมการณ์และนโยบายแบบเสรีนิยมก้าวหน้า  

ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ค Thai Ariyaskun หรือเจ้าของนามปากกา ลูกชาวนา นักทฤษฎีฝ่ายเสื้อแดง ได้โพสต์ว่าด้วยปัญหาความขัดแย้งระหว่าง เพื่อไทยกับก้าวไกล

“ความห่างระหว่างก้าวไกลกับเพื่อไทย น่าจะถ่างออกไปเรื่อยๆ นะครับ เพราะจุดร่วมกันมีอย่างเดียวคือ โค่นเผด็จการ คสช. ที่เหลือก็ไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย ยิ่งอุดมการณ”ทางการเมืองยิ่งห่างกันไกล ระหว่าง Liberal กับ Socialism….”

ลูกชาวนา จัดให้เพื่อไทยอยู่ในหมวดเสรีนิยม แต่ลึกๆแล้ว ก็น่าจะอยู่ระหว่างกึ่งอนุรักษ นิยม กึ่งเสรีนิยมมากกว่า ส่วนที่มองว่า ก้าวไกลเป็นสังคมนิยมนั้น ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะแกนนำหลักค่ายสีส้มส่วนใหญ่ ยังอยู่ในเฉดสีเสรีนิยมก้าวหน้า

จะอย่างไรก็ตาม ลูกชาวนา สรุปสั้นๆว่า “..ความขัดแย้ง เพื่อไทยกับ ก้าวไกล ในทางทฤษฎีนั้นเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วครับ เมื่อเลี่ยงไม่ได้ ก็อย่าหลอกตัวเองเลย”

เหมือนอยากให้ด้อมส้ม และติ่งแดง กลับไปฟังเพลงพี่กีร์ “...อย่าจับเธอคลุมถุงชน เธอใช่หุ่นยนต์ เธอยังเป็นคน ที่มีจิตใจต้องการ แล้วทำไมต้องให้เธอนั้นทำตาม...”

ในวันที่ฝ่ายอนุรักษนิยมขวาจัด กำลังเผชิญหน้ากับภัยอันตรายใหญ่หลวง จึงมองเห็นคุณค่าของนายห้างดูไบ และก่อรูปเป็นพันธมิตรการเมือง เพื่อช่วงชิงการจัดตั้งรัฐบาล นี่คือความเป็นจริงทางการเมือง

ด้อมส้มอาจรับไม่ได้ จึงรู้สึกโกรธแค้น เพราะรัฐบาลแห่งความฝัน กำลังหลุดลอยไป เพราะการเมืองเก่าปล้นชัยชนะของมหาชน 14 ล้านเสียง