ดูวอลเลย์บอลทำพิษ! ร้อง กกต.สอบ ‘พิธา’ อ้างนำการเมืองพัวพันกีฬา
‘เรืองไกร’ รุกต่อ! ส่งไปรษณีย์ EMS ถึง กกต.ขอให้ตรวจสอบสมาชิกภาพ ส.ส. ‘พิธา’ ปมปรากฏตัวในสนามดูวอลเลย์บอลเมื่อ 29 มิ.ย. โดนวิจารณ์เอาการเมืองมาพัวพันกีฬา
เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2566 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ตรวจสอบว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (7) ประกอบมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3) (4) หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงที่สาธารณชนทราบกันโดยทั่วไปว่า นายพิธา เป็น ส.ส.ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 2566 ได้ไปชมและลงไปในสนามแข่งขัน และถ่ายรูปกับนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เมื่อคืนวันที่ 29 มิ.ย. 2566 และมีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวทางสื่อต่าง ๆ จนนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการนำการเมืองมาเกี่ยวข้องกับการกีฬา กระทบกับภาพลักษณ์ ของสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย นั้น
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (7) ประกอบมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3) (4) ประกอบข้อเท็จจริงที่ปรากฏโดยทั่วไป กรณีจึงมีเหตุที่ควรขอให้ กกต. ใช้ข้อเท็จจริงดังกล่าวมาดำเนินการตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสี่ เพื่อตรวจสอบว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีการรับเงินหรือประโยชน์ใด ๆ จากหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเป็นพิเศษ นอกเหนือไปจากที่หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจปฏิบัติต่อบุคคลอื่น ๆ ในธุรกิจการงานปกติ และ หรือ มีกระทำการใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
“อันเป็นการขัดขวางหรือแทรกแซง การใช้สิทธิหรือเสรีภาพของหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนโดยมิชอบ ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3) (4) หรือไม่ อันจะเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สิ้นสุดลงตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (7) ประกอบมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3) (4) หรือไม่” นายเรืองไกร กล่าว